19 ม.ค.61 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่นักท่องเที่ยวล้นเกาะสิมิลัน ทำให้นักวิชาการด้านสิ่งแวดล้อม เกรงว่าการท่องเที่ยวจะส่งผลกระทบกับสิ่งแวดล้อมภายในเกาะสิมิลัน ทางด้านนักท่องเที่ยวมองว่าการขยายตัวด้านการท่องเที่ยวอย่างรวดเร็วและไม่มีการควบคุมจากเจ้าหน้าที่ทำให้สภาพแวดล้อมในปัจจุบันต่างจากอดีตที่ผ่านมาพร้อมเสื่อมโทรมอย่างเห็นได้ชัด ส่วนสาเหตุทางนักท่องเที่ยวมองว่าเกิดจากปริมาณนักท่องเที่ยวจำนวนมากและไม่มีการควบคุมปริมาณนักท่องเที่ยวเหล่านี้หรือบริหารจัดการให้เหมาะสม
นางนิตยา กาญจนมัย อายุ 56 ปี นักท่องเที่ยว กล่าวว่า ปกติเมื่อเดินทางกลับมาประเทศไทยจะเดินทางลงหมู่เกาะสิมิลัน หมู่เกาะสุรินทร์ และประทับใจ ซึ่งในปีนี้ได้ชวนน้องสาวมาด้วยเนื่องจากน้องสาวไม่เคยมา แต่รู้สึกไม่ประทับใจเลย เนื่องจากไม่มีที่จะเดิน ตกใจมาก ก่อนมาได้ยินข่าวมาว่าจำนวนนักท่องเที่ยวเยอะมาก แต่ก็ไม่เชื่อจนเห็นด้วยตาตัวเอง ซึ่งนั่งเรือไปประมาณ 2 ชั่วโมง เพื่อจะแย่งกันกิน เข้าห้องน้ำต้องเบียดเสียดกัน ที่นั่งก็จะไม่มี ชายหาดเอาผ้าไปปูก็โดนเหยียบโดนถ่มน้ำลายใส่ เป็นอะไรที่เสียดายมาก โดยเฉพาะหมู่เกาะสิมิลัน เป็นอะไรที่รักมากเพราะเที่ยวมา ตั้งแต่ลูกสาวยังเล็กจนขณะนี้ลูกสาวตนเองโตเป็นสาวอายุ 20 กว่า ก็ยังเที่ยวอยู่เรียกได้ว่าเที่ยวหมู่เกาะสิมิลันเกือบทุกปี บ่อยมาก และเป็นสถานที่ที่เรารัก เราต้องการโชว์ให้รุ่นหลังได้เห็นความสวยงามตามธรรมชาติเหมือนเดิม แต่ปีนี้ไม่เห็นความสวยงามของธรรมชาติเนื่องจากคนเยอะมาก
ด้านน.ส.ภาสิริ อายุ 26 ปี นักท่องเที่ยว กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ไม่เพียงพอที่จะควบคุมดูแลทรัพยากรธรรมชาติให้อยู่เหมือนเดิม เช่น เกาะที่ไปมาเป็นเกาะที่อนุรักษ์เต่าทะเลห้ามนักท่องเที่ยวขึ้นไปทัวร์บางแห่งพาขึ้นไปและแล้วก็ทำลายทุกอย่างซึ่งไม่มีเจ้าหน้าที่มาดูแลเพราะเจ้าหน้าที่ไม่เพียงพอ ห้องน้ำก็ไม่เพียงพอถึงแม้จะมีห้องน้ำ 10-20 ห้อง มีการต่อแถวยาวมาก เบียดแย่งกันเข้าห้องน้ำ นักท่องเที่ยวที่เดินทางกับเรือเข้าหมู่เกาะสิมิลันแบบแน่นเรือ ทรัพยากรธรรมชาติที่สวยงามเช่นอดีตไม่มีอะไรเหลือแล้ว เช่น ปลา ปะการัง จากที่เดินทางบ่อยไปเที่ยวมาก็หลายประเทศเรียกได้ว่าทรัพยากรประเทศไทยสวยที่สุด ต้องการให้ภาครัฐหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลดจำนวนนักท่องเที่ยว หรือ ปิดเกาะพักฟื้น ทางญาติที่เดินทางมาด้วยกันดำน้ำเก็บขยะขึ้นมา และบ่นให้ฟังว่าไม่เหมือนที่พูดไว้ก่อนเดินทางเข้ามาและแย่กว่าบางประเทศที่เคยไปเที่ยวมาด้วยซ้ำ
ส่วนนางภัทรา ซาตั้น อายุ 48 ปี กล่าวว่า ไม่ประทับใจเลย สิ่งที่พี่สาวพูดมาไม่เป็นความจริงเลย เห็นแต่คนที่ต่างภาษากับเราซึ่งไม่ช่วยกันรักษาสิ่งแวดล้อม และมองว่าเจ้าหน้าที่มีการประชาสัมพันธ์ หรือการแจ้ง ตักเตือน และเข้มงวดให้ทราบเพื่อให้ปฏิบัติตัวให้ถูกต้อง ตนเองมองว่าปัจจุบันนี้หมู่เกาะสิมิลันเป็นลักษณะธุรกิจมากกว่า เอาจำนวนปริมาณมากๆไว้ก่อน จุดกินอาหารก็ไม่ประทับใจ ไม่มีคิว ไม่เข้าแถว ไม่โทษใครแต่ต้องการจัดระบบให้ดีขึ้นกว่าที่เป็นอยู่ เช่น ปะการังกว่าจะเกิดขึ้นแต่นักท่องเที่ยวเหยียบเสร็จแล้วก็ไปและทิ้งไว้เหมือนขยะถ้าดูอย่างนี้แล้วไม่เกิน 1 ปี เช่นเดียวกันนักท่องเที่ยวหลายๆคนหลายๆประเทศก็รู้สึกไม่ประทับใจเช่นกัน เราะที่เห็นวันนี้ไม่มีอะไรเหลือที่สมบูรณ์แล้ว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง : อนาคตของทะเลที่มืดดำ ความหวังที่เลือนราง 'ดร.ธรณ์'เปิดทางออกนทท.ล้นเกาะ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี