สพฐ.น้อมนำพระราชประสงค์รัชกาลที่ 6 "ให้นำสิ่งที่นักเรียนทำขึ้นมาตั้งสำแดงให้ปรากฏ" เป็นแนวคิดในการจัดงานศิลปหัตถกรรมนักเรียนระดับชาติ ครั้งที่ 67
11 ก.พ.61 ที่ศูนย์ประชุมธรรมศาสตร์รังสิต สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) จัดพิธีเปิดงานศิลปหัตถกรรมนักเรียน ระดับชาติ ครั้งที่ 67 ปีการศึกษา 2560 ภายใต้แนวคิด "นวัตกรรมและความคิดสร้างสรรค์ สู่การพัฒนาชุมชน" โดยมี ศ.คลินิก นพ.อุดม คชินทร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมช.ศธ.) เป็นประธานเปิดงาน และมีผู้บริหาร ศธ.ตลอดจนนักเรียนที่ได้รับรางวัลจากการแข่งขันศิลปหัตถกรรมระดับภาค ทั้ง 4 ภูมิภาค และคณะครู เข้าร่วมกว่า 2,000 คน
นายบุญรักษ์ ยอดเพชร เลขาธิการ กพฐ.กล่าวรายงานการจัดงาน ว่า พระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 6) ทรงมีพระบรมราชานุญาต ให้กระทรวงธรรมการจัดแสดงผลงาน ที่เป็นความคิดและฝีมือของเด็กผู้นั้นจริง เข้าร่วมประกวด ความว่า "...ความประสงค์ที่จะมีการแสดงศิลปหัตถกรรมนักเรียน เพื่อจะได้ทราบว่าบรรดาเด็กนักเรียนชายหญิงทั้งปวง ใครมีความคิดอุปนิสัยเฉลียวฉลาดในศิลปะวิชาอันใด ได้ทำสิ่งไรขึ้น ด้วยความคิดเห็นของตนหรือฝีมือตนเอง มีสิ่งใดที่เป็นพยานให้นำมาตั้งสำแดงให้ปรากฏ จะเป็นของเล่นหรือของใช้ก็ดี คิดขึ้นเองหรือทำตามแบบอย่างของใคร หรือทำตามการสั่งการในโรงเรียนก็ดี..." โดย สพฐ.ได้น้อมนำเป็นแนวทางในการจัดงานเรื่อยมาตลอด 105 ปี โดยงานศิลปหัตถกรรมนักเรียนในยุคแรก ให้ความสำคัญต่อการสร้างสรรค์ผลงานของนักเรียน แบ่งออกเป็น 3 หมวด คือ หมวดความคิด เป็นผลงานที่เกิดจากความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ , หมวดถ่ายอย่าง เป็นผลงานทำตามแบบอย่างที่ผู้อื่นทำไว้ และหมวดฝีมือประณีต เป็นผลงานที่ใช้ทักษะฝีมือสร้างสรรค์ด้วยความประณีตงดงาม
จวบจนปัจจุบัน เป็นการจัดงานศิลปหัตถกรรมนักเรียน ระดับชาติ ครั้งที่ 67 ปีการศึกษา 2560 จัดขึ้นระหว่างวันที่ 11 - 13 ก.พ.61 ณ ศูนย์ประชุมธรรมศาสตร์รังสิต และสถานศึกษาในจังหวัดปทุมธานีและนนทบุรี เพื่อนำนักเรียนที่ได้รับรางวัลเหรียญทองลำดับที่ 1 ถึงที่ 3 จากการแข่งขันในระดับภาคทั้ง 4 ภูมิภาค มานำเสนอและแข่งขันทักษะฝีมือใน 8 กลุ่มสาระการเรียนรู้ กิจกรรมพัฒนาผู้เรียนรวมกว่า 700 กิจกรรม เพื่อให้นักเรียนได้รับการพัฒนาทักษะทางด้านวิชาการ วิชาชีพ ดนตรี นาฏศิลป์ ศิลปะ เพื่อให้มีทักษะในระดับการคิดวิเคราะห์ สังเคราะห์ ประเมินค่าได้ พร้อมสามารถสร้างนวัตกรรมและความคิดสร้างสรรค์สู่การพัฒนาชุมชน นอกจากนี้ ยังเป็นการสนับสนุนกิจกรรม ทั้งในห้องเรียนและนอกห้องเรียนที่เอื้อต่อการพัฒนาคุณธรรมจริยธรรมด้วย
ด้าน ศ.คลินิก นพ.อุดม กล่าวแสดงความชื่นชม สพฐ.และคณะกรรมการจัดงาน ที่ได้ร่วมมือกันจัดกิจกรรมเพื่อธำรงรักษาไว้ซึ่งศิลปหัตถกรรมของไทย ความเป็นชาติไทย อันได้แก่ วัฒนธรรมประเพณี ศิลปะ ที่มีความประณีตสวยงาม แสดงออกถึงความเป็นไทยที่มีความอ่อนโยน สร้างสรรค์ สืบสานกันมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นจิตรกรรม ประติมากรรมหรือสถาปัตยกรรม ที่มีผู้สร้างสรรค์ให้ปรากฏในวิถีการดำรงชีวิตของคนไทย รวมถึงการนำศิลปะไปใช้เพื่อประกอบอาชีพการงาน ทั้งงานจักสาน งานทอ งานปั้น งานแกะสลัก รวมถึงดนตรีและนาฏศิลป์ทุกแขนง
"ซึ่งพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 6) ทรงมีพระราชดำริว่า "...การดำรงรักษาศิลปหัตถกรรมที่ดีของชาติ คือการส่งเสริมเด็กและเยาวชนให้เห็นคุณค่าของงานศิลปะและหัตถกรรม ที่สามารถนำไปสู่การประกอบอาชีพเลี้ยงตนเองได้ อันเป็นการให้เด็กและเยาวชนมีส่วนร่วมอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมของชาติอีกทางหนึ่ง โดยการจัดกิจกรรมที่เป็นประโยชน์ต่อครูและนักเรียน ให้ได้รับการพัฒนาทักษะทางด้านวิชาการ วิชาชีพ อีกทั้งเห็นคุณค่าและเกิดความภาคภูมิใจในความเป็นไทย รักและหวงแหนในมรดกทางวัฒนธรรมของชาติ ตลอดจนเป็นเวทีให้เด็กได้แสดงออกความสามารถของตนเอง นับว่าเป็นงานที่ต้องช่วยกันอนุรักษ์สืบสานให้อยู่คู่กับวงการศึกษาไทยตลอดไป" รมช.ศธ.กล่าวและว่า ก็ขอขอบคุณผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง ตลอดจนนักเรียนและครู ที่เสียสละเวลาทุ่มเทกำลังกายกำลังใจในการแสดงศักยภาพให้เกิดผลในด้านต่างๆ จนเป็นที่ประจักษ์ต่อสาธารณชน เพื่อให้เกิดการเสนอแนะพัฒนาและปรับปรุงงานในครั้งต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี