รอบรั้วเมืองใต้ในหนังสือพิมพ์แนวหน้า ฉบับนี้ผู้เขียนขอเข้าเวรร่ายข่าวสังคม “ชมคนที่ควรชม ข่มคนที่ควรข่ม” ตามวิสัยหนังสือพิมพ์อาชีพ ที่เห็นมาอย่างไร ก็เขียนไปอย่างนั้น....การเลื่อนการเลือกตั้งจากปลายปี 2561 เป็นต้นปี หรือกลางปี 2562 ไม่ว่าจะเป็นการทำตาม“ใบสั่ง” ของใคร หรือ ทำไปเพราะ ห้วงเวลาในการเลือกตั้ง ต้องให้พรรคการเมือง มีการเคลื่อนไหว จัดกิจกรรมการเมืองได้....แต่วันนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ หัวหน้า คสช. กลายเป็น“หมู่บ้านกระสุนตก” เป็นที่เรียบร้อยแล้ว...และนับวันเรื่องนี้ ก็ยิ่งกลายเป็นประเด็น“การเมือง” ที่“แหลมคม” ที่จะ“ทิ่มแทง” พล.อ.ประยุทธ์ เพื่อให้สังคมทั้งในบ้านเมืองเราและต่างชาติ เห็นว่า“ลุงตู่” ต้องการสืบทอดอำนาจ โดยการใช้ อำนาจในการยืดเวลาการเลือกตั้ง ไม่ให้เป็นไปตาม“โรดแมป” เพื่อให้เวลากับพรรคการเมืองใหม่ ที่จะหนุน “ลุงตู่” ให้เป็นนายกคนนอก มีเวลาในการตั้งพรรคการเมือง ได้สำเร็จ...โดยเฉพาะ “ศัตรู”หมายเลข 1 ของ“ลุงตู่” คือพรรคการเมืองเก่าแก่ พรรค ประชาธิปัตย์ ที่ทั้งหัวหน้าพรรค และลูกพรรคดาหน้าออกมาถล่ม “ลูงตู่” จนเปียกปอน ศึกครั้งนี้ ใหญ่หลวงนัก เกินกว่าที่ “ลุงกำนัน” จะช่วยได้....หลังจากที่ ดีอกดีใจกับและเชื่อมั่นว่า “บีอาร์เอ็น” ไม่มีพิษสงแล้ว ระเบิดที่ตลาดพิมลชัยที่ “ตูม” สนั่นหวั่นไหว พร้อมทั้ง“ปลิดชีพ” ผู้บริสุทธิ์ จำนวน 3 ศพ และบาดเจ็บครึ่งร้อย ก็น่าจะเป็นคำตอบที่พอเพียง สำหรับ พล.ท.ปิยวัฒน์ นาควานิช แม่ทัพภาคที่ 4 และ ผอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ว่าเหตุการณ์ในพื้นที่ยังเป็นฝีมือของ บีอาร์เอ็น...เชื่อว่า กลุ่มผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ ได้เพียงการเรียกค่าคุ้มครอง มือปืนรับจ้างแต่จะให้เก่งขนาดฝึกคนเข้าสู่ ขบวนการเพื่อก่อการร้าย ยังไม่ใช่อย่างแน่นอน....เพราะ กลุ่มผู้มีอิทธิพลในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ไม่ได้เก่งกล้าขนาดนั้น ที่ดำรงอยู่ได้ เพราะมี คนใน“เครื่องแบบ” ให้ความร่วมมือ เพราะมีการแบ่งผลประโยชน์กันลงตัวเท่านั้น....ระเบิดที่ตลาดพิมลชัย ครั้งนี้เป็นการบ่งบอกให้รู้ว่า แนวป้องกันในเรื่อง“เซฟตี้โซน” ของ เขตเทศบาลนครยะลาวันนี้ มี“รูรั่ว” ให้ “แนวร่วม” ในพื้นที่ สามารถหลุดรอดเข้ามาเพื่อก่อการร้ายได้ผล เป็นเรื่องที่ฝ่ายความมั่นคง ต้องเร่งในการป้องกัน รวมทั้งพื้นที่อื่นๆ ทั้ง เขตเทศบาลเมือง ปัตตานี และ นราธิวาส หวังว่าคงจะไม่เกิดเหตุร้ายขึ้นในพื้นที่ เขตเทศบาลทั้ง 2 แห่ง....แต่ที่ เสีย“รังวัด” อย่างแรง คงไม่พ้น พล.ท.ปิยวัฒน์ นาควานิช แม่ทัพภาคที่ 4 เพราะเพิ่งจะให้ สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวมาเลเซีย ไปได้แค่ 2 วัน ว่าสถานการณ์ความรุนแรงลดลงถึง 95 และขบวนการบีอาร์เอ็น และพูโล เป็นเพียงเรื่องในอดีต เพราะวันนี้ขบวนการเหล่านี้ไม่แล้ว จึงชวนให้สงสัยว่า เหตุ “บึ้ม” ที่ตลาดพิมลชัย เป็นเพราะ บีอาร์เอ็น“หมั่นใส้” จึงก่อเหตุ เพราะยืนยัน“ตัวตน” ว่ายังมี และยังมีศักยภาพในการก่อเหตุ....ก็คงจะเป็นหน้าที่ของ พล.ท.รณศิลป์ ภู่สาระ ผบช.ภ.9 ในการคลี่คลายคดีว่าเรื่องที่เกิดขึ้น มาเรื่องของตระกูลดัง สร้างสถานการณ์ หรือเป็นการลงมือของ“แนวร่วม” ในสังกัดของ บีอาร์เอ็น จริงหรือไม่....และที่สำคัญถ้า บีอาร์เอ็น ไม่มีแล้ว ตามที่ แม่ทัพภาคที่ 4 ให้สัมภาษณ์ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จะต้องสั่งการให้ พล.อ.อักษรา เกิดผล หัวหน้าคณะพูดคุย ยุติการ“พูดคุยสันติภาพ” กับ “มาราปาตานี” ในทันที เพราะเป็นการ“หลงทาง” และเป็นการ“ผลาญงบประมาณ” ซึ่งเป็นภาษีของประชาชนทั้งประเทศ....
ปรีชา สถิตย์เรืองศักดิ์
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี