จับตาพรุ่งนี้ “ฐิติราช” นัดถกคืบหน้าคดีหวยอลเวง 30 ล้านยังอุบชงศาลออกหมายจับฝ่ายใด เผยเบื้องต้นพบมีผู้กระทำความผิดมากว่า 2 คน ขณะที่กองปราบฯ ตัดพยานแวดล้อมฝ่าย ”ครูปรีชา” ออกไป 30 ปาก เน้นให้น้ำหนักหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์มากกว่า ด้านครูคนดังไม่ยืนยันคลิปเสียงตัวเองจริงหรือไม่ ไล่ไปถามคนเผยแพร่เอามาจากไหน อ้างชี้นำประชาชน
เมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ พล.ต.ท.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (ผบช.ก.) เปิดเผยว่า มอบหมายให้ พล.ต.ต.ชาญ วิมลศรี รองผบช.ก.เป็นหัวหน้าชุดสืบสวนสอบสวนคลี่คลายคดีการอ้างสิทธิ์เป็นเจ้าของลอตเตอรี่รางวัลที่ 1 จำนวน 30 ล้านบาท ระหว่างนายปรีชา ใคร่ครวญ หรือครูปรีชา กับ ร.ต.ท.จรูญ หรือลุงจรูญ วิมูล โดยให้ควบคุมการทำงานให้ดี เนื่องจากสังคมคาดหวังการทำงานของตำรวจสูงมาก
ผบช.ก. กล่าวว่า ในวันพรุ่งนี้ (19ก.พ.) จะเรียกเจ้าหน้าที่ทุกส่วนที่มีหน้าที่เกี่ยวข้องและมอบหมายงานไปแล้วมาประชุม เพื่อรวบรวมข้อมูลติดตามความคืบหน้าของแต่ละส่วนว่าดำเนินการไปถึงไหนแล้ว พร้อมกำชับให้สอบพยานให้แล้วเสร็จในสัปดาห์นี้
“ไม่อยากให้สังคมคาดหวังว่า ตำรวจจะออกหมายจับบุคคลใดหรือไม่ แต่ขอให้เชื่อมั่นว่าตำรวจจะดำเนินการตามข้อเท็จจริงและหาคนผิดมาดำเนินคดีให้ได้ เนื่องจากคดีมีความยืดเยื้อมานานแล้ว หากล่าช้าออกไปอีกผลที่ออกมาจะต้องชัดเจนที่สุด“ ผบช.ก. กล่าว
ด้าน พล.ต.ต.ไมตรี ฉิมเฉิด ผบก.ป. กล่าวถึงความคืบหน้าการสืบสวนสอบสวนคลี่คลายคดีหวย 30 ล้านบาทว่า ขณะนี้ชุดสืบสวนสอบสวนกำลังรวบรวมรายละเอียดที่ได้มาทั้งหมดตั้งแต่การลงพื้นที่จำลองเหตุการณ์ การสอบสวนพยานทั้งตำรวจและพยานฝั่งนายปรีชาเพิ่มเติม รวมทั้งพยานหลักฐานทางวิทยาศาสตร์และนิติวิทยาศาสตร์ โดยในเวลา 14.00 น. วันพรุ่งนี้ (19 ก.พ.) พล.ต.ต.ชาญ วิมลศรี รอง ผบช.ก. จะเป็นประธานประชุมที่กองปราบปราม ส่วนจะถึงขั้นสรุปออกหมายจับได้หรือไม่นั้น ยังบอกไม่ได้ขึ้นอยู่กับหลักฐาน
พล.ต.ต.ไมตรี กล่าวต่อว่า จนถึงขณะนี้ยืนยันว่าตำรวจไม่ได้ไปข่มขู่หรือคุกคามให้ใครรับสารภาพ เป็นการทำคดีอย่างตรงไปตรงมาเพราะตำรวจสอบสวนกลางมาจากส่วนกลางมีความเป็นมืออาชีพ การที่ต้องสอบปากคำโดยใช้เวลากว่าสิบชั่วโมงก็เพราะไม่อยากเรียกพยานมาสอบบ่อยๆ จึงต้องสอบให้ครบถ้วนทุกประเด็นไม่ขาดตกบกพร่อง โดยการสอบสวนก็มีทนายความของพยานอยู่ด้วยตลอดเวลา
“ส่วนกรณีที่มีพยานบางรายเข้าใจว่ามีการส่งตำรวจไปเฝ้าดูหรือด้อมๆ มอง ก็ขอยืนยันว่าเราไม่เคยส่งใครไปจับตาดูผู้ที่เกี่ยวข้องกับคดี เป็นไปได้ที่พยานหรือผู้เกี่ยวข้องบางคนอาจจะกังวลเลยเกิดอาการคิดหรือมโนไปเอง จนถึงขณะนี้ตำรวจยังคงยืนยันว่าจะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายเพื่อให้คดีนี้เกิดความยุติธรรมที่สุด” พล.ต.ต.ไมตรี กล่าว
ข่าวแจ้งว่า การประชุมที่จะมีขึ้นนั้นจะมีการหารือถึงแนวทางการสรุปคดีเพื่อระบุให้ได้ว่าใครเป็นเจ้าของสลากที่แท้จริง หลังจากนั้นจะพิจารณาหารือว่าใครที่เข้าข่ายกระทำผิดกฎหมายที่จะต้องถูกดำเนินคดีบ้าง ซึ่งคณะทำงานจะพิจารณาจากเจตนาของผู้กระทำความผิดเป็นสำคัญเพื่อให้ความเป็นธรรมกับผู้ที่เกี่ยวข้องมากที่สุด
“เบื้องต้นพบแล้วว่ามีผู้กระทำความผิดมากว่า 2 คน ส่วนข้อหาอาจจะแตกต่างกันไปบ้างขึ้นอยู่กับพฤติกรรมในการกระทำความผิด แต่ทั้งนี้ความผิดส่วนใหญ่ที่พบจะอยู่บนฐานความผิดเกี่ยวกับการแจ้งข้อความอันเป็นเท็จเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับโทษทางอาญาเป็นหลัก” แหล่งข่าวระบุ
ขณะที่พล.ต.ต.ชาญ วิมลศรี รอง ผบช.ก ในฐานะหัวหน้าชุดคลี่คลายคดีหวย 30 ล้าน ระบุว่า ในการประชุมพรุ่งนี้ (19 ก.พ.) เพื่อตรวจสอบพยานหลักฐาน และประเมินว่าหลักฐานในคดีที่เจ้าหน้าที่ลงพื้นที่เก็บรวบรวมและสอบปากคำพยานมีน้ำหนักชี้ไปว่าลอตเตอรี่รางวัลที่ 1 มูลค่า 30 ล้านบาท เป็นของครูปรีชา หรือร.ต.ท.จรูญ ยืนยันยังไม่ใช่การประชุมเพื่อสรุปสำนวนขอศาลออกหมายจับผู้ต้องหาตามที่เป็นข่าว
พร้อมยอมรับว่าหลังกองปราบรับโอนสำนวนคดีจากตำรวจภูธรภาค 7 มาสานต่อ ได้ตัดพยานที่ไม่จำเป็นฝ่าย "ครูปรีชา" ออกไปกว่า 30 ปาก เนื่องจากเป็นพยานแวดล้อมไม่จำเป็นต้องนำประกอบสำนวนคดี อย่างไรก็ตาม คดีนี้กองปราบเห็นว่ามีพยานสำคัญไม่เกิน 5 ปาก โดยให้น้ำหนักหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์เป็นสำคัญ
วันเดียวกันผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่บ้านพักเลขที่ 143/22 ทุ่งนา ซ.5 หมู่ 3 ต.ปากแพรก อ.เมือง จ.กาญจนบุรี เพื่อขอพบครูปรีชา ใคร่ครวญ เพื่อสอบถามกรณีที่รายการข่าวภาคค่ำ ช่อง 7 สี นำคลิปเสียงพูดคุยกันทางโทรศัพท์ระหว่างผู้ชื้อกับผู้ขาย ความยาว 3 นาที มาเผยแพร่เมื่อเย็นวานนี้ (17 ก.พ.) ว่าใช่เสียงของครูปรีชา หรือไม่
แต่ปรากฏว่าประตูบ้านปิดล็อกจากด้านใจ ทางผู้สื่อข่าวจึงตะโกนเรียก จากนั้นครูปรีชา จึงออกมาพบด้วยสีหน้ายิ้มแย้มเช่นเดิม พร้อมกล่าวถึงเรื่องคลิปเสียงว่า เก่งมากเลย ไม่รู้ไปเอาคลิปใครมาก็ไม่รู้ ก็อย่างที่ครูเคยบอกว่าเรื่องคลิปเสียง ซึ่งพูดแล้วก็พูดอีกว่า ใครมีหลักฐานอย่างไรก็น่าจะเข้าสู่ระบบกระบวนการของศาล เพราะทำแบบนี้เหมือนการชี้นำประชาชน
“ความจริงครูก็ไม่ได้ปฏิเสธนะว่า เสียงในคลิปนั้นเป็นเสียงครู แต่คลิปทั้งหมดนี้ครูอยากจะทราบว่า แหล่งที่มานั้นมาจากแหล่งไหน ใครเป็นคนเอามา แล้วที่มานี้มาได้อย่างไร ดังนั้นจะมาถามครูก่อนไม่ได้ จะต้องไปถามคนที่นำมาว่านำมาจากไหน จึงอยากให้นักข่าวไปถามว่า แหล่งที่มาของคลิปเสียงนั้นมาจากไหน”ครูปรีชา กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า จริงๆ แล้วครูเคยมีคลิปเสียงนี้หรือไม่ ครูปรีชา ตอบว่า คือเรื่องเสียง เมื่อพูดถึงโทรศัพท์ทั่วๆ ไป เราก็พูดคุยกันโดยทั่วๆไป แต่ใครจะมาจำว่า เราจะพูดกับใครตรงไหนบ้าง มันจำไม่ได้หรอก ดังนั้นก็อย่างที่ครูบอกนั่นแหละว่า ใครมีพยานหลักฐานดีๆ กำนำไปเข้าสู่กระบวนการศาล ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ก็ทำหน้าที่ด้วยความยุติธรรมอยู่แล้ว
เมื่อถามว่ากองปราบเตรียมจะออกหมายจับมีความกังวลอะไรหรือไม่ ครูปรีชา กล่าวว่า บอกตรงๆ ว่าไม่ได้หวั่นวิตกหรือกังวลอะไรมาตั้งแต่แรกแล้ว เพราะเราคือเรื่องจริง และเชื่อมั่นในความจริง ส่วนกรณีที่ท่าน ผบช.ก.บอกเปิดโอกาสให้คนทำผิดกลับตัวกลับใจ ซึ่งท่านก็พูดอย่างเป็นกลาง ซึ่งก็หมายความว่าท่านบอกกับทั้งสองฝ่าย ดังนั้นอย่าไปแปลความหมายกันเอง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี