"เปรมชัย" หายใจคล่องคอ พนักงานสอบสวนยื่นผลัดฟ้อง ศาลนัดรายงานตัวอีกที 26 มีนาคม "ศรีวราห์" สั่ง ตม.สกัดทุกเส้นทางหลบหนี ขณะทื่ บช.ก.ไฟเขียว ปปป.เดินหน้าสอบคดีให้สินบน"วิเชียร" แลกปล่อยตัวฆ่าเสือดำซ้ำอีก และอาจโดนเพิ่มอีก 2 ฐานความผิด"การลักลอบอากรกับมีงาต้องห้ามไว้ในครอบครอง"
วันนี้ (15 ก.พ.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) กล่าวถึงการดำเนินคดีนายเปรมชัย กรรณสูต ประธานบริหารและกรรมการ บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล็อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) และพวกรวม 4 คนที่ลักลอบล่าสัตว์ป่าในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร จ.กาญจนบุรีว่า ตามกำหนดนายเปรมชัย จะต้องมารายงานตัวต่อศาลในวันที่ 16 ก.พ.นี้ เนื่องจากครบรอบ 12 วันหลังจากศาลให้ประกันตัว
"ถ้าหากไม่มาตามนัดก็จะยึดเงินประกัน และจะขอศาลอนุมัติหมายจับตามขั้นตอน ซึ่งคาดเดาไม่ได้ว่าจะมาหรือไม่มา แต่ได้มีการกำชับไปยังด่านตรวจคนเข้าเมืองทุกด่านให้เฝ้าระวังป้องกันการหลบหนี ขณะนี้ ยังไม่พบความเคลื่อนไหวของนายเปรมชัย" พล.ต.อ.ศรีวราห์ กล่าว
ส่วนการดำเนินการกับนายนพดล พฤกษะวัน อดีตข้าราชกรมอุทยานฯ ที่มีส่วนประสานงานพานายเปรมชัย และพวก เข้าไปในอุทยานฯ จะมีความผิดหรือไม่นั้น รอง ผบ.ตร.กล่าวว่า เรื่องนี้คงต้องรอจากการรวบรวมพยานหลักฐานกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิด เกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (บก.ปทส.) ซึ่งได้สอบปากคำไปแล้วและได้ข้อมูลพอสมควร
"แต่ประเด็นมีอยู่ว่าคุณเอาไฟฉายไปให้คณะนายเปรมชัยหรือเปล่า และเอาไปให้เพื่ออะไร ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างตรวจสอบวัตถุพยาน ทั้งงาช้างที่ตรวจพบในบ้านนายเปรมชัย รวมถึงซากสัตว์ หนังเสือดำ อาวุธปืน วัตถุพยานต่างๆ คาดว่าใช้เวลาไม่เกิน 30 วัน" พล.ต.อ.ศรีวราห์ กล่าว
'เปรมชัย"อาจโดนอีก 2 ฐานความผิด
พล.ต.อ.ศรีวราห์ กล่าวถึงการตรวจสอบงาช้างของนายเปรมชัย ของเจ้าหน้าที่ บก.ปทส.ด้วยว่า น่าจะรู้ผลภายใน 30 วัน ส่วนจะดำเนินการอย่างไรต่อไปนั้นก็จะะต้องรอให้ผลการตรวจออกมาก่อน และยังต้องพิจารณาจากพยานแวดล้อมด้วยแต่ในเบื้องต้นประเด็นนี้อาจจะมีความผิด 2 ฐานความผิด คือ การลักลอบอากรกับมีงาต้องห้ามไว้ในครอบครอง
ส่วนการสืบสวนขยายผลกรณีบุกรุกป่า 6,000 ไร่ ใน อ.ภูเรือ จ.เลยนั้นผู้ว่าราชการจังหวัดเลย ได้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบเอกสารสิทธิ์ ซึ่งขณะนี้ได้ตรวจยึดสิ่งสิ่งปลูกสร้างไว้หมดแล้ว อยู่ระหว่างขยายผลว่ามีการบุกรุกพื้นที่อื่นด้วยหรือไม่ ส่วนกรณีที่พบสิ่งปลูกสร้างใกล้สนามบินจังหวัดเลย ผู้ว่าราชการจังหวัดฯก็มีการตรวจสอบในประเด็นนี้ด้วย
สำหรับนายเปรมชัย มีชื่อเป็นหนึ่งในกรรมการบริษัท ซี พี เค อินเตอร์เนชั่นแนล จะมีความผิดด้วยหรือไม่นั้นต้องตรวจสอบ แต่จากการตรวจสอบเบื้องต้นยังไม่พบว่านายเปรมชัยเซ็นเอกสารใดๆ เมื่อยังไม่เซ็นก็ไม่มีหลักฐานไปร้องทุกข์กล่าวโทษ
"ส่วนที่ผ่านมามีการวิพากษ์วิจารณ์ว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจพยายามให้ความช่วยเหลือนายเปรมชัยพ้นผิดนั้นผมยืนยันเรื่องนี้เป็นไปไม่ได้ เป็นความไม่เข้าใจในหลักกฎหมายมากกว่า ทุกอย่างว่าไปตามพยานหลักฐานไม่สามารถช่วยเหลือใครได้อยู่แล้ว บางคนไม่เข้าใจข้อกฎหมายจึงไปวิพากษ์วิจารณ์จนเกิดความเสียหาย ความจริงก็คือความจริง รับประกันตำรวจไม่มีมั่ว ไม่มีกลั่นแกล้งใคร ไม่ช่วยเหลือด้วย บังคับใช้กฎหมายที่มีอยู่เต็มที่" รอง ผบ.ตร.กล่าว
ปปป.ได้ไฟเขียวสอบให้สินบนซ้ำอีก
ด้าน พล.ต.ต.กมล เหรียญราชา ผบก.ปปป.เปิเผยความคืบหน้ากรณีนายวิเชียร ชิณวงษ์ หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรด้านตะวันตก เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน บก.ปปป. ให้ดำเนินคดีกับนายเปรมชัย กรรณสูต ประธานกรรมการบริหาร บริษัทอิตาเลียนไทย ดีเวล็อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) ได้เสนอผลประโยชน์แลกกับการปล่อยตัว ภายหลังถูกจับกุมกรณีฆ่าเสือดำว่า ภายหลังจากเจ้าหน้าที่ทำหนังสือขออนุมัติการสอบสวนต่อกองบัญชาสอบสวนกลาง (บช.ก.) ปรากฏว่า ขณะนี้ได้รับการอนุมัติให้ทำคดีนี้แล้ว
โดยหลังจากนี้พนักงานสอบสวนจะประสานนายวิเชียร และพยานอีก 3 รายให้เข้ามาสอบปากคำเพิ่มเติมในวันที่ 22 ก.พ.เวลา 10.00 น. ซึ่งหากพบพยานหลักฐานเข้าข่ายความผิดตามมาตรา 114 เรื่องขอติดสินบนเจ้าพนักงานให้ละเว้นหน้าที่ พนักงานสอบสวนก็จะออกหมายเรียก นายเปรมชัย ให้มารับทราบข้อกล่าวทันที และหากไม่มาก็จะออกหมายจับตามลำดับ ซึ่งขณะนี้ทาง ปปป.จะดำเนินการคดีกับนายเปรมชัย แต่เพียงผู้เดียว ไม่มีเจ้าหน้าที่ของกรมป่าไม้มาเกี่ยวข้องแต่อย่างใด
ปทส.นำงาช้างเปรมชัยตรวจDNA
วันเดียวกัน เวลา 11.00 น.ที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (บก.ปทส.) เมื่อเวลา 11.00 น.นายปิ่นสักก์ สุรัสวดี รองอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พร้อมด้วย ดร.กณิตา อุ่ยถาวร หัวหน้าทีมนิติวิทยาศาสตร์ สัตว์ป่า กรมอุทยานฯ พล.ต.ต.ชยพล ฉัตรชัยเดช รอง ผบช.ส. และ พ.ต.อ.สุวัฒน์ อินทสิทธิ์ รอง ผบก.ปทส. ร่วมกันตรวจสอบงาช้าง 2 คู่หรือ 4 กิ่งที่ยึดได้จากบ้านนายเปรมชัย กรรณสูต ประธานบริหารและกรรมการ ผจก. บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเม้นต์ จำกัด (มหาชน) หลังถูกจับกุมขณะตั้งเต็นท์ล่าสัตว์ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร จ.กาญจนบุรี เพื่อตรวจเก็บสารพันธุกรรม หรือดีเอ็นเอ (DNA)
คาดรู้ผลตรวจภายใน 3 สัปดาห์
พ.ต.อ.สุวัฒน์ อินทสิทธิ์ รอง ผบก.ปทส. เปิดเผยว่า วันนี้ได้รับมอบหมายจาก พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) ให้ทำการตรวจสอบงาช้างที่ยึดได้จากบ้านของนายเปรมชัย 2 คู่ว่าเป็นงาช้างของแอฟริกา หรือเอเชีย โดยมีขั้นตอนตรวจสอบเริ่มจากการชั่งน้ำหนักและวัดขนาดของงาช้าง ซึ่งจากการชั่งน้ำหนักงาช้างกิ่งแรก พบว่าหนัก 13.895 กก. ส่วนขนาด วัดความยาวโค้งนอก 146 ซม. โค้งใน 129 ซม. โคนงา 36 ซม. โคนกลาง 32.5 ซม. และปลายงา 11 ซม.จากนั้นได้ทำการขูดเนื้อด้านในบริเวณโคนงาเพื่อตรวจสอบดีเอ็นเอ ซึ่งจะใช้เวลาประมาณ 3 สัปดาห์ จึงจะทราบผลว่าเป็นงาช้างใด ทั้งนี้ เนื่องจากการเก็บเนื้อเยื่องาช้างนั้นทำได้ยาก เนื่องจากมีการตัดแต่งเพื่อความสวยงาม ทำให้ต้องใช้ระยะเวลา
"สำหรับเรื่องคดีนั้นขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบชิ้นเนื้อของกลาง และซากกระดูกขาเสือดำที่เจ้าหน้าที่พบบริเวณใกล้กับเต็นท์ของนายเปรมชัย ก็จะนำมาตรวจสอบที่นี่ รวมถึงหลักฐานอื่นๆ เพิ่มเติมที่กำลังรอนำมาตรวจสอบ ซึ่งตอนนี้ยังมาไม่ถึง บก.ปทส." พ.ต.อ.สุวัฒน์ กล่าว
ยังไม่ชัดงาแอฟริกาเอเชียหรือไทย
ด้านนายปิ่นสักก์ สุรัสวดี รองอธิบดีกรมอุทยานฯ กล่าวว่า การตรวจสอบดีเอ็นเอครั้งนี้ จะเป็นการสกัดเนื้อเยื่องาช้างที่อยู่ฐานล่าง เพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายแก่งาช้าง และจะดูเรื่องการลงทะเบียนด้วยว่างาช้างที่ยึดมาเป็นงาช้างจากแอฟริกา เอเชีย หรือไทย หากเป็นงาช้างไทย จะต้องมีการตรวจสอบว่ามีการแจ้งลงทะเบียนถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ ถ้ามีการแจ้งลงทะเบียนถูกต้องตามกฎหมายก็ไม่มีปัญหาใด ส่วนจะเป็นงาช้างแอฟริกาหรือเอเชียหรือไม่นั้น ยังไม่สามารถระบุได้ ต้องรอผลตรวจสอบดีเอ็นเอก่อน
"จากการตรวจสอบพบว่า นายเปรมชัย มีการยื่นขอลงทะเบียนงาช้างเท่านั้น แต่ยังไม่ทราบว่าเป็นงาช้างที่ยึดได้หรือไม่ เพราะอยู่ระหว่างตรวจสอบ จึงยังไม่มีสติ๊กเกอร์ของกรมอุทยานฯยืนยัน ทั้งนี้ ขั้นตอนการตรวจสอบงาช้าง กรมอุทยานฯ จะมีกองคุ้มครองสัตว์ป่าและพืชป่าตามอนุสัญญา (กองไซเตส) ทำหน้าที่ตรวจสอบ หากเป็นงาช้างที่ถูกกฎหมายก็จะได้รับสติ๊กเกอร์ยืนยัน โดยล่าสุดมีผู้ลงทะเบียนขอครอบครองงาช้างในประเทศไทย 4 หมื่นชิ้น หากทราบผลดีเอ็นเองาช้างที่ตรวจวันนี้ก็จะนำไปเปรียบเทียบกับข้อมูลกับกองคุ้มครองสัตว์ป่าและพืชป่าตามอนุสัญญา (กองไซเตส) เพื่อดูที่มาและถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่"
พบงาช้างมีมูลค่ากว่า 2 ล้านบาท
นายปิ่นสักก์ กล่าวอีกว่า ปกติงาช้างที่สามารถครอบครองได้จะเป็นงาช้างเอเชีย หรืออินเดีย แตกต่างจากงาช้างแอฟริกา ที่ไม่สามารถครอบครองได้ เนื่องจากผิดอนุสัญญาว่าด้วยการค้าระหว่างประเทศซึ่งชนิดสัตว์ป่าและพืชป่าที่ใกล้สูญพันธุ์ หรือ ไซเตส (Cites) และจะมีความผิดข้อหาครอบครองซากสัตว์ป่าคุ้มครอง โทษจำคุก 4 ปี ปรับ 40,000 บาท
ทั้งนี้ หากประเมินมูลค่างาช้าง 1 กก.มีราคา 40,000-50,000 บาท ซึ่งงาช้างที่ยึดได้จากบ้านนายเปรมชัย ในส่วนที่ตรวจสอบแล้ว 1 กิ่ง มีน้ำหนัก 13.895 กก.คิดเป็นมูลค่าประมาณ 560,000 บาท ดังนั้น งาช้าง 2 คู่ เท่ากับ 4 กิ่ง ก็มีมูลค่าสูงกว่า 2,240,000 บาท
ขณะที่ ดร.กณิตา อุ่ยถาวร หัวหน้าทีมนิติวิทยาศาสตร์ สัตว์ป่า กรมอุทยานฯ เปิดเผยว่า จากประสบการณ์ที่ทำงานมาดูงาช้างที่ตรวจวันนี้จากภายนอกยังไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นงาช้างแอฟริกา หรือเอเชีย เพราะงาช้างแต่ละชนิดมีขนาดไม่แน่นอน เช่น ปกติงาช้างแอฟริกามักมีขนาดใหญ่กว่างาช้างเอเชีย ก็มีความเป็นไปได้ว่างาช้างเอเชียบางตัวจะมีขนาดเท่ากันหรือใหญ่กว่าช้างแอฟริกา จึงต้องรอผลตรวจดีเอ็นเอ อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบงาช้างที่ยึดจากบ้านนายเปรมชัย พบว่าเป็นงาช้างที่ผ่านการดัดแปลงโดยใช้แลคเกอร์ เพื่อใช้ในการตกแต่ง และถือว่าเป็นงาช้างที่มีสภาพใหญ่สมบูรณ์
ศาลนัดเปรมชัยรายงานตัวอีกที 26 มี.ค.
หัวค่ำวันเดียวกัน พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร. เปิดเผยถึงการตรวจสอบงาช้างจำนวน 2 คู่ ที่พบในบ้านพัก นายเปรมชัย กรรณสูต ผู้ต้องหาคดีล่าสัตว์ป่า ที่ทางกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เข้าตรวจสอบดีเอ็นเอ ว่า ได้รับรายงานว่า กรมอุทยานฯจะส่งผลการตรวจพิสูจน์ มาให้ภายใน 1 เดือน ซึ่งหากพบว่าเป็นงาช้างที่อยู่นอกทวีปเอเชีย จะต้องมีการดำเนินคดี ฐานครอบครองซากสัตว์ป่าคุ้มครอง ซึ่งมีโทษจำคุก 4 ปี ปรับไม่เกิน 4 หมื่นบาท ตามอนุสัญญาว่าด้วยการค้าระหว่างประเทศซึ่งชนิดสัตว์ป่าและพืชป่าที่ใกล้สูญพันธุ์ หรือ ไซเตส (Cites)
ขณะที่อาวุธปืนจำนวน 43 กระบอก ต้องใช้ระยะเวลาในการตรวจสอบอีกระยะหนึ่งเนื่องจากมีจำนวนมาก ทั้งร่องรอยการใช้งาน และเกรียวลำกล้อง
ขณะที่สำนวนคดีที่นายเปรมชัยกับพวก เข้าไปล่าสัตว์ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร จ.กาญจนบุรี ในวันพรุ่งนี้พนักงานสอบสวนจะไปยื่นคำร้องขอผัดฟ้องฝากขังต่อศาล ส่วน นายเปรมชัย ศาลได้นัดให้ไปรายงานตัวอีกครั้งในวันที่ 26 มีนาคมนี้
ทั้งนี้ ได้รับรายงานจากพนักงานสอบสวน สภ.ทองภาภูมิ ว่า สำนวนมีความคืบหน้าไปมาก รอเพียงผลตรวจทางนิติวิทยาศาสตร์ จากกองพิสูจน์หลักฐานมาประกอบเพิ่มเติมเท่านั้น
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี