กลุ่มก่อความไม่สงบใต้ใช้รถ จยย.บอมบ์ตลาดสดรถไฟ กลางเมืองนครยะลาเสียชีวิต 3 รายเจ็บระนาว "บิ๊กตู่" แสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น สั่งเร่งเยียวยาครอบครัวผู้สูญเสีย จี้ จนท.ล่าตัวคนร้ายมาดำเนินคดี โฆษกภาค 4 ชี้คนร้ายกลุ่มเดิมต้องการสร้างสถานการณ์ให้ประชาชนกลัว ด้าน มทภ.4 เผยรู้ตัวคนร้ายแล้ว ขณะที่พ่อค้าแม่ค้าเล่านาทีระทึกเหตุบึ้ม จวกรัฐยับไม่เคยจับโจรได้เลย
22 ม.ค.61 เมื่อเวลา 06.15 น.ศูนย์วิทยุ สภ.เมืองยะลา ได้รับแจ้งเกิดเหตุระเบิดขึ้นภายในตลาดสดรถไฟ (ตลาดพิมลชัย) เขตเทศบาลนครยะลา มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก จึงแจ้ง ร.ต.ท.เอกพงศ์ รัตนชัย พนักงานสอบสวน สภ.เมืองยะลา พร้อมประสานเจ้าหน้าที่กู้ภัยและเจ้าหน้าที่เก็บกู้วัตถุระเบิด ภ.จว.ยะลา เข้าตรวจสอบในที่เกิดเหตุ
ที่เกิดเหตุอยู่บริเวณตลาด 2 หน้าแผงขายหมู ซอย 3 พบมีผู้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ 2 ราย ส่วนผู้บาดเจ็บมีเป็นจำนวนมากส่วนใหญ่เป็นแม่ค้าและประชาชนที่มาจ่ายตลาด เจ้าหน้าที่กู้ภัยจึงได้ช่วยกันลำเลียงส่งโรงพยาบาลยะลา แต่เมื่อไปถึงโรงพยาบาลได้มีผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 1 ราย รวมเสียชีวืต 3 ราย ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บมีทั้งหมด 28 รายล่าสุดพักรักษาตัวอยู่โรงพยาบาลศูนย์ยะลา 7 ราย
แพทย์อนุญาตให้กลับบ้านได้แล้ว21ราย
จากการเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุของเจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้ระเบิด ภ.จว.ยะลา พบเศษซากของรถจักรยานยนต์ แต่ยังไม่ทราบยี่ห้อและหมายเลขทะเบียนอยู่ในสภาพพังยับเยินจากแรงระเบิด รวมทั้งเศษแผงวงจรอิเล็กทรอนิคส์เศษสายไฟ เหล็กเส้นตัดขนาด 1 ซ.ม. กระจายอยู่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน เบื้องต้นเชื่อว่าเป็นระเบิดแสวงเครื่องที่คนร้ายนำมาบรรจุในรถจักรยานยนต์ มีน้ำหนักไม่ต่ำกว่า 15 กก.ที่จะนำมาจอดที่หน้าแผงขายเนื้อหมู แล้วจุดชนวนระเบิดดังกล่าว
สอบสวนผู้เห็นเหตุการณ์ทราบว่า ก่อนเกิดเหตุมีชายวัยรุ่นมุสลิม ขี่รถ จยย.คันดังกล่าว มาจอดที่หน้าแผงขายเนื้อหมู โดยเจ้าของร้านได้ตะโกนเรียกชายวัยรุ่นให้เลื่อน จยย.ออกไปเพราะจอดขวางหน้าร้าน โดยชายวัยรุ่นคนดังกล่าวได้เดินหนีไป จากนั้นเจ้าของแผงขายเนื้อหมู จึงได้เดินไปที่รถคันดังกล่าวเพื่อเลื่อนรถออกและในขณะกำลังจะเลื่อนรถก็เกิดระเบิดขึ้น เป็นเหตุให้เจ้าของร้านเสียชีวิตทันที และยังมีชายอีกคนซึ่งขับขี่รถจักรยานยนต์อยู่ใกล้จุดเกิดเหตุเสียชีวิตอีกราย
พ่อค้าแม่ค้าเล่านาทีระทึกเหตุบึ้ม
ขณะที่พ่อค้าแม่ค้าที่ประกอบการค้าอยู่ในตลาดพิมลชัย ได้เล่าเหตุการณ์ให้ฟัง โดยแม่ค้าขายของเล่าว่า ออกมายืนอยู่ปากทางเข้าซอยที่เกิดเหตุได้สักพักหนึ่ง ก็เกิดเสียงระเบิดดังขึ้น แล้วสักพักก็ไฟฟ้าดับลง ตนถูกสะเก็ดระเบิดที่บริเวณขาเล็กน้อย เนื่องจากมีเสาปูนบังอยู่ จึงรอดจากเหตุการณ์นี้มาได้อย่างหวุดหวิด
แม่ค้าขายของอีกรายซึ่งอยู่ตรงข้ามซอยจุดเกิดเหตุ เล่าว่า กำลังจัดเตรียมสิ่งของเพื่อขายในตอนเช้า สักพักก็เกิดระเบิดขึ้น ควันโขมงไปหมด ตนสำรวจร่างกายถูกสะเก็ดระเบิดเพียงเล็กน้อยที่ขา และโชคดีที่ในกระเป๋าเสื้อกันเปื้อนใส่ธนบัตรไว้ สะเก็ดระเบิดถูกธนบัตรฉีกขาด แต่ไม่มีบาดแผลตามตัว
นายวุฒิประยูร ศรีของไทย พ่อค้าขายน้ำชา เล่าว่า ตนกำลังจัดร้านเพื่อขายของอยู่ จากนั้นก็ได้ยินเสียงระเบิดดังขึ้น แล้วก็มีเสียงชาวบ้านร้องตะโกนให้ช่วยเหลือกัน ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในตลาดสดพิมลชัย มีมาหลายครั้งแล้ว และต่างหาข้อแก้ไขกัน เช่น ไม่ให้นำรถจักรยานยนต์เข้ามาในตลาด แต่ก็ไม่ได้รับความร่วมมือ และเกิดข้อขัดแย้งกัน แม้จะมีการตรวจตราดูแลความปลอดภัยเข้มงวดแล้วก็ตาม เชื่อว่าหลังจากนี้ต้องมีการหารือในการแก้ไขปัญหากันใหม่ เพื่อเป็นการระวังป้องกันเหตุต่อไป
พ่อค้าในตลาดจวกรัฐไม่เคยจับโจรได้เลย
นายพิชิต วิไลอัญชลี พ่อค้าเมืองยะลา กล่าวว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นสร้างความบอบช้ำให้กับชาวยะลาอีกครั้ง หลังจากเหตุการณ์คนร้ายลอบวางระเบิดภายในตลาดสดยะลา และครั้งนี้เป็นครั้งที่ร้ายแรงกว่าทุกครั้งเพราะมีผู้เสียชีวิตถึง 3 ราย บาดเจ็บอีกจำนวนมาก ส่วนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้น ตนเองอยากจะฝากบอกผู้เกี่ยวข้อง ให้ดำเนินการจับกุมคนร้ายที่ก่อเหตุมาดำเนินการโดยเร็ว เพื่อให้ประชาชนได้มั่นใจว่าเจ้าหน้าที่เอาจริงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และจับกุมคนร้ายได้จริง
"ที่ผ่านมาไม่เคยจับคนร้ายที่ก่อเหตุลอบวางระเบิดภายในตลาดสดได้เลย แล้วเรื่องก็เงียบหายไป แต่ครั้งนี้ขอให้เจ้าหน้าที่จับคนร้ายมาให้ได้โดยเร็ว และนำตัวคนร้ายมาแถลงข่าวให้ประชาชนได้รับทราบด้วย เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจให้กับประชาชนและเชื่อมั่นในเจ้าหน้าที่มากขึ้น"
"โฆษกภาค4"ชี้คนร้ายกลุ่มเดิม
หลังเกิดเวลา 08.30 น. พ.อ.ปราโมทย์ พรหมอินทร์ โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ได้แถลงข่าวที่จุดเกิดเหตุว่าจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นการสร้างสถานการณ์ของกลุ่มคนร้ายกลุ่มเดิมๆ เพื่อหวังสร้างความหวาดกลัวให้กับประชาชน
พ.อ.ปราฏมทย์ กล่าวต่อวว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทางรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมได้สั่งการให้แม่ทัพภาคที่ 4 ดูแลและดำเนินการต่อผู้กระทำผิดโดยเร็ว ซึ่งหลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดโดยรอบที่เกิดเหตุ รวมทั้งเส้นทางต่างๆโดยรอบ ก็พอทราบเบาะแสของคนร้ายในเบื้องต้น
"ส่วนการช่วยเหลือผู้บาดเจ็บทางจังหวัดก็ได้ดำเนินการอย่างรวดเร็ว โดยได้ตั้งโต๊ะบริเวณใกล้จุดเกิดเหตุ เพื่อให้ผูที่ได้รับผลกระทบสิ่งของเสียหายมาแจ้งให้ทางเจ้าหน้าที่ได้รับทราบ เพื่อที่จะได้ให้การช่วยเหลือต่อไป"
"มทภ.4"เผยรู้ตัวกลุ่มคนร้ายบึ้มแล้ว
พล.ท.ปิยวัฒน์ นาควานิช แม่ทัพภาค 4 (มทภ.4) ได้กล่าวขอโทษชาวบ้านหลังเกิดเหตุการณ์ขึ้น โดยระบุว่า แม้เจ้าหน้าที่จะเข้มงวดเรื่องการรักษาความปลอดภัย แต่ยอมรับว่าบางครั้งอาจจะมีช่องว่างบ้าง จึงทำให้กลุ่มคนร้ายสบโอกาสในการลงมือ พร้อมประณามกลุ่มผู้ก่อเหตุที่กระทำการรุนแรง และสร้างปัญหาในพื้นที่ว่าเป็นกลุ่มบุคคลไม่ดี โดยขณะนี้ เจ้าหน้าที่พอรู้ตัวแล้วว่าเป็นใครคาดว่าน่าจะเป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่ แต่จะต้องตรวจสอบพยานหลักฐาน รวมถึงภาพจากกล้องวงจรปิดอย่างละเอียดอีกครั้ง
มทภ.4 กล่าวว่า สาเหตุของการสร้างสถานการณ์น่าจะมาจากปมเรื่องธุรกิจมืดและน่าจะเป็นฝีมือของคนบางตระกูล ที่เกี่ยวข้องกับการก่อเหตุรุนแรงอยู่แล้ว เนื่องจากหากภาพลักษณ์ของ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ยังคงดูรุนแรงและน่ากลัว ก็จะทำให้กลุ่มธุรกิจไม่กล้าเข้าไปลงทุน ซึ่งก็จะส่งผลดีกับกลุ่มธุรกิจมืดบางกลุ่ม ที่อาศัยภาพความรุนแรงดังกล่าวในการหากิน
"บิ๊กตู่"เสียใจเหตุบึ้ม-ประณามโจรใต้!
พล.ต.พีรวัชฌ์ แสงทอง โฆษก กอ.รมน.กล่าวว่าถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ในฐานะผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (ผอ.รมน.) ขอแสดงความเสียใจต่อญาติและครอบครัวของผู้ที่ได้รับการสูญเสียและได้รับผลกระทบจากการกระทำของคนร้าย ที่มีจิตใจไร้มนุษยธรรมและล่วงละเมิดสิทธิมนุษยชน เป็นการทำร้ายต่อประชาชนที่ประกอบอาชีพสุจริต และใช้วิถีชีวิตตามปกติดั่งเช่นสังคมทั่วไป
สั่งเร่งเยียวยาครอบครัวผู้สูญเสียด่วน
โฆษก กอ.รมน. กล่าวอีกว่า ผอ.รมน.ได้มีความห่วงใยต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมทั้งได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งรีบดำเนินการช่วยเหลือเยียวยาแก่ครอบครัวผู้ที่ได้รับการสูญเสียอย่างเร่งด่วนและให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการติดตามจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายโดยเร็ว
"จากนโยบายต่างๆ ของรัฐบาลที่จะทำให้จังหวัดชายแดนภาคใต้ มีความมั่นคงเข้มแข็ง สังคมมีสันติสุข ประชาชนมีรายได้ ทุกครัวเรือนมีคุณภาพชีวิตที่ดี ซึ่งจากการดำเนินการที่ผ่านมาวิถีชีวิตของประชาชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นมาตามลำดับ แต่การกระทำของกลุ่มคนร้ายในครั้งนี้เพื่อบั่นทอนสภาพของสังคมให้เกิดความหวาดระแวงและขาดความเชื่อมั่นต่ออำนาจรัฐ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) จึงขอให้ประชาชนทุกคนจงเชื่อมั่นการทำงานของเจ้าหน้าที่ภาครัฐทุกหน่วยงาน ที่จะทำงานอยู่เคียงข้างประชาชน เพื่อให้จังหวัดชายแดนภาคใต้ มีความเจริญรุ่งเรืองมีสันติสุขอย่างมั่นคงถาวรตลอดไป" พล.ต.พีรวัชฌ์ กล่าว
"สงขลา"คุมเข้มหวั่นซ้ำรอยตลาดยะลา
หลังเกิดเหตุระเบิดในพื้นที่ จ.ยะลา ทำให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองและความมั่นคงได้เพิ่มมาตรการดูแลรักษาความปลอดภัยเข้มงวดมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะในพื้นที่ย่านเศรษฐกิจ การค้าใจกลางเมืองหาดใหญ่ จ.สงขลา ร่วมทั้งตรวจสอบรถต้องสงสัยที่ถูกนำมาจอดในย่านการค้าและสิ่งของต้องสงสัยต่างๆ เพื่อป้องกันการเหตุลอบวางระเบิดซ้ำ รวมทั้งด่านตรวจด้านความมั่นคงทั้ง 3 แห่งก็สแกนรถขาเข้าเมืองหาดใหญ่อย่างละเอียด เช่นเดียวกับในพื้นที่อำเภอชายแดน อ.จะนะ อ.เทพา อ.นาทวี อ.สะบ้าย้อย และ อ.สะเดา ก็มีการสั่งการให้เฝ้าระวังเช่นกัน
เผยหน่วยข่าวเตือนแล้วให้ระวัง20-26ม.ค.
สำหรับสถานการณ์ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ทางหน่วยข่าวได้มีการแจ้งเตือนล่วงหน้าให้เฝ้าระวังการก่อเหตุรุนแรงระหว่างวันที่ 20-26 ม.ค.61 ทั้งในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้รวมทั้ง จ.สงขลาด้วยมาก่อนหน้านี้แล้ว หลังจากทราบความเคลื่อนไหวว่า กลุ่มของนายบูคอรี หลำโสะ แกนนำกลุ่มก่อการร้ายเตรียมการก่อเหตุร้ายอีกครั้ง
กสม.ประณามโจรใต้วางบึ้มฆ่าผู้บริสุทธิ์
นางฉัตรสุดา จันทร์ดียิ่ง กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) เผยถึงกรณีดังกล่าวว่า ขอแสดงความเสียใจเป็นอย่างยิ่งต่อผู้ที่เสียชีวิต ผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ รวมไปถึงครอบครัวของบุคคลดังกล่าว ตลอดจนความห่วงใยในสวัสดิภาพของประชาชนในพื้นที่ และขอประณามการกระทำของผู้ก่อเหตุการณ์ความรุนแรงที่โหดร้ายไร้มนุษยธรรม ผิดต่อกฎหมาย ละเมิดสิทธิมนุษยชน และหลักมนุษยธรรมซึ่งเป็นหลักสากลที่ทุกฝ่ายต้องยึดถือ
นางฉัตรสุดา กล่าวเพิ่มเติมว่า กสม.ในฐานะมีหน้าที่ส่งเสริมการปฏิบัติและปกป้องสิทธิมนุษยชน จึงเสนอให้ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการสืบสวนสอบสวนหาตัวผู้กระทำความผิดมาดำเนินตามกฎหมายอย่างรวดเร็ว รวมถึงเพิ่มมาตรการรักษาความสงบเรียบร้อยแก่ประชาชนในพื้นที่ให้เข้มงวดมากขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มเด็ก สตรี และประชาชนผู้บริสุทธิ์ ต้องได้รับการคุ้มครอง เพื่อให้เกิดความรู้สึกปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน และร่วมกันเฝ้าระวังป้องกันเหตุการณ์ความรุนแรง เพื่อเรียกความเชื่อมั่นให้กับประชาชนในพื้นที่
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี