จากกรณีนายปรีชา ใคร่ครวญ อายุ 50 ปี ครูชำนาญการพิเศษโรงเรียนเทพมงคลรังษี ต.บ้านเหนือ อ.เมือง จ.กาญจนบุรี อ้างว่าตนเองถูกสลากกินแบ่งรัฐบาลรางวัลที่ 1 เลข 533726 งวดประจำวันที่ 1 พ.ย.60 จำนวน 1 ชุด 5 ใบ เป็นจำนวนเงิน 30 ล้านบาท แต่สลากฯ ชุดดังกล่าวหายไป ต่อมาพบว่า ร.ต.ท.จรูญ วิมูล อดีตข้าราชการเกษียณตำรวจ เป็นผู้นำสลากไปขึ้นเงินรางวัลที่กองสลากฯ ต่อมามีการแจ้งความดำเนินคดีกันทั้งสองฝ่าย ซึ่งต่างฝ่ายต่างยืนยันว่าตัวเอง
9 ก.พ.61 ความคืบหน้าล่าสุดพล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ได้มีคำสั่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบ เข้ามาดูแลคดีดังกล่าวแทนกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 กระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบพบหลักฐานที่อ้างว่าเป็นคลิปเสียงการสนทนาระหว่าง นายปรีชา กับ นางรัตนาพร สุภาทิพย์ หรือ เจ้บ้าบิ่น อายุ 58 ปี โดยได้นำคลิปเสียงการสนทนาทางโทรศัพท์ ระหว่างชายกับหญิง มาเผยแพร่จนเป็นที่ได้รับความสนใจจากสังคมเป็นอย่างมาก ซึ่งจากการฟังพบว่าเสียงการพูดคุยนั้น เหน่อ คล้ายกับสำเนียงท้องถิ่นของชาวจังหวัดกาญจนบุรี แต่ไม่ได้ชี้ชัดว่าเสียงการสนทนานั้นเป็นเสียงของใคร
ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่บ้านพักเลขที่ 143/22 หมู่ 3 ต.ปากแพรก อ.เมือง จ.กาญจนบุรี ของนายรีช ใคร่ครวญ เพื่อสอบถามเกี่ยวกับคลิปเสียงการสนทนาที่ถูกนำมาเผยแพร่ ว่าได้รับฟังหรือยัง และใช่เสียงของนายปรีชาหรือไม่ แต่เมื่อผู้สื่อข่าวเดินทางไปถึงพบว่า ประตูบ้านนั้นล๊อกกุญแจจากด้านใน โดยมีรถยนต์กระบะจอดอยู่ที่โรงจอดรถ 1 คัน ซึ่งได้พยายามกดกริ่ง และตะโกนเรียก แต่ก็ไม่มีเสียงใครตอบรับ ซึ่งบรรยากาศภายในนั้นเงียบสนิท ผู้สื่อข่าวได้รออยู่ประมาณ 30 นาที จึงเดินทางกลับ
ผู้สื่อข่าวจึงเดินทางไปหานางรัตนาพร สุภาทิพย์ หรือ เจ้บ้าบิ่น อายุ 58 ปี แม่ค้าที่ขายลอตเตอรี่ให้กับ นายปรีชา ที่แผงขายบริเวณริมฟุธปาธด้านหน้าธนาคารกสิกรไทย สาขากาญจนบุรี แต่เมื่อไปถึงก็ไม่พบตัวเช่นกัน จากนั้นจึงเดินทางไปหานางรัตนาพร ที่บ้านพัก ภายในชุมชนเตาปูน 3 เขตเทศบาลเมืองกาญจนบุรี และเมื่อไปถึงพบรถจักรยานยนต์จอดอยู่ภายในบ้าน 1 คัน รวมทั้งรถเข็นสาลี่ที่ใช้สำหรับขายขนมบ้าบิ่น อีก 1 คัน เมื่อตะโกนเรียก พบว่ามีชาย 1 คนกำลังป้อนอาหารให้กับเด็กอยู่บริเวณประตูบ้าน จากการสอบถามชายคนดังกล่าวทราบว่าเป็นลูกชายของเจ้บ้าบิ่น และได้บอกกับสื่อมวลชนว่า แม่ไม่อยู่บ้าน เนื่องจากไปนอนค้างบ้านญาติตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา แต่ไม่ได้บอกว่าบ้านญาตินั้นอยู่ที่ไหน จากนั้นก็ปิดประตูบ้านทันที เนื่องจากไม่ต้องการออกข่าว
ขณะเดียวกันพบว่านางสาวพัชริดา พรมตา หรือ เจ้พัช อายุ 53 ปี แม่ค้าขายลอตเตอรี่ ที่อ้างว่าขายลอตเตอรี่ชุดดังกล่าวให้กับ นางรัตนาพร หรือ เจ้บ้าบิ่น ที่ไม่ได้มาขายลอตเตอรี่เป็นเวลา 2 วัน และในวันนี้ได้มาตั้งแผงขายตามปกติ แต่เจ้พัช แจ้งกับสื่อว่า วันนี้ของดการให้ข่าวและปล่อยให้เป็นหน้าที่ของทนายความ
เมื่อเวลาประมาณ 11.58 น.ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่โรงเรียนเทพมงคลรังสี ต.บ้านเหนือ อ.เมือง จ.กาญจนบุรี ซึ่งพบว่านายปรีชา ใคร่ครวญ อยู่ในห้องเรียนเพื่อเตรียมตัวสอนหนังสืออยู่ เมื่อนายปรีชาเห็นสื่อมวลชน ทำให้สีหน้ารู้สึกไม่ค่อยดีนัก แต่ก็มีรอยยิ้มออกมาให้เห็น พร้อมกับให้สัมภาษณ์ว่า กรณีที่มีการเผยแพร่คลิปเสียงดังกล่าวว่า ได้ยินคลิปเสียงแล้ว รู้สึกเฉยๆ และไม่ขอแสดงความคิดเห็นใดๆ หากใครมีหลักฐานอะไรก็ขอให้นำไปแสดงกันในศาล ซึ่งศาลเท่านั้นที่จะเป็นผู้ตัดสิน และจากนี้จะขอไปให้การในชั้นศาลเท่านั้น เพราะการนำเอาหลักฐานมาโต้กันไปมาผ่านสื่อแบบนี้ จะยิ่งสร้างความสับสนให้กับสังคมมากยิ่งขึ้น โดยส่วนตัวในขณะนี้ไม่มีความกังวลใดๆ เพราะยังเชื่อในความเป็นจริงและความบริสุทธิ์ของตนเอง ทั้งนี้เรื่องที่ว่าใครเป็นคนพูดจริง ใครพูดโกหกนั้น ก็ขอให้ศาลเป็นผู้พิสูจน์ว่าใครเป็นของจริงของปลอม
ส่วนคลิปเสียงที่สังคมกำลังวิพากษ์วิจารณ์นั้น ตนไม่สามารถบอกได้ว่าเป็นเสียงของตนหรือไม่ เพราะต้องผ่านกระบวนการตรวจพิสูจน์ก่อน ส่วนพยานหลักฐานต่างๆ ของตนก็ได้ยื่นให้เจ้าหน้าที่ตำรวจไปหมดแล้วเช่นกัน ตนยังยืนยันว่า ลอตเตอรี่ชุดที่ถูกรางวัลนั้น เป็นของตนอย่างแน่นอน และไม่หวั่นวิตกว่าหากถึงที่สุดแล้วจะต้องมีใครคนใดคนหนึ่งที่จะต้องติดคุก เพราะความจริงคือความจริง และไม่มีใครหลีกหนีความจริงไปได้พ้น
ต่อมาผู้สื่อข่าวได้พบกับนายสมพงษ์ เตชรัตนวรกุล ผอ.โรงเรียนเทพมงคลรังสี จึงได้เข้าไปสอบถามว่า กรณีเรื่องคลิปเสียงของครูปรีชา หลังจากนี้ทางโรงเรียนจะดำเนินการอย่างไร ซึ่ง ผอ.ตอบว่า ต้องรอต้นสังกัด คือกระทรวงศึกษาธิการ เป็นผู้ดำเนินการ และขณะนี้ยังไม่มีการภาคฑันฑ์ใดๆกับครูทั้งสิ้น ถึงแม้คดีดังกล่าวจะเป็นเรื่องของครู แต่มันเป็นเรื่องภายนอก ซึ่งไม่เกี่ยวกับทางโรงเรียน และที่ผ่านมาครูปรีชาก็ได้มาสอนนักเรียนตามปกติ
เมื่อถามว่าหากผลออกมาว่าลอตเตอรี่ไม่ใช่ของคุณครูทางโรงเรียนจะดำเนินการอย่างไร ตอบว่าก็ต้องดำเนินการทางวินัย แต่เราเป็นเจ้าหน้าที่ระดับล่างจึงไม่สามารถดำเนินการถึงขบวนการนั้น ซึ่งผู้บังคับบัญชาคงจะแจ้งมาว่าให้ดำเนินการอย่างไร ถามว่าจะต้องถึงขั้นสั่งย้ายหรือไม่ เราไม่เคยเจอเรื่องถึงขนาดนั้นมาก่อน ซึ่งจะต้องรอไปก่อน
ที่ผ่านมาครูปรีชา ก็ไม่เคยมีพฤติกรรมอะไรที่ทำแล้วไม่เหมาะ โดยครูประชาก็ได้มาสอนนักเรียนตามปกติ แต่สุดท้ายทุกอย่างก็ต้องรออย่างเดียว และที่ผ่านมาจากการติดตามข่าว หากผลการตัดสินออกมาจะไปทางซ้ายหรือทางขวาก็คงต้องเป็นไปตามนั้น
สำหรับกฎของหน่วยงานราชการต่างๆก็มีลักษณะคล้ายๆกัน คือหากข้าราชการถูกดำเนินคดีในคดีอาญาจากการตัดสินของศาลสูงสุด ก็จะต้องถูกภาคทัณฑ์ และลดขั้นเงินเดือน หรือถ้าหากคดีร้ายแรงจริงก็จะต้องให้ให้ออกหรือปลดออก ซึ่งเหมือนกันทุกหน่วยงาน
เมื่อถามว่า ผอ.ได้ฟังคลิปการสนทนาแล้วหรือยัง ผอ.ตอบว่ายังไม่ได้ฟัง ดังนั้นผู้สื่อข่าวจึงเปิดคลิปเสียงให้ ผอ.สมพงษ์ ฟังจนจบ จากนั้นจึงขอให้ออกความคิดเห็นกรณีเสียง ซึ่ง ผอ.สมพงษ์ ตอบว่าได้ฟังแค่เสียง และจากการฟัง และมันก็มีส่วนที่ไม่คล้ายเสียงครูปรีชาเยอะ ส่วนที่คล้ายก็พอมีบ้าง แต่เมื่อให้คิดเป็นเปอร์เซ็นต์ คงไม่สามารถคิดได้ เพราะได้ฟังแค่เสียงเท่านั้น ส่วนเมื่อผลออกมาภายหลังว่าเป็นเสียงครูปรีชาจริง ซึ่งก็ไม่เกี่ยวกับทางโรงเรียน เพราะเรื่องที่เกิดขึ้นนั้นเป็นเรื่องของภายนอก
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี