5 ก.พ.61 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พบเด็กหญิงวัย 10 ปี นร.ชั้น ป.4 ร.ร.บ้านชัยศรี ต.คำใหญ่ อ.ห้วยเม็ก จ.กาฬสินธุ์ ป่วยโรคสะเก็ดเงินทั่วร่างกายเจ็บปวดทรมานตั้งแต่กำเนิด ขณะที่พ่อป่วยโรคสมองเสื่อม มีเพียงกำลังของแม่ที่มีอาชีพรับจ้างหาเงินจุนเจือครอบครัว ด้านอำเภอเข้าสำรวจหาทางช่วยเหลือ พบเป็นผู้มีฐานะยากจน

นายสุเทพ ชัยวัฒน์ นายอำเภอห้วยเม็ก จ.กาฬสินธุ์ พร้อมด้วย ดร.สมพงษ์ โรจน์ภัทรพงศ์ ผู้อำนวยการ สพป.กาฬสินธุ์ เขต 2 นางสมคิด สุทธิพรม ประธานมูลนิออทิสติกไทย สาขา จ.กาฬสินธุ์ นายยุทธศาสตร์ ภูวิชัย ผอ.รพ.สต.บ้านคำใหญ่ เข้าเยี่ยมบ้าน ด.ญ.อลิตา ตาดำ หรือน้องจอย อายุ 10 ปี นักเรียนโรงเรียนบ้านชัยศรี ต.คำใหญ่ อ.ห้วยเม็ก จ.กาฬสินธุ์ ที่บ้านเลขที่ 217 หมู่ 3 บ้านชัยศรี ต.คำใหญ่ อ.ห้วยเม็ก จ.กาฬสินธุ์ ป่วยจากโรคสะเก็ดเงินทั่วทั้งร่างกายตั้งแต่กำเนิด โดยครอบครัวประสบปัญหาอย่างมาก ทั้งเรื่องค่าการรักษา การเดินทางไปรับการรักษาที่ จ.ขอนแก่น เนื่องด้วยฐานะครอบครัวยากจน

นางสมคิด สุทธิพรม ประธานมูลนิธิออทิสติกไทย สาขา จ.กาฬสินธุ์  กล่าวว่า จากการประเมินเบื้องต้น น้องจอยมีปัญหาเพียงสุขภาพร่างกาย แต่อาจจะกระทบถึงสภาพภาวะจิตใจจากอาการป่วยที่แสดงออกมาภายนอก เป็นปมด้อยที่เกิดขึ้นถูกล้อเลียนและถูกรังเกียจจากสังคม ส่วนนี้ต้องเข้ามาเยียวยาสภาพจิตใจของเด็ก และครอบครัวรวมถึงการทำความเข้าใจให้กับหมู่บ้าน และโรงเรียนช่วยดูแลและบำบัดรักษาน้องจอยไปร่วมกัน น้องจอยยังมีสติปัญญาสมวัย สามารถอ่านออกเขียนได้ แตกต่างจากพ่อและแม่ที่ไม่สามารถอ่านและเขียนหนังสือได้

“และจากการตรวจสอบพบว่าบ้านที่พักอาศัย ยังไม่ถูกสุขลักษณะ จากฐานะที่ยากจนสภาพบ้านที่ก่อสร้างขึ้นจึงมีลักษณะเหมือนแค่กันลม แดด และฝน เท่านั้น พื้นบ้านยังคงสภาพเป็นดิน ปูทับด้วยเสื่อน้ำมัน ผนังบ้านช่วงล่างก่อด้วยอิฐด้านบนเป็นไม้ไผ่สานปิดด้วยกระสอบปุ๋ย ขณะที่ห้องครัวที่อยู่ด้านหลังก็เป็นเพิงไม้เล็กๆ และห้องน้ำก็ผุพังทรุดโทรมอย่างมาก ขณะที่สภาพร่างกายของ ด.ญ.อลิตา หรือน้องจอย ตามตัวผิวหนังเป็นขุยทั้งตัวตั้งแต่ศีรษะจนถึงเท้า บางจุดมีเลือดไหลออกมาตลอด ส่วนน้องจอย ก็จะมีอาการคัน เกาตามตัวอยู่ตลอดเวลา ถึงแม้ว่าจะอยู่ในในการดูแลรักษาของโรงพยาบาลศรีนครินทร์ แต่ในพื้นที่ก็จะต้องเข้ามาดูแลอย่างใกล้ชิด เพื่อป้องกันปัญหาการติดเชื้อ โดยได้ประสานกับนายยุทธศาสตร์ ภูวิชัย ผอ.รพ.สต.บ้านคำใหญ่ เข้ามาดูแลอย่างใกล้ชิดแล้ว” นางสมคิดกล่าว

นายคำเสน  ตาดำ กล่าวว่า ได้แต่งงานอยู่กินกับภรรยามานานกว่า 30 ปี และเพิ่งจะมีลูกสาวเมื่อไม่นานมานี้ตอนแรกคลอดก็ปกติดี  กระทั่งมีอายุได้ประมาณ 3 เดือน เริ่มมีความผิดปกติบริเวณผิวหนังทั้งตัว ไม่ว่าจะเป็นศีรษะ ใบหน้า ตามตัว และมือ เท้า เงินเก็บที่มีอยู่ในช่วงที่ร่างกายแข็งแรงก็หมดไปกับการรักษาลูก จนถึงตอนนี้ต้องหยิบยืมญาติพี่น้อ ที่นาไร่สวนก็เอาไปจำนำ เพื่อนำเงินมาเป็นค่ารักษาตัวของลูก จนตอนนี้ถูกยึดไปหมดเพราะไม่มีเงินไปไถ่ถอน โดยเฉพาะค่าใช้จ่ายที่จะต้องเหมารถไปรักษาตัวที่ ร.พ.ศรีนครินทร์ จ.ขอนแก่น ขณะเดียวกันร่างกายของตนเองก็ไม่แข็งแรง ระยะหลังก็ป่วยเป็นโรคสมองเสื่อม ไม่สามารถออกทำงานหาเงินมาจุนเจือครอบครัวได้ ทั้งหมดก็มีแต่หวังพึ่งพาแรงของนางน้อย ภรรยาที่ออกรับจ้างตัดอ้อยและรับจ้างทั่วไป นำเงินมาจุนเจือในครอบครัวเป็นค่าใช้จ่ายต่างๆ บวกกับเงินค่าเบี้ยยังชีพคนพิการของตนเองเดือนละ 800 บาทเท่านั้น

นายสุเทพ ชัยวัฒน์ นายอำเภอห้วยเม็ก กล่าวว่า ทางอำเภอห้วยเม็กคำ ได้ออกสำรวจความยากจนของประชากรในพื้นที่ซึ่งพบมี 108 ครัวเรือนที่มีฐานะยากและต้องการความช่วยเหลือ และได้มาพบครอบครัวของนายคำเสน กับนางน้อย ตำดำ และด.ญ.อลิตา ตาดำ เป็นราษฎรบ้านชัยศรี หมู่ที่ 3 ต.คำใหญ่  อ.ห้วยเม็ก จ.กาฬสินธุ์ จากที่เห็นสภาพครอบครัว เห็นความยากลำบากและความเดือดร้อน ได้สั่งการให้ทางกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน เข้าสำรวจปัญหารอบด้านโดยเฉพาะปัญหาของด.ญ.อลิตา ที่ทางพ่อและแม่ต้องการให้ส่วนราชการช่วยเหลือด้านการรักษา เพราะน้องป่วยมาตั้งแต่กำเนิดอาการจะรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะช่วงอากาศหนาว น้องจอยจะเจ็บปวด ออกแสบออกร้อนเป็นที่น่าสงสารมาก นอกจากนี้อาการป่วยยังส่งผลให้ไม่สามารถไปโรงเรียนได้ บางครั้งก็ขาดเรียนนานเป็นเดือน ส่วนนี้ได้ประสานไปยังผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านชัยศรี และผอ.สพป.กาฬสินธุ์ เขต 2 เพื่อหาทางช่วยเหลืออีกทางหนึ่ง