แฉชู้รักรักสาวไทยฆ่าเผานั่งยางเคยเป็นสไนเปอร์ในกองทัพฝรั่งเศส ยังปากแข็งปัดไม่รู้เรื่อง ขณะที่ตำรวจคาดส่อมีผู้ร่วมทีมสังหารโหดอีก
ความคืบหน้าการติดตามไล่ล่า น.ส.รุธจิรา เอี่ยมละม้าย อายุ 38 ปี สาวไทย และนายอาโมรี ริโก ชาวฝรั่งเศส อายุ 34 ปี ซึ่งเป็นชู้รัก ผู้ต้องหาร่วมกันก่อคดีสะเทือนขวัญฆ่าเผานั่งยาง นายจูเซปเป เดอ สเตฟานี ชาวอิตาลี วัย 61 ปี ก่อนเผ่นหนีหัวซุกหัวซุน จนช่วงหัวค่ำวันที่ 28 ม.ค.61 ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตามแกะรอยจนบุกชาร์จจับ นายอาโมรี ได้ที่ชายป่าข้างลำธารคลองวังเจ้า อ.คลองลาน จ.กำแพงเพชร เขตรอยต่อ อ.วังเจ้า จ.ตาก ส่วน น.ส.รุธจิรา หนีรอดไปได้อย่างหวุดหวิด ก่อนที่วันนี้(29 ม.ค.61) จะถูกจับกุมได้ขณะปีนขึ้นไปหลบอยู่บนต้นไม้นั้น
ล่าสุด พล.ต.ต.ธวัชชัย มวญนรา ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด(ผบก.ภ.จว.) พิจิตร กล่าวว่า จากการสอบสวนนายอาโมรี ยังคงให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา โดยอ้างว่าไม่ทราบว่านายจูเซปเป อยู่ในพื้นที่และไม่มีส่วนรู้เห็นกับการฆาตกรรมที่เกิดขึ้น แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจมีหลักฐานที่ค่อนข้างชัดเจน โดยเฉพาะยางที่นำมาใช้ในการเผานั่งยาง ซึ่งเป็นยางที่มีผู้ยืนยันได้ว่าเป็นยางนำมาจากบ้านที่นายอาโมรีเช่าอยู่ในเขต ต.ทุ่งใหญ่ อ.โพธิ์ประทับช้าง ซึ่งเป็นพื้นที่ติดต่อกันกับที่เกิดเหตุ และมั่นใจว่าจะมีผู้ร่วมลงมือสังหารในครั้งนี้ด้วย แต่จะมีกี่รายและใครบ้าง เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังเร่งขยายผลติดตามอยู่ในขณะนี้
รายงานข่าว แจ้งว่า สำหรับนายอาโมรี ประวัติเคยเป็นสไนเปอร์ในกองทัพฝรั่งเศส เคยรับราชการทหารเป็นเวลา 5 ปี จึงมีความชำนาญในการดำรงชีพในป่า ซึ่งเป็นเหตุผลที่ผู้ต้องหาทั้ง 2 รายหลบหนีเข้าไปอาศัยในป่า เพราะมั่นใจว่าจะหลบหนีการจับกุมได้ แต่สุดท้ายก็ไม่รอดฝีมือของตำรวจไทย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี