"เจ้เกียว" แม่ค้าลอตเตอรี่รายใหญ่รายหนึ่งกาญจนบุรี และเป็น 1 ในพยานให้กับครูปรีชา ใคร่ครวญ ประกาศใต้ต้นไทรกลางวัดใต้ หากโดนหมายจับพร้อมสู้ทุกชั้นศาล แจง "เจ้บ้าบิ่น" แจ้งเซ็นต์รับรอง ขายรางวัลที่ 1 ให้ "ครูปรีชา" ยัน กองปราบฯไม่ได้บังคับหรือข่มขู่
จากกรณี พล.ต.ต.ชาญ วิมลศรี รอง ผบช.ก. พล.ต.ต.ไมตรี ฉิมเฉิด ผบก.ป. จะประชุมกับคณะพนักงานสอบสวนที่กองปราบปราม เพื่อพิจารณาว่าใครเข้าข่ายกระทำผิดกฎหมายที่จะถูกดำเนินคดี กรณีครูปรีชา ใคร่ครวญ อายุ 50 ปี ครูชำนาญการพิเศษโรงเรียนเทพมงคลรังษี ต.บ้านเหนือ อ.เมือง จ.กาญจนบุรี คู่กรณี ร.ต.ท.จรูญ วิมูล อายุ 62 ปี อดีตข้าราชการเกษียณตำรวจ กรณีฟ้องร้องแย่งกรรมสิทธิ์เป็นเจ้าของสลากกินแบ่งรัฐบาล งวดประจำวันที่ 1 พ.ย.60 เลข 533726 จำนวน 1 ชุด 5 ใบ เป็นเงิน 30 ล้านบาท และกำลังเป็นข่าวอันโด่งดัง รวมทั้งสร้างความสับสนให้กับคนไทยทั้งประเทศ ที่ยืดเยื้อมานานร่วม 3 เดือน โดยหลังจากพิจารณาแล้วเสร็จ จะส่งให้กับ พล.ต.ท.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ ผบช.ก.สั่งดำเนินการต่อไป ซึ่งการประชุมพิจารณาจะเริ่มขึ้นในช่วงเวลาประมาณ 14.00 น.วันนี้ 19 ก.พ.61
ล่าสุดเมื่อช่วงเช้าวันนี้ (19 ก.พ.61) ผู้สื่อข่าวเดินทางไปพบนางปณัญชยา สุขพูล หรือเจ้เกียว อายุ 50 ปี ที่บริเวณแผงขายลอตเตอรี่ ใต้ต้นไทร ภายในบริเวณวัดไชยชุมพลชนะสงคราม พระอารามหลวง (วัดใต้) ต.บ้านใต้ อ.เมือง จ.กาญจนบุรี ซึ่งเจ้เกียว ถือว่าเป็นแม่ค้าลอตเตอรี่รายใหญ่รายหนึ่งของจังหวัดกาญจนบุรี และเป็น 1 ในพยานให้กับครูปรีชา ใคร่ครวญ มาโดยตลอด
โดยนางปณัญชยา สุขพูล เจ้เกียว ได้ยกมือไหว้สวัสดีสื่อมวลชนทุกสังกัดที่ไปรอทำข่าว ซึ่งสื่อมวลชนถามว่า จนถึงขณะนี้ได้มีการพูดคุยกับครูปรีชาหรือยัง ซึ่งเจ้เกียวตอบว่ายังไม่ได้พูดคุยกัน แต่ได้โทรศัพท์พูดคุยและติดต่อกันกับเจ้บ้าบิ่น รวมทั้งเจ้พัช และจากกระแสข่าวที่ออกมาว่าเจ้าหน้าที่บังคับหรือข่มขู่ให้เซ็นต์ยินยอมอะไรนั้น ซึ่งเจ้เกียวเป็นคนตรงและชอบความโปร่งใส ก็เลยสอบถาม ซึ่งเจ้รัตนาภรณ์ ก็ตอบยืนยันว่าทางเจ้าหน้าที่ไม่ได้ข่มขู่หรือบังคับแต่อย่าง เพียงแค่ให้เซ็นต์ว่า เป็นคนขายลอตเตอรี่ให้หมวดจรูญ หรือขายให้กับครูปรีชา ซึ่งเจ้บ้าบิ่นก็เซ็นต์ว่าขายให้กับครูปรีชา กระแสดังกล่าวจึงมีความผิดพลาด และที่ผ่านมาเราให้ความเคารพในการทำงานของเจ้าหน้าที่ทุกหน่วยงาน ซึ่งเจ้เกียวเคยวิเคราะห์ให้กับสื่อไปแล้วว่า อาจจะเป็นจิตวิทยาในการสอบสวนของแต่ละหน่วย เพื่อความเข้มข้นของแต่ละหน่วย แต่ว่าไม่ใช่การข่มขู่หรือบังคับ ซึ่งป้าบ้าบิ่นได้ยืนยันมากับเจ้เกียวเองว่าเจ้าหน้าที่เขาทำงานโดยสุจริต ไม่มีการข่มขู่แต่อย่างใด
เมื่อถามเจ้เกียวเพิ่มเติมว่าเห็นว่าจะมีการสรุปสำนวนสอบสวนที่ผ่านมา และจะมีการออกหมายเรียกหรือว่าหมายจับ ตรงนี้เจ้เกียวมีความกังวลอะไรหรือไม่ เจ้เกียวตอบว่า ที่ผ่านมาจำได้หรือไม่ว่าที่ผ่านมาภาค 7 ได้ออกหมายเรียกหมวดจรูญไปแล้ว แต่ทีนี้ทางทนายตั้ม ได้พาลุงจรูญไปร้อง เจ้าหน้าที่ส่วนกลางเพื่อขอความเป็นธรรม
ถามว่าเมื่อตำรวจเป็นคนไปร้องทุกข์ เขาก็เริ่มทำใหม่ ซึ่งเราก็ไม่ว่าอะไร เพราะเราคิดว่าจะเป็นหน่วยงานไหนก็ได้ ดังนั้น เจ้เกียว จึงไม่รู้สึกวิตกหรือหวั่นใจอะไร และแม่ค้าเองก็ไม่ได้กังวลเช่นกัน เพราะซื้อมาแล้วขายให้ใครก็บอกว่าขายให้กับคนนั้น ซื้อมาแพงก็ขายแพง ซื้อมาถูกก็ขายถูก ดังนั้นคำว่าทำเป็นขบวนการไม่ใช่เลย
ถามว่าหมายเรียกหรือหมายจับที่กำลังจะออกมา ส่วนตัวแล้ว เจ้เกียวคิดว่าผู้ที่จะถูกออกหมายเรียกหรือหมายจับนั้น เจ้เกียวคิดว่าเป็นฝ่ายไหนที่จะโดน เจ้เกียวตอบว่า มันเป็นไปได้ทั้งสองทาง ซึ่งเจ้เกียวไม่ขอฟันธง แต่ถ้าถามว่า เมื่อทางภาค 7 เขาสรุปมาแล้ว การที่ว่ามีคนไปร้องที่ส่วนกลาง เขาเจ้าหน้าที่ก็ต้องทำ เพื่อป้องกันไม่ให้ภาพพจน์ของตำรวจไทยเสียหาย อันนี้ก็เป็นความถูกต้อง
แต่ถ้าหากหมายเรียกหรือหมายจับออกมาทางฝ่ายเจ้เกียว และเจ้บ้าบิ่น ตรงนี้เราก็จะสู้จนเต็มสตริม ไม่ว่าจะศาลไหนเราก็จะสู้ เพราะว่าทุกอย่างเป็นความจริง ถ้าเจ้เกียวไม่ได้ยินกับหูไม่เห็นกับตาเจ้เกียวก็จะไม่ออกมาพูด ซึ่งเจ้เองก็ไม่ได้มีความสำคัญอะไร เพราะเจ้เป็นเพียงพยานสิ่งแวดล้อมเท่านั้น และเราก็จะพูดตามความเป็นจริงตามที่เราเห็น ซึ่งแล้วแต่ว่าทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเขาจะวิเคราะห์ว่าอย่างไร
และอันที่จริงเจ้เกียวเป็นตัวกลาง ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้นำเจ้พัชกับเจ้บ้าบิ่นไปสอบปากคำ ซึ่งเขาก็บอกว่าขณะที่มีการซื้อขาย มีเจ้เกียวเพื่อนที่ขายลอตเตอรี่อยู่ตรงกลาง แค่นั้นแหละ ทีนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเรียกเจ้เกียวไปสอบปากคำ เจ้เกียวก็ได้พูดตามความเป็นจริงทั้งหมด ว่าเหตุวันนั้นเกิดมาอย่างไร แค่นั้น
ถามว่าหากมีการออกหมายจับจริงจะเตี้ยมกับทนายหรือไม่ เจ้เกียวตอบอย่างมั่นใจว่า ไม่ต้องเตี๊ยม ขอไปตามความจริงทุกเรื่อง ไม่ต้องเตี๊ยมและไม่ต้องมีกุนซือให้
ถามว่ากรณีทางเจ้าหน้าที่กองปราบปรามได้เน้นหลักฐานทางด้านนิติวิทยาศาสตร์ ตรงนี้ทางฝ่ายเจ้เกียวมีหลักฐานเกี่ยวกับทางนิติฯอะไรบ้าง เจ้เกียวตอบอย่างเข้มแข็งว่า ไม่มี ซึ่งเจ้เกียวอธิบายได้ แต่เจ้เกียวไม่ได้ชี้แนะคนอื่น คือว่ามันเป็นเรื่องธรรมดา ที่คุณจรูญ หยิบหวยขึ้นมาเซ็นชื่อตั้ง 5 ใบ แต่ทำไมลายนิ้วมือจึงติดเพียงแค่นิดเดียว ทำไมไม่ติดเต็มถึง 5 ใบ แต่มันก็ฟังขึ้นได้นิดหนึ่ง
ถามว่าป้าพัช หรือเจ้พัช ทำไมลายนิ้วมือถึงไม่ติด ก็เพราะว่าแม่ค้าขายหวยทุกคน เขาจะมีน้ำยาป้ายที่นิ้วมือ ก่อนที่จะนับลอตเตอรี่ สื่อสามารถลองทำดูได้ว่าจะมีรอยนิ้วมือหรือไม่ รับรองว่าไม่มี แต่ความคิดนี้เป็นความคิดส่วนตัวของเจ้เกียว
เจ้เกียวกล่าวต่อว่า สำหรับเจ้บ้าบิ่นขณะนี้ก็อยู่ที่บ้านตามปกติไม่ได้ย้ายไปไหน ถามว่าเจ้บ้าบิ่นจะออกมาขายหวยหรือไม่ เชื่อว่าเจ้บ้าบิ่นต้องออกมาขายหวยอย่างแน่นอน
สำหรับเรื่องคลิปเสียงเจ้เกียวก็ได้ฟังพร้อมๆกับกับสื่อ แต่เจ้เกียวไม่สามารถตอบแทนได้ว่าเสียงในคลิปคือเสียงใคร แต่จากที่ได้ฟังพบว่าบางช่วงก็คล้ายเสียงครูปรีชา แต่บางช่วงของคลิปไม่ใช่ก็มี ซึ่งเจ้เกียวไม่สามารถยืนยันได้ ซึ่งจะต้องให้เจ้าตัวเป็นคนตอบ ส่วนเรื่องของโทรศัพท์เจ้าหน้าที่ก็ได้มีการนำตรวจสอบไปแล้ว สำหรับเสียงในคลิปที่ออกมาล่าสุด เจ้ยังไม่ได้ฟังเพราะไม่มีเวลา
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี