ดีเอสไอประชุมนัดแรกหลังรับสำนวนคดีค้ากามวิคตอเรียซีเครทจากสตช. ยัน"เสี่ยกำพล"ยังอยู่ไทย ขณะ"ชูวิทย์"งัดหลักฐานภาพถ่าย"กำพล-เมีย"เป็นเจ้าของจริง
22 ม.ค.61 จากกรณีที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) สนธิกำลังกับกรมการปกครอง และหลายหน่วยงาน เข้าตรวจค้นสถานบริการอาบอบนวด "วิคตอเรียซีเครท" ภายในซอยศูนย์วิจัย 4 ถนนพระราม 9 แขวงบางกะปิ เขตห้วยขวาง กทม.เมื่อวันที่ 12 ม.ค.ที่ผ่านมา หลังพบข้อมูลเด็กสาวชาวพม่าถูกนำมาเปิดบริสุทธิ์ในเมืองไทย ก่อนถูกบังคับให้ค้าประเวณีที่สถานบริการแห่งนี้ และขณะนี้ น.ส.ศศิธร วิระเทพสุภรณ์ อายุ 45 ปี เจ้าของห้างหุ้นส่วนจำกัด อมรินทร์ออนเซน และกรรมการผู้ขอใบอนุญาตเปิดสถานอาบอบนวดวิคตอเรียซีเครท ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ที่ 78/2561 ลงวันที่ 16 ม.ค.61 คดีร่วมกันค้ามนุษย์ ได้ถูกนำตัวไปฝากขังทัณฑสถานหญิงกลาง เมื่อเย็นวันที่ 17 ม.ค.นั้น
ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อเวลา 11.00 น.ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ถนนแจ้งวัฒนะ นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตเจ้าของสถานบริการอาบอบนวดแห่งนี้ ได้เดินทางมา เพื่อพบ พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีดีเอสไอ และ พ.ต.อ.ทรงศักดิ์ รักศักดิ์สกุล รองอธิบดีดีเอสไอ ในฐานะหัวหน้าชุดลุยคดีวิคตอเรียซีเครท
ทั้งนี้ ก่อนที่จะมีการแถลงข่าวของดีเอสไอ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายชูวิทย์ ได้นำเอาแทบเล็ตมาเปิดหลักฐานภาพถ่ายสองสามีภริยา คือ นายกำพล และนางนิภา วิระเทพสุภรณ์ พร้อมทั้งลูกชาย ได้ถ่ายภาพภายในอาบอบอวดดังกล่าว โดยนั่งอยู่บนโซฟา และมีกลุ่มพนักงานบริการหญิงนั่งอยู่ที่พื้นยกมือไหว้ ถัดข้างหลังเป็นภาพเขียนให้รู้ว่าเป็นการจัดงานเทศกาลปีใหม่ เพื่อยืนยันว่าทั้งคู่คือเจ้าของที่แท้จริง ไม่ใช่ น.ส.ศศิธร ที่ถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำในตอนนี้
"หากคนไม่ใช่เจ้าของพนักงานจะไหว้ขนาดนี้เหรอ ซึ่งนายกำพล เป็นผู้ต้องหาคดีค้ามนุษย์ ผิดก็ต้องยอมรับผิด ตนผิดยังยอมรับผิดเลย ที่ออกมาให้ข้อมูลกับตำรวจ และดีเอสไอ เพราะนายกำพล ค้ามนุษย์ นำเด็กสาวอายุ 12 - 18 ปี มาค้าประเวณี ซึ่งเด็กอายุ 12 ปี ถ้าลบเครื่องสำอางออก มันก็หน้าตาเด็กๆ ตนเห็นแล้วคิดถึงลูกสาวเลย ไม่น่าทำมาหากินแบบนี้เลย ถึงตนจะเคยทำอาบอบนวด แต่ที่ทำเพราะตนเป็นคนชอบเที่ยว แต่ไม่เคยเอาเด็กสาวมาทำแบบนี้" นายชูวิทย์ กล่าว
พร้อมกันนี้ นายชูวิทย์ เปิดเผยด้วยว่า ได้นำรายชื่อผู้ถือหุ้นในบริษัทที่เกี่ยวข้องกับอาบอบนวดวิคตอเรียซีเครทมาให้ดีเอสไอด้วย และยังได้กล่าวเพิ่มเติมอย่างมีอารมณ์ ว่า "นายกำพลจะใช้วิธีเหมาเด็ก หรือตกเขียว โดยปล่อยเงินกู้ให้พ่อแม่เด็กและให้นำลูกสาวมาใช้หนี้คืน โดยไปรับตัวเด็กๆ ครั้งละหลายๆ คน แบบเหมายกเข่ง ลูกน้องนายกำพล ชื่อ "ป๋ากบ" กับ "นายติ๊ก" ตัวดีเลย เป็นเอเย่นต์ เหมาเด็กมา โดยมีการวางแผนจะเปลี่ยนให้นายติ๊ก มีชื่อเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ แต่ไม่ทัน อาบอบนวดโดนบุกทลายเสียก่อน การทำแบบนี้เข้าข่ายองค์กรอาชญากรรม ซึ่งนายกำพล รู้จักผู้หลักผู้ใหญ่เยอะมาก ผมกลัวว่าเรื่องจะเงียบจึงออกมาให้ข้อมูล ขอฝากเตือนผู้ใหญ่ในบ้านเราที่เชียร์นายกำพล ระวังตัวกันไว้นะครับ เพราะหนุนคนผิด อยากบอกว่านายกำพล หนีไปเถอะครับ หากไม่หนีถูกดำเนินคดียาวแน่"
ต่อมาเวลา 12.00 น.ที่ผ่านมา พ.ต.อ.ไพสิฐ เปิดเผยหลังการประชุม ว่า พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรี และรมว.ยุติธรรม ได้ให้นโยบายว่า ให้ดำเนินคดีเต็มที่เป็นไปตามพยานหลักฐาน อย่างตรงไปตรงมา ขณะนี้พนักงานสอบสวนดีเอสไอ กำลังตรวจสอบสำนวน เอกสาร และหลักฐานทั้งหมด ที่รับมอบจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) โดยจะตรวจสอบว่ามีการสอบปากคำ พยาน ผู้ต้องหา ครบถ้วนหรือไม่ และหลักฐานในการออกหมายจับผู้ต้องหานั้นสมบูรณ์ตามกระบวนการหรือไม่ เนื่องจากสำนวนคดีกว่า 3,500 แผ่น นอกจากนี้ จะตรวจสอบข้อมูลตามที่สื่อมวลชนนำเสนอข่าวมาพิจารณา
"ส่วนการตรวจสอบเส้นทางการเงินของกลุ่มผู้ต้องหา และกลุ่มรายชื่อเจ้าหน้าที่ ได้ประสานสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) และสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) ดำเนินการแล้ว ส่วนเรื่องตามจับกุมตัวนายกำพล และผู้ต้องหารายอื่นๆ ได้ประสานไปยังสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) แต่ยังไม่พบว่ามีการหลบหนีออกนอกประเทศทางช่องทางปกติ หลังจากนี้จะมีการเชิญตัวแทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการบุกจับกุมสถานอาบอบนวดวิคตอเรียซีเครท อาทิ ฝ่ายปกครอง , กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) และพนักงานอัยการ เป็นต้น ให้เข้ามามีส่วนร่วมในคณะพนักงานสอบสวน และจะมีการประชุมหารือกันตลอด หากมีอะไรคืบหน้าจะมีการแถลงข่าวให้ทราบทันที" พ.ต.อ.ไพสิฐ กล่าว
ด้าน พ.ต.อ.ทรงศักดิ์ กล่าวว่า ส่วนเรื่องประเด็นจะเชิญตัวนายชูวิทย์ มาให้เป็นพยาน เพื่อข้อมูลกับเจ้าที่หรือไม่นั้น ขณะนี้คณะพนักงานสอบสวนกำลังพิจารณาว่ามีประโยชน์มากน้อยต่อคดีนี้เพียงใด
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี