16 ม.ค.61 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 14.00 น. นพ.สามารถ ถิระศักดิ์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดพังงา ตรวจเยี่ยมศูนย์การแพทย์เขาหลัก ต.คึกคัก อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา พบกรณีนักท่องเที่ยวจมน้ำจึงร่วมกับทีมแพทย์ช่วยชีวิตเบื้องต้นด้วยการใส่ท่อช่วยหายใจ และดำเนินการส่งต่อผู้ป่วยต่อยัง รพ.ตะกั่วป่า จ.พังงา เพื่อทำการรักษาโดยทางสาธารณสุขจังหวัดพังงาได้ทำการทดสอบเรือกู้ภัยจำนวน 3 ลำ ร่วมกับทางทหารเรือ ฐานทัพเรือพังงา เพื่อใช้ในการกู้ภัยทางทะเล ในโครงการศูนย์อันดามันฮับ มีภาระหน้าที่ในการช่วยเหลือนักท่องเที่ยว ประชาชน ที่ประสบอุบัติเหตุและประสบภัยทางทะเล
ขณะที่มีการแชร์ภาพนักท่องเที่ยวจำนวนมากเดินทางเข้าหมู่เกาะสิมิลัน จนทำให้นักท่องเที่ยวแน่นเกาะ และหวั่นว่าจะทำให้ทรัพยากรธรรมชาติของหมู่เกาะสิมิลันจะสูญเสียไป อีกทั้งยังเป็นอันตรายต่อนักท่องเที่ยวที่ต้องการเดินทางเที่ยวยังหมู่เกาะสิมิลันอีกด้วย
ดร.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ นักวิชาการด้านทะเลและสิ่งแวดล้อม กล่าวในเฟสบุ๊คว่า “ผมเคยบอกเรื่องจำนวนนักท่องเที่ยวล้นทะเลไปหลายครั้งแล้ว และมีข่าวเรื่องแบบนี้อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะเกาะสิมิลัน ที่จำนวนนักท่องเที่ยวพุ่งขึ้นเรื่อย ต่อจากนี้คือการอธิบายแบบสรุปครับ
จำนวนนักท่องเที่ยวโดยรวมของประเทศไทยพุ่งสูงขึ้นตลอด จาก 34 ล้านในปีที่แล้ว จะเป็นมากกว่า 37 ล้านในปีนี้ และเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทุกปีไม่มีหยุด ในปี 2573 เราอาจมีนักท่องเที่ยวต่างชาติ 70 ล้านหรือกว่านั้น
นักท่องเที่ยวร้อยละ 75.5 ไปทะเลครับ ยิ่งจำนวนเพิ่ม สัดส่วนยิ่งเพิ่ม ปีนี้อาจมีนทท.ต่างชาติไปทะเล 28 ล้าน 3. เกาะเรามีอยู่เท่านี้ เมื่อปิดเกาะหนึ่ง ก็ไปโป่งอีกเกาะหนึ่ง วนไปเรื่อยตราบใดที่นทท.โดยรวมมีแต่เพิ่มกับเพิ่ม
เราชะลอตัวเลขโดยรวมได้ไหม ? คำตอบคือผมยังไม่เห็นแวว สนามบินภูเก็ตก็ขยาย ยังจะมีโครงการอีกหลากหลายที่ส่งนทท.มาฝั่งอันดามัน เช่น เรือสำราญ รถไฟท่องเที่ยว
ทำไมเราต้องทำเช่นนั้น ? เพราะรายได้ท่องเที่ยวเกิน 1 ใน 5 ของ gdp ประเทศนี้ ไม่มีใครกล้าขวาง
โครงการกระจายนทท.ไปเมืองรอง ฯลฯ ทำได้ไหม ? คำตอบคือได้บ้าง แต่ยังห่างไกลกับคำว่าสำเร็จหรือช่วยบรรเทาแหล่งท่องเที่ยวหลัก แล้วเราควรทำอย่างไรล่ะ ? 1. แผนปฏิรูปประเทศกำหนดดัชนีความเสียหายปะการังให้ลดน้อยลง ทุกหน่วยต้องหาทางทำให้ได้ ไม่งั้นคณะปฏิรูปคงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากทำตามที่กม.ปฏิรูประบุไว้ 2. ยุทธศาสตร์ชาติกำหนดตัวเลขเพดานจำนวนนทท.ต่างชาติไปอุทยานทางทะเล (ปัจจับัน 4.9 ล้าน เพดานที่ 6 ล้าน แต่อาจต้องปรับ) 3. คงต้องเริ่มเร่งการกำหนดเพดานนทท.ในอุทยานที่มีคนล้น เช่น พีพี สิมิลัน ฯลฯ และหาทางหยุดคนไว้ที่เพดานให้ได้ 4. ต้องยกระดับการดูแลโดยใช้เทคโนโลยีเข้าช่วย แต่ตอนนี้ยังทำไม่ได้เพียงพอ ก็ต้องใช้การกำหนดเพดานจำนวนคนไปก่อน
การดูแลผลประโยชน์ให้อยู่ในมือคนไทย และการลดความเหลื่อมล้ำ แชร์ประโยชน์ให้ใกล้เคียงกัน เป็นเรื่องต้องทำเร่งด่วน ในแผนปฏิรูปเขียนไว้แล้ว แต่ท่าทางจะช้า เราต้องจัดการอย่างเฉียบขาดกับเรือและผู้ประกอบผิดกม. โดยเฉพาะเรื่องของต่างชาติ ฝากท่านผู้ว่าพังงาด้วยครับ ส่งกำลังลงไปเสริม ตรวจให้เข้ม จัดให้หนัก ก็น่าจะดีขึ้นบ้าง 6. เรื่องเพดานนักท่องเที่ยวโดยรวม อุทยานเองก็คงทราบดี คนอุทยานที่เก่งด้านนี้ก็มีหลายคน ขึ้นกับว่าจะเอาจริงไหม กล้าต้านกระแสท่องเที่ยวหรือไม่ ?
เกาะนอกเขตอุทยาน ทะเลอยู่ในความดูแลของกรมทะเล คนก็ล้นหลายเกาะ แล้วจะทำอย่างไรดี ? กรมทะเลคงต้องเร่งหามาตรการ
สัปดาห์นี้ประชุมทะเลแห่งชาติ มีทั้งท่านรองนายกฯและท่านรมต. ผมจะเสนอประเด็นนี้ครับ การท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนเป็นถ้อยคำ แต่ถ้าคนล้นจนท่วม จะทำยังไงก็ดูแลไม่ไหว ผมเข้าใจและเห็นใจกรมอุทยาน กรมทะเลและเจ้าหน้าที่ทุกคน เราเป็นฝ่ายตั้งรับเพื่อรายได้ของชาติมาตลอด แต่เมื่อถึงจุดหนึ่ง เราก็คงตั้งรับอย่างเดียวไม่ไหว คงใกล้เวลาต้องเลือกว่าจะเอาทรัพยากรหรือจะเอาใจรายได้จากการท่องเที่ยวแล้วครับ ขอบคุณเจ้าของกระทู้ผู้ช่วยจุดประเด็นเรื่องนี้อีกครั้งครับ”
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี