คอส.ลุยยื่นหมื่นชื่อ
ชงกม.คุ้มครองสัตว์ป่า
ป่าไม้เล็งเสนอปปง.
ยึดทรัพย์สิน‘เปรมชัย’
“ศรีวราห์”แจงคดีล่าเสือดำทุ่งใหญ่ฯ ยังไม่จำเป็นต้องเชิญ “เปรมชัย”ให้ปากคำข้อหาให้สินบน เผย บก.ปปป.กำลังสอบสวน โดยเชิญหัวหน้าวิเชียรกับเจ้าหน้าที่อุทยานฯมาให้ข้อมูลเพิ่ม 22 กุมภาพันธ์ ปัดเก็บอุจจาระในที่เกิดเหตุตรวจพิสูจน์
ไม่จำเป็น เพราะจับผู้ต้องหาและของกลางได้ รอผลตรวจไรเฟิล ด้านคอส. บุกสภา ชงหมื่นรายชื่อ เสนอกฎหมายอุทยาน-คุ้มครองสัตว์ป่า
มีความเคลื่อนไหวของหลายภาคส่วนติดตามกรณีนายวิเชียร ชิณวงษ์ หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรฝั่งตะวันตก อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี นำเจ้าหน้าที่เข้าจับกุมนายเปรมชัย กรรณสูต ประธานบริหารบริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล็อปเมนต์ จำกัด (มหาชน)กับพวกรวม 4 คน ได้ขณะตั้งแคมป์กลางเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า พร้อมยึดซากสัตว์ อาวุธปืนได้จำนวนหนึ่ง
เมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ ที่อาคารรัฐสภา 2 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คณะทำงานประชาชนเพื่อการอนุรักษ์และสิทธิชุมชน (คอส.) นำโดย นายบุญ แซ่จุ่ง เดินทางเข้ายื่นหนังสือต่อนายนัฑ ผาสุก เลขาธิการวุฒิสภา ปฏิบัติหน้าที่เลขาธิการสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) เรื่อง การรวบรวมรายชื่อเพื่อเสนอกฎหมาย 2 ฉบับ ตามที่หมวด 3 สิทธิและเสรีภาพของปวงชนชาวไทย หมวด 5 หน้าที่ของรัฐ ของรัฐธรรมนูญ 2560 กำหนดไว้ โดยร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) อุทยานแห่งชาติ พ.ศ... มีผู้ร่วมลงชื่อ 11,486 คน และร่างพ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า มีผู้ร่วมลงชื่อ 10,708 คน
ด้านนายนัฑกล่าวว่า จากนี้จะตรวจสอบรายชื่อและดำเนินการตามขั้นตอน พ.ร.บ.ว่าด้วยการเข้าชื่อเสนอกฎหมาย พ.ศ.2556 ต่อไป คาดใช้เวลา 45 วัน
ส่วนความคืบหน้าการสืบสวนหาพยานหลักฐาน ดำเนินคดีนายเปรมชัยกับพวกนั้น พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.)เปิดเผยว่า ขณะนี้ยังไม่มีประเด็นและความจำเป็นต้องเชิญนายเปรมชัย ผู้ต้องหาคดีล่าสัตว์ป่าและพวก มาสอบปากคำเพิ่มเติม คดีอยู่ระหว่างดำเนินการของพนักงานสอบสวน สภ.ทองผาภูมิ ส่วนจะดำเนินคดีกับบุคคลใดเพิ่มหรือไม่ ในข้อหาติดสินบนเจ้าพนักงาน อยู่ระหว่างสอบสวนผู้ร้องของกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.)ว่า จะมีผู้ใดเข้าข่ายเชิญมาสอบปากคำหรือไม่ และวันที่ 22 กุมภาพันธ์ พนักงานสอบสวนเชิญ นายวิเชียรและเจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรรวม 4 คน มาให้ข้อมูลเพิ่มเติม
รองผบ.ตร.ยังกล่าวถึงกรณีเก็บหลักฐานที่เป็นอุจจาระได้ในที่เกิดเหตุ ที่เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานกำลังพิสูจน์ว่าเป็นของบุคคลใดว่า ไม่จำเป็นต้องพิสูจน์มาประกอบเป็นหลักฐาน เพราะตัวผู้ต้องหาอยู่ในที่เกิดเหตุอยู่แล้ว รวมทั้งยึดของกลางที่ใช้ก่อเหตุได้ทั้งหมด ส่วนผลการพิสูจน์ปืนไรเฟิลที่ยึดได้จากบ้านนายเปรมชัยนั้น อยู่ระหว่างตรวจพิสูจน์ว่าเป็นปืนกระบอกเดียวกันกับที่ใช้ยิงช้างป่า ในเขตอุทยานแห่งชาติกุยบุรี เมื่อปี 2557-2558 หรือไม่ ซึ่งกระสุนปืนที่พบในตัวช้างเป็นปืนไรเฟิล
ด้านนายชีวะภาพ ชีวะธรรม ผอ. สำนักป้องกันรักษาป่าและควบคุมไฟป่า และหัวหน้าชุดพยัคฆ์ไพร กรมป่าไม้ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) กล่าวถึงการตรวจสอบการบุกรุกพื้นที่ป่าใน อ.ภูเรือ จ.เลย ของบริษัท ซี พี เค อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ที่มีชื่อนายเปรมชัย เป็นหนึ่งในกรรมการบริหารว่า กรณีนี้มี 2 ส่วนคือ ส่วนแรก เกี่ยวกับบริษัท ซี พี เคฯจากการตรวจสอบพบมีการครอบครองผิดกฎหมายรวม 6,215 ไร่ เมื่อมีการแจ้งความผู้ที่ถูกเอาผิดทางอาญาจริงๆคือ พี่สาวนายเปรมชัย แต่นายเปรมชัยไม่ถูกดำเนินคดีอาญา เพราะไม่ได้ลงนามในเอกสาร แต่ในคดีแพ่ง ภาครัฐเอาผิดเรียกค่าเสียหายเป็นเงินและเสนอเรื่องให้สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.)เอาผิดโดยยึดทรัพย์ได้ เพราะที่ดินดังกล่าวอยู่ในโซนป่าต้นน้ำ 1 และ 2 ที่ห้ามถือครองเพื่อทำธุรกิจ แต่พบว่าบริษัทดังกล่าวถือครองที่ดินและทำธุรกิจมาต่อเนื่องทุกพื้นที่ ขณะนี้ กรมป่าไม้อยู่ระหว่างประมวลผลการตรวจสอบที่ดินดังกล่าวเสนอปปง.และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) ให้เอาผิดต่อไป นอกจากนี้ ยังพบว่าบริษัท ซี พี เคฯมีที่ดินครอบครองเป็นโฉนดอีกกว่า 600 ไร่ บริเวณใกล้เคียงต้องตรวจสอบว่าได้มามิชอบหรือไม่
ส่วนที่ 2. นายชีวะภาพกล่าวว่า เกี่ยวข้องกับนายเปรมชัย ตรวจสอบพบว่านายเปรมชัยมีชื่อถือครองโฉนดไม่ต่ำกว่า 5 แปลง ในพื้นที่ใกล้เคียงกัน รวมประมาณ 500 ไร่ ดังนั้น ต้องตรวจสอบว่าได้มาอย่างไร ซึ่งขณะนี้คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีการบุกรุกป่าท้องที่ อ.ภูเรือ กำลังตรวจสอบ และล่าสุดในส่วนของกรมป่าไม้ นายอรรถพล เจริญชันษา รองอธิบดีกรมป่าไม้ กำลังจะลงนามแต่งตั้งคณะกรรมการติดตามเร่งรัดผลคดีบุกรุกยึดถือครอบครองที่ดินของบริษัท ซี พี เคฯ โดยตนเป็นประธาน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี