วันศุกร์ ที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2568
นายสิทธิพร จริยพงศ์ รองประธานสภาเกษตรกรแห่งชาติ เปิดเผยว่าสภาเกษตรกรแห่งชาติ มีมติแต่งตั้งคณะทำงานศึกษาผลกระทบต่อเกษตรกร จากการออกพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยการกำหนดค่าใช้จ่ายที่ยอมให้หักจากเงินได้พึงประเมิน (ฉบับที่ 629) พ.ศ. 2560 ซึ่งคณะทำงานได้เชิญผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กรมสรรพากร สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) มาให้ข้อมูลและร่วมกันพิจารณา
โดยที่ประชุมเห็นว่า ในมาตรา 8ของพระราชกฤษฎีกาฉบับดังกล่าว ที่กำหนดให้หักค่าใช้จ่ายโดยเหมาร้อยละ 60เว้นแต่จะแสดงหลักฐานต่อเจ้าพนักงานประเมินและพิสูจน์ได้ว่ามีค่าใช้จ่ายมากกว่านั้น จึงยอมให้หักค่าใช้จ่ายตามความจำเป็น แต่เกษตรกรมีข้อจำกัดเรื่องการแสดงหลักฐานต่อเจ้าพนักงานประเมินและพิสูจน์ได้ว่ามีค่าใช้จ่ายมากกว่านั้น ประกอบกับจากข้อเท็จจริงจากข้อมูลเศรษฐกิจสังคมครัวเรือนเกษตรปี 2555–2559 ของศูนย์สารสนเทศเศรษฐกิจการเกษตร สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร ระบุว่าเกษตรกรมีค่าใช้จ่ายจริงต่อรายได้เฉลี่ย 5 ปี คิดเป็นร้อยละ 82.56 ซึ่งใกล้เคียงกับค่าใช้จ่ายที่ยอมให้หักจากเงินได้พึงประเมิน ตามพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยการกำหนดค่าใช้จ่ายที่ยอมให้หักจากเงินได้พึงประเมิน(ฉบับที่ 11) พ.ศ.2502 ที่กำหนดให้หักค่าใช้จ่ายเป็นการเหมาร้อยละ 80-85 ของเกษตรกรภาคการผลิต ที่ประชุมจึงมีมติให้เสนอต่อนายกรัฐมนตรี เพื่อพิจารณาปรับปรุงกำหนดค่าใช้จ่ายดังกล่าวอีกครั้ง
นายสิทธิพรกล่าวต่อว่า สภาเกษตรกรฯได้นำมติของที่ประชุมคณะทำงาน จัดทำข้อเสนอต่อนายกรัฐมนตรี คือเสนอให้พิจารณาปรับปรุงกำหนดค่าใช้จ่ายที่ยอมให้หักจากเงินได้พึงประเมินของภาคเกษตรกรรม ตามรายการที่ระบุในมาตรา 8กฎหมายดังกล่าว ซึ่งระบุผู้มีเงินได้จากภาคเกษตรกรรม จำนวน 7 รายการ คือการทำน้ำตาล หรือน้ำเหลืองของน้ำตาล, การจับสัตว์น้ำ, การทำเกษตรกรรมประเภทไม้ล้มลุกและธัญชาติ, การอบ หรือบ่มใบยาสูบ, การเลี้ยงสัตว์ทุกชนิดรวมทั้งการขายวัตถุพลอยได้, การฆ่าสัตว์จำหน่าย รวมทั้งการขายวัตถุพลอยได้, และการทำนาเกลือ ซึ่งจากกำหนดให้หักค่าใช้จ่ายโดยเหมาร้อยละ 60 เป็นกำหนดให้หักค่าใช้จ่ายโดยเหมาร้อยละ 85 เว้นแต่ผู้มีเงินได้จะแสดงหลักฐานต่อเจ้าพนักงานประเมินและพิสูจน์ได้ว่ามีค่าใช้จ่ายมากกว่านั้นก็ยอมให้หักค่าใช้จ่ายได้ตามความจำเป็นและสมควร โดยขอให้การพิจารณาปรับปรุงมีผลบังคับใช้ในการยื่นแบบภาษีเงินได้ปีปัจจุบัน เพื่อลดความเดือดร้อนของภาคเกษตรกรรมจากกฎหมายดังกล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี