เล่นเอาแฟนคลับคนติดตามหวยอลเวง 30 ล้านงงกันเป็นไก่ตาแตก ที่แท้ "เจ้ดำ" กับ "เจ้บ้าบิ่น" ก็เป็นคนเดียวกันไม่ใช่ละครตัวใหม่ในคดีหวย 30 ล้านเลย หลังจากตามเสาะหากันให้วุ่น ขณะที่ "ครูปรีชา" ยังยันยังมั่นใจรางวัลหวย 30 ล้านเป็นของตน ส่วนเรื่องกองปราบฯ เตรียมเรียกพยานสอบเพิ่ม 7 ปากก็ไม่หวั่น
วันนี้ (20 ก.พ.61) ความคืบหน้าคดีหวย 30 ล้านบาท ระหว่างนายปรีชา ใคร่ครวญ หรือครูปรีชา อายุ 50 ปี ครูชำนาญการพิเศษโรงเรียนเทพมงคลรังสี ต.บ้านเหนือ อ.เมืองกาญจนบุรี คู่กรณีกับ ร.ต.ท.จรูญ วิมูล หรือลุงจรูญ อายุ 62 ปี อดีตข้าราชการตำรวจที่ต่างอ้างว่าเป็นเจ้าของหวย ขณะที่ตำรวจกองปราบฯ ได้เตรียมประชุมเกี่ยวกับคดีนี้อีกครั้งในวันพรุ่งนี้ (21 ก.พ.) เพื่อเตรียมออกหมายจับผู้ที่กระทำความผิด ขณะเดียวกันได้มีพยาน ซึ่งเป็นละครตัวใหม่โผล่มาอีกคนชื่อว่า "เจ้ดำ" จนทำให้หลายฝ่ายต่างสงสัยว่า เจ้ดำ คนดังกล่าวนั้นเป็นใคร
อย่างไรก็ตามจากการตรวจสอบพบว่า เจ๊ดำ คนที่ถูกพูดถึงแท้จริงก็คือ เจ้ดำ กับ เจ๊บ้าบิ่น เป็นคนเดียวกัน โดยแม่ค้าและเพื่อนบ้านรวมถึงจากการสอบสวนของเจ้าหน้าที่พบว่า เจ๊บ้าบิ่น มีหลายชื่อเริ่มตั้งแต่ เจ๊พวน ซึ่งเป็นชื่อเก่า เจ๊แพนเค้ก เจ๊ดำ และเจ๊บ้าบิ่น ซึ่งแต่ละชื่อก็แล้วแต่คนในพื้นที่จะเรียกกัน
วันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปพบกับนายปรีชา ใคร่ครวญ ที่โรงเรียนเทพมงคลรังษี เพื่อสอบถามเกี่ยวกับการที่เจ้าหน้าที่กองปราบจะเรียกตัวพยานฝ่ายของครูไปสอบปากคำเพิ่มเติม จำนวน 7 ปาก ซึ่งนายปรีชา ได้เปิดเผยถึงกรณีดังกล่าวว่า ขณะนี้ตนไม่ทราบจริงๆว่าเจ้าหน้าที่กองปราบจะเรียกพยานฝ่ายตนคนไหนบ้างไปสอบปากคำ แต่ถึงแม้จะมีการมาสอบปากคำพยานเพิ่มเติมจริง ตนก็ไม่ได้มีความวิตกกังวลแต่อย่างใด
ส่วนกรณีที่มีข่าวว่า ลอตเตอรี่ที่มีเลขท้าย 726 เหมือนกันจำนวน 3 ชุด และอาจจะเป็นไปได้ว่า คนที่ถูกรางวัลที่ 1 ไม่ใช่ครูปรีชา แต่เป็นของ ร.ต.ท.จรูญ ที่เป็นคนซื้อ ส่วนแม่ค้าลอตเตอรี่ที่บอกว่าครูปรีชา ถูกรางวัลที่ 1 ซึ่งเรื่องดังกล่าวอาจจะเป็นการมโนภาพของแม่ค้าไปเอง ครูปรีชา ตอบคำถามว่า ประเด็นนี้ครูขอยังไม่ตอบ เพราะเรื่องนี้ครูยังไม่มีข้อมูล แต่ครูก็ยังยืนยันเหมือนเดิมว่าขณะนี้ครูไม่มีความสับสน และก็ยังมีความเชื่อมั่นว่า ครูเป็นคนซื้อและถูกลอตเตอรี่รางวัลที่ 1 จริง
"ผมขอยืนยันว่าไม่ได้เกิดความสับสน และผมมั่นใจเสมอว่าเป็นคนซื้อลอตเตอรี่ 533726 ที่ถูกรางวัลมาจริงและถึงแม้ว่าการที่เจ้าหน้าที่กองปราบฯ ออกมาให้ข่าวโดยระบุว่าจะออกหมายจับฝ่ายของครู ก็ไม่ได้หวั่นใจแต่อย่างใด เพราะว่าเราคือของจริง เราซื้อมาจริงและพยานทุกคนก็อยู่ในเหตุการณ์ทั้งหมดจริง" ครูปรีชา กล่าว
ครูปรีชา กล่าวต่อว่า สำหรับพยานคนที่ชื่อ แผน นั้นครูไม่เคยรู้จัก แต่เชื่อว่าคงเป็นระบบการทำงานของเจ้าหน้าที่กองปราบฯ เขา ส่วนกรณีที่มีข่าวว่ามีการตรวจสอบคลิปมากถึงสี่พันคลิปนั้นเมื่อวันที่ 19 ก.พ.ที่ผ่านมาได้มีนักข่าวสอบถามเข้ามาหลายคน จึงขอนำเรียนว่า เรื่องการสอบปากคำให้กับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ครูโดนสอบปากคำที่ สภ.เมืองกาญจนบุรี ตำรวจสอบสวนกลาง รวมทั้งกองปราบฯ และภาค 7 ซึ่งตำรวจได้เอาโทรศัพท์ของครูไปตรวจสอบ และจากการได้ฟังคลิปพบมีเพียงแค่ 4 คลิปเท่านั้น และทั้งสี่คลิปเป็นคลิปเสียงเพียงสั้นๆ เท่านั้น
โดยเนื้อหาในคลิปเป็นเรื่องของลอตเตอรี่และผลการสอบก็ไม่พบการกระทำความผิด และผลการสอบก็ออกมาแล้วโดยภาค 7 ได้แถลงมาแล้วว่าลอตเตอรี่เป็นของครู ซึ่งคลิปมีแค่ 4 คลิปเท่านั้น สำหรับที่บอกว่าคลิปมีตั้ง 2,000 - 3,000 คลิปนั้นเอามาจากไหน ครูก็งงอยู่เช่นกัน และคลิปที่ออกมาครูเองก็แทบที่จะไม่ได้ฟังเลยเพราะมันเยอะเกินครูขี้เกียจฟัง แต่ 4 คลิปที่ดังกล่าวฟังแล้วไม่ได้มีเนื้อหาอะไรเลย นอกจากการพูดคุยเกี่ยวกับลอตเตอรี่ ซึ่งที่ผ่านมาภาค 7 ก็ได้แถลงออกมาอย่างชัดเจน แต่ตอนนี้ก็ต้องรอการแถลงของฝ่ายกองปราบก่อน
"ที่ผ่านมาครูได้สั่งซื้อลอตเตอรี่จากเจ้บ้าบิ่น เพียงคนเดียว ถามว่าทำไมถึงสั่งนางปณัญชยา สุขพูล หรือ เจ้เกียว คนเดียว เพราะครูเชื่อมั่นว่าเจ้บ้าบิ่น เป็นผู้ที่นำลาภมาให้ และเจ้บ้าบิ่น ก็นำลาภมาให้เกือบทุกๆงวด บางงวดเจ้บ้าบิ่นขายไม่หมด ก็นำมาให้ครูซื้อไว้ ซึ่งก็ถูกรางวัลเป็นประจำ"
ผู้สื่อข่าวถามว่าหากผลการสรุปของทางกองปราบฯ ออกมาว่าครูปรีชา เป็นฝ่ายผิด ครูปรีชา ตอบว่า คือทางกองปราบฯ เขาจะไม่ชี้ว่าฝ่ายใดเป็นฝ่ายผิดหรือถูก ตำรวจมีหน้าที่สืบสวนและสอบสวน จากนั้นกองปราบฯ ก็จะบอกว่าน้ำหนักของลอตเตอรี่นั้นเป็นของฝ่ายไหน จากนั้นเขาก็จะออกหมายซึ่งเป็นหมายเรียก หรือหมายจับ ซึ่งหมายจับก็ต้องผ่านศาลก่อน แล้วศาลจึงพิจารณาเพื่ออนุมัติหมายจับ เมื่อพบว่ามีการกระทำความผิด ดังนั้น นักข่าวจะต้องเข้าใจขั้นตอนนี้ด้วย นั่นคือไม่ใช่ว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจเขาจะมาฟันธงว่าใครผิดหรือใครถูก ตำรวจเป็นผู้มีหน้าที่พิสูจน์ทรัพย์ ว่าทรัพย์นั้นน่าจะเป็นของใคร ซึ่งต้องทำตามหลักฐานและพยาน
ผู้สื่อข่าวถามย้ำอีกว่า หากผลออกมาว่าลอตเตอรี่เป็นของ ร.ต.ท.จรูญ วิมูล หรือลุงจรูญ ครูปรีชา จะยอมรับหรือไม่ ตอบว่าทุกคนต้องเข้าใจนะนิดหนึ่งว่าตอนนี้เรากำลังอยู่ระหว่างการพิสูจน์ทรัพย์ ถูกไหมครับ เมื่อทรัพย์ที่พิสูจน์ได้จะต้องมีที่มาที่ไปของทรัพย์ ถ้าฝั่งโน้นมีที่มาที่ไปนั่นก็คือสิ่งที่จะต้องยอมรับได้
เมื่อถามอีกว่าฝั่งเขาบอกว่าไม่จำเป็นต้องพิสูจน์ทรัพย์ เพราะทรัพย์นั้นอยู่ที่เขาอยู่แล้ว ครูปรีชาตอบว่า ตอนนี้นี่คือเรื่องของการทำข่าว แต่กระบวนการค้นหาความจริงของตำรวจเขาต้องสอบทั้ง 2 ฝั่ง เขาไม่ได้สอบแค่ฝั่งเดียวเท่านั้น แต่ถ้าเป็นกระบวนการของศาล คือระบบกระบวนการศาลของเมืองไทยเป็นระบบการกล่าวหา เมื่อเรากล่าวหาเขา เราก็ต้องมาพิสูจน์ทรัพย์ให้ร้อยเปอร์เซ็นต์ว่าทรัพย์นั้นเป้นของเรา ส่วนกระบวนการการสืบสวนและสอบสวนต้องสืบทั้ง 2 ทาง โดยตอนนี้กองปราบฯ ยังไม่ได้เรียกครูไปสอบปากคำ เพราะก่อนหน้านี้เคยไปให้ปากคำหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมดแล้ว ล่าสุดมีเพียงแค่ ไปจำลองเหตุการณ์ที่ตลาดนัดเรดซิตี้เท่านั้น แต่ถ้าหากพบมีประเด็นใหม่ๆขึ้นมา กองปราบฯ ก็คงจะติดต่อมาเอง
"ที่จริงไม่ต้องไปสอบเจ้บ้าบิ่น หรอก เพราะครูนี่แหละเป็นคนซื้อจากเจ้บ้าบิ่นมา และในวันดังกล่าวหลังจากรับลอตเตอรี่มา ก็ได้มีการพูดคุยกันกับคนอีกหลายคน ที่อยู่ตรงนั้นซึ่งมีทั้งคนรู้จักและไม่รู้จัก และก็มีคนขอแบ่งลอตเตอรี่เลขดังกล่าว แต่ครูไม่ให้" ครูปรีชา เผย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจาก พล.ต.ต.ชาญ วิมลศรี รอง ผบช.ก.ออกมาระบุว่าวันนี้ (20 ก.พ.) ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบจะลงพื้นที่จังหกวัดกาญจนบุรี อีกครั้งหนึ่ง เพื่อเรียกตัวพยานสำคัญฝั่งครูปรีชามาสอบปากคำเพิ่มเติมจำนวน 7 ปากและครั้งที่ผ่านมาทางเจ้าหน้าที่กองปราบฯ ได้ใช้สถานีตำรวจทางหลวง 6 กองกำกับการ 2 กองบังคับการตำรวจทางหลวง (กาญจนบุรี) ต.บ้านทวน อ.พนมทวน จ.กาญจนบุรี เป็นศูนย์ซักถาม เมื่อผู้สื่อข่าวเดินทางไปสังเกตการณ์ แต่ปรากฏว่าสถานที่ดังกล่าวไม่พบเจ้าหน้าที่กองปราบฯ รวมทั้งไม่พบเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวง นำกรวยมาปิดกั้นทางเข้าออก เหมือนครั้งก่อนแต่อย่างใด
ส่วนบ้านพักของนางปณัญชยา สุขพูล หรือ เจ้เกียว ที่อยู่ภายในชุมชุมเตาปูน 3 เขตเทศฯบาลเมืองกาญจนบุรี พบมีเพียงลูกชายของเจ้บ้าบิ่น อยู่เท่านั้น ส่วนจะพักผ่อนอยู่ภายในบ้านหรือไปอาศัยอยู่บ้านญาติ นั้นไม่สามารถทราบได้
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี