รอบรั้วเมืองใต้ในหนังสือพิมพ์แนวหน้า ฉบับนี้ผู้เขียนขอเข้าเวรร่ายข่าวสังคม “ชมคนที่ควรชม ข่มคนที่ควรข่ม” ตามวิสัยคนหนังสือพิมพ์อาชีพ ที่เห็นมาอย่างไร ก็เขียนไปอย่างนั้น....ตอนที่ประกาศเป็น“ทหาร” เข้ามาเพื่อแก้ปัญหาของประเทศ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะ คสช. ก็ถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้ทำลาย“ประชาธิปไตย” และให้มีการเลือกตั้งตามโรดแมป...แต่พอมีการประกาศว่าเป็นอดีตทหาร และขณะนี้เป็นนักการเมือง“ลุงตู่” ก็ถูก ผู้คน“ก่นด่า” ว่าต้องการสืบทอดอำนาจ ของตนและของ พวกพ้อง...ที่นี่เห็นว่า ถ้า“ลุงตู่”ต้องการที่จะเป็น นักการเมือง“ลุงตู่” ต้องปฏิบัติตาม กติกา ของนักการเมืองในระบอบประชาธิปไตย ต้องตั้งพรรคการเมือง เป็นหัวหน้าพรรคเพื่อที่จะได้เสนอตัวเป็น“นายกรัฐมนตรี” ตามกติกา เพราะการประกาศว่าเป็นนักการเมือง แต่ขอเป็น“นายกฯคนนอก” เป็นการเอาเปรียบพรรคการเมืองพรรคอื่นๆ ซึ่งเป็นสิ่งที่คนไทยส่วนใหญ่รับไม่ได้ และเป็นการกระทำที่ไม่มีความ“สง่างาม” ของการเป็น“ลูกผู้ชาย” ผู้เขียนเชื่อว่า คนไทยไม่มีใคร รังเกียจ“ลุงตู่”ในการที่จะเป็น นักการเมืองและ “ตีตั๋ว” เพื่อจองตำแหน่งนายกรัฐมนตรีแต่ขอให้มาอย่างถูกต้องเท่านั้น....นี่ก็เป็นการเลือกตั้ง ไปดูปัญหาเลือกตั้ง ผู้ใหญ่บ้านที่หมู่ 3 บ้านต้นธง ต.กะโผ๊ะ อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี ซึ่งมีการแบ่งฝักแบ่งฝ่ายตั้งตนเป็น“ศัตรู”กันอย่างชัดเจน...หลังเลือกตั้งทีมที่แพ้ ร้องเรียกให้มีการสอบสวน ว่ามีการทุจริตการเลือกตั้ง ซึ่งเป็นเรื่องธรรมดาของการเลือกตั้ง แต่เป็นลักษณะ“ขี้แพ้ชวนตี” แต่ที่น่าเกลียดคือ การที่ข้าราชการ บางคน ใช้อำนาจ หน้าที่ ช่วยเหลือ พรรคพวกกันเอง จนอีกฝ่ายรู้สึกว่าไม่มีความ“ยุติธรรม” เป็นเรื่องที่เจ้าหน้าที่ ฝ่ายปกครอง ไม่ควรเป็นผู้กระทำ ข่าวว่างานนี้ แม้แต่ ภานุ อุทัยรัตน์ อดีตเลขาธิการ ศอ.บต. ปัจจุบันเป็น ผู้แทนพิเศษของรัฐบาล ก็มีชื่อในการ“เอี่ยว” กับความวุ่นวาย ของการเลือกตั้งครั้งนี้..เท็จจริง อย่างไร ปลัด สุพัฒ อ้วนเซ้ง ผู้รับผิดชอบในการใช้ความเป็นธรรมกับ ผู้ร้องและผู้ถูกต้อง เป็นผู้ทราบเรื่องดี....คงจำกันได้ วันที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี นำคณะมาประชุม ครม.นอกสถานที่ ที่ จ.ปัตตานี ศอ.บต. มีการสร้างตลาดกลางเพื่อซื้อขายสัตว์ วัว ควาย แพะ แกะ ที่ อ.หนองจิก จ.ปัตตานี และเชิญ นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในการเปิดตลาดกลาง ...แต่หลังจากวันนั้นเป็นต้นมา ตลาดกลางแห่งนี้ กลายเป็น ตลาดร้าง เป็นที่ให้ แพะอาศัย และทหารผูกเปลนอน นี่คือเรื่องราวของ“ผักชี” และเรื่องการใช้งบ“พัฒนา” เพื่อ“แหกตา” ผู้นำประเทศอย่าง“ลุงตู่”...และเรื่องอย่างนี้ ยังมีอีกมากใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้เพราะห่างจาก “ตลาดกลาง”ไม่กี่มากน้อยก็จะมีอาคารที่สร้างด้วยงบประมาณหลายร้อยล้านบาท เพื่อให้เป็นศูนย์สินค้าโอท็อป แต่สุดท้าย กลายเป็น อาคารร้าง มี แพะ เดินเพ่นพ่าน นี่ก็น่าจะเป็น“ผลผลิต” ของ ศอ.บต. เช่นกัน..และล่าสุดชาวบ้านร้องมาว่า มีตู้น้ำ“โซลาร์เซลล์” ที่ใช้การไม่ได้อยู่หลายแห่งในพื้นที่ สิ่งเหล่านี้ แม้ว่าจะไม่มีเรื่อง“เงินทอน” แต่ก็เป็นเรื่องการใช้งบประมาณที่ไม่เกิดประโยชน์ ที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ต้อง“ใส่ใจ” ไม่ใช่ปล่อยให้ ผู้บริหารหน่วยงานผลาญงบประมาณ โดยไม่เกิดประโยชน์กับประเทศ และประชาชน....ผ่านไปทางเทศบาลเมืองสำนักขาม หรือ“ด่านนอก” ชายแดนไทย-มาเลเซีย อ.สะเดา จ.สงขลา พบว่า ห้องอาหาร ในรูปแบบต่างๆ ส่วนหนึ่ง ยังกลายเป็น สถานที่“ปาร์ตี้”ยาเสพติดของชาวมาเลเซีย โดยแต่ละแห่งมี นายทุนมาเลเซีย เป็นผู้เช่า เป็นเจ้าของกิจการ มีเจ้าหน้าที่ไทย ในพื้นที่ ให้การคุ้มครอง เพื่อแลกกับผลประโยชน์ เรื่องอย่างนี้ พล.ต.ท.รณศิลป์ ภู่สาระผบช.ภ.9 ควรจะต้องใส่ใจ สั่งการให้ ผกก.สภ.สะดา จ.สงขลา ตรวจตรา และ จับกุม....ไม่กี่วันที่ผ่านมา ทหารชุด“ภัยแทรกซ้อน”จับบ่อนการพนัน“โปปั่น” ที่ อ.คลองหอยโข่ง จ.สงขลา ได้นักการพนัน ครึ่งร้อย บ่อนนี้เปิดเล่นมานาน เพราะมีนายตำรวจระดับพล.ต.ต. เปิดไฟเขียวให้เล่น และมีผู้ตั้งข้อสังเกตว่า ถ้าเป็นการ“จับจริง” บ่อนนี้ต้องปิดถาวร แต่ถ้ามีการเปิดให้เล่นอีก ก็ให้รู้ว่าเป็นการจับกุม เพื่อ“ตั้งรายการ” ก็ต้องคอยดูกันต่อไปว่าเป็นการ“จับจริง” หรือจับเพื่อขอ“ส่วย” ไม่นานก็รู้....
ปรีชา สถิตย์เรืองศักดิ์
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี