ฟังให้ชัดไม่ต้องเดาใครเป็นเจ้าของหวย30ล้าน "ผบ.ตร."พูดเองชัดเจน "เขาเป็นคนไปขึ้นเงิน ได้เงินมา เขาถือเป็นคนสุดท้าย" แต่ยังแทงกั๊กให้รอฟังรายละเอียด28ก.พ.นี้ใครมีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการ พร้อมไฟเขียว"ผบช.ก."ชงเอาผิดตำรวจภาค7 ด้าน"ครูปรีชา"ฉุนสื่อมโนเขียนข่าว บอกให้รอกองปราบฯแถลงก่อน ลั่นหากผิดจริงพร้อมติดคุก ขณะที่"เจ้เกียว"ยืนยันเป็นพยานให้"ครูปรีชา" พร้อมแนะกองปราบให้นำ"ลุงจรูญ"มาจำลองเหตุการณ์บ้าง
วันนี้ (21 ก.พ.61) เวลาประมาณ 16.30 น. พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) กล่าวถึงความคืบหน้าคดีสลากกินแบ่งรัฐบาล หมายเลข 533726 งวดประจำวันที่ 1 พฤศจิกายน 2560 ที่ถูกรางวัลที่ 1 มูลค่า 30 ล้านบาท ระหว่าง ร.ต.ท.จรูญ วิมูล หรือ ลุงจรูญ อดีตข้าราชการตำรวจ และนายปรีชา ใคร่ครวญ ครูชำนาญการพิเศษโรงเรียนเทพมงคลรังษี จังหวัดกาญจนบุรีว่า ได้รับรายงานล่าสุดจากชุดทำงานของกองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) แล้วว่าขณะนี้มีความคืบหน้ามากกว่า 90 เปอร์เซ็นต์แล้ว โดยจะมีการประชุมสรุปและแถลงข่าวผลสรุปในวันที่ 28 ก.พ.นี้
"ตอนนี้ไม่เร่งรัดอะไร ปล่อยให้เจ้าหน้าที่ได้ทำงานอย่างเต็มที่ เนื่องจากคดีหวย 30 ล้านเป้นที่้สนใจของประชาชนทั้งประเทศ ซึ่งตอนนี้มีความคืบหน้าไปมากกว่า 90 เปอร์เซ็นต์แล้ว รอฟังวันที่ 28 ก.พ.จะได้ทราบว่าหวยเป็นของใคร ซึ่งจะมีการแถลงข่าวในวันนั้น ขณะนี้เหลือเพียงทำให้เรียบร้อย อีกนิดหน่อยก็ครบชัดเจน 100 เปอร์เซ็นต์แล้ว" ผบ.ตร.กล่าว
"ผบ.ตร."แง้มลุงจรุญเจ้าของหวย30ล้าน
ส่วนที่มีรายงานข่าวออกมาว่าหวยเป็นของ ร.ต.ท.จรูญ นั้นตรงกับที่ ผบ.ตร.ทราบหรือไม่ พล.ต.อ.จักรทิพย์ กล่าวว่า ก็เป็นอย่างนั้นอยู่แล้ว เพราะเขาเป็นคนไปขึ้นเงิน ได้เงินมา เขาถือเป็นคนสุดท้าย ส่วนรายละเอียดเดี๋ยวไปว่ากัน แต่จะตรงกับบทสรุปการคลี่คลายเรื่องนี้ของชุดทำงานกองปราบปรามหรือไม่ ตนไม่ทราบ บอกไม่ได้ คำตอบที่ตนทราบอยู่บนพื้นฐานของการเป็นไปตามพยานหลักฐาน และหากผลออกมาเป็นของ ร.ต.ท.จรูญ นายปรีชา จะดำเนินการฟ้องร้องก็เป็นสิทธิตามกฎหมาย ไม่ได้หนักใจอะไร
"ผลที่ออกมาจะช็อกสังคมหรือไม่คงต้องให้สังคมตัดสิน แต่ตำรวจได้ทำตามพยานหลักฐาน เรามีหน้าที่ทำความจริงให้ปรากฏ ขอให้เชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรมและผลที่จะออกมาในวันที่ 28 ก.พ. ตำรวจไม่มีหน้าที่เข้าข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ว่าตามพยานหลักฐาน ส่วนระหว่างนี้จะมีการขออนุมัติหมายจับผู้ใดหรือไม่ อยู่ในกระบวนการที่ต้องดำเนินการอยู่แล้ว" พล.ต.อ.จักรทิพย์ กล่าว
อดใจรอ28ก.พ.รู้ผลใครร่วมขบวนการ
ผู้สื่อข่าวถามว่า ก่อนหน้านี้ทีมสืบสวนสอบสวนกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 (บช.ภ.7) สรุปผลเป็นอย่างหนึ่ง และหากทีม บก.ป. สอบสวนกลาง สรุปออกมาอีกอย่างหนึ่ง อะไรคือสิ่งที่เชื่อถือได้ พล.ต.อ.จักรทิพย์ กล่าวว่า พยานหลักฐาน เรื่องของนิติวิทยาศาสตร์ สามารถบ่งชี้ได้ ขณะนี้เราต้องทำความจริงให้ปรากฎ กองบังคับการปราบปรามเป็นหน่วยที่พึ่งสุดท้ายของประชาชน ใครไม่ได้รับความเป็นธรรมให้มาที่นี่ กองปราบฯ รักษามาตรฐานของเขาอยู่แล้ว นิติวิทยาศาสตร์จะเป็นพยานหลักฐานที่สำคัญ ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนเก็บรายละเอียด และทางบก.ป. กำลังรอให้ทุกอย่างนิ่ง เมื่อนิ่งแล้วผลสรุปจะชัด
"หากผลสรุปของ 2 หน่วยงาน ระหว่าง บช.ภ. 7 กับ บก.ป.ไม่ตรงกัน ก็ไม่มองว่าเป็นการดิสเครดิต ไม่ต้องห่วง เรื่องนี้ผมให้ความสำคัญ ก่อนตัดสินใจโอนคดีมาที่ บก.ป.ก็ขึ้นอยู่กับพยานหลักฐานของ บก.ป. ซึ่งการตัดสินใจโอนคดีครั้งนี้ ส่วนหนึ่งเพราะ ร.ต.ท.จรูญ มาร้อง บก.ป.ด้วย" ผบ.ตร.กล่าว
พล.ต.อ.จักรทิพย์ กล่าวว่า คดีนี้แน่ชัดว่าค่อนข้างทำเป็นขบวนการ แต่รอรายละเอียดในวันที่ 28 ก.พ. ว่ามีใครเกี่ยวข้องอย่างไรบ้าง ตนไม่เข้าไปแทรกแซงการทำงานของชุดทำงาน ปล่อยไปให้ทำงาน เชื่อว่าผู้ที่ทำงานเรื่องนี้มีประสบการณ์ทั้งนั้นทั่วประเทศมีคดีหวยลักษณะนี้ 5 คดี สอบสวนกลางมีแผนประทุษกรรมอยู่
"ส่วนจะมีตำรวจระดับนายพล เข้าไปเกี่ยวข้องมีความผิดในคดีนี้หรือไม่ ยังบอกไม่ได้ ผมยังไม่ทราบ แต่ถ้ามีอะไรเกี่ยวข้อง ส่อในทางไม่ดี เข้าข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งก็มีกระบวนการการดำเนินการอยู่แล้ว ส่วนตัวยังไม่เคยพูดคุยกับ พล.ต.ต.สุทธิ พวงพิกุล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกาญจนบุรี เนื่องจากมีผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้นพูดคุยอยู่แล้ว ในเรื่องนี้ พล.ต.ท.กิตติพงษ์ เงามุข ผบช.ภ.7 ดูอยู่แล้ว"
"ครูปรีชา"ลั่นหากผิดจริงพร้อมติดคุก
ด้านความเคลื่อนไหวในพื้นที่ จ.กาญจนบุรี หลังจากสื่อทุกสังกัดได้นำเสนอข่าวเมื่อวันที่ 20 ก.พ.ว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปรามได้ประชุมและมีบทสรุปว่าเจ้าของกรรมสิทธิ์หวย 30 ล้านเป็นของ ร.ต.ท.จรูญ วิมูล ไม่ใช่เป็นของครูปรีชา ใคร่ครวญ พร้อมกับระบุถึงผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อ
โดยเมื่อเวลา 07.30 น.วันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่บ้านพักเลขที่ 143/22 ซ.ทุ่งนา 5 หมู่ 3 ต.ปากแพรก อ.เมือง จ.กาญจนบุรี เพื่อขอสอบถามข้อเท็จจริงถึงกรณีข่าวที่เกิดขึ้น โดยเมื่อไปถึงบ้านพักของนายปรีชา ยังคงเปิดเงียบเช่นเดิม แต่ก็มีรถยนต์กระบะที่นายปรีชา ใช้เป็นพาหนะประจำจอดอยู่ ไม่นานนักนายปรีชา ก็ได้เดินออกมาจากภายในบ้าน ด้วยการใส่สูตรสีดำ จากนั้นได้เดินไปเปิดประตูรถยนต์กระบะพร้อมสตาร์ทเครื่องยนต์โดยระหว่างที่นายปรีชา เดินมาเปิดประตูบ้านเพื่อขับรถไปโรงเรียน เมื่อนายปรีชา เห็นสื่อมวลชนก็ได้ยกมือไหว้ทักทายอย่างอารมณ์ดีดั่งเช่นทุกครั้งที่ผ่านมา
ระหว่างนั้นผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามถึงข้อเท็จจริง กรณีที่มีข่าวว่าทางกองปราบฯ ได้ออกมาระบุว่าลอตเตอรี่นั้นเป็นของหมวดจรูญ ซึ่งนายปรีชา ได้เดินไปเปิดประตูหน้าบ้านพร้อมกับพูดว่า เรื่องนี้มันเป็นกระแสของนักข่าว ไม่ใช่กระแสของตำรวจ ตำรวจได้แจ้งหรือยังครับว่ายังไม่ได้แถลงการณ์ถูกไหม เพราะฉะนั้นนักข่าวนั้นไปเขียนกันเอง นักข่าวรู้ดีกว่าตำรวจหรือไง นักข่าวก้าวทันไวเกิน คือครูจะบอกว่านักข่าวมีจรรยาบรรณ ถูกต้องไหม นักข่าวจะต้องฟังการแถลงก่อน ช่อง 7 ลงครูอีกแล้วนะเมื่อเช้านี้
เวลาประมาณ 15.00 น. ครูปรีชา ได้กล่าวกับผู้สื่อข่าวอีกครั้งที่โรงเรียนฯว่า ครูเป็นแม่พิมพ์ของชาติ เรื่องไม่ถูกต้องครูจะไม่ทำ หากหวย 30 ล้านเป็นของครูจริง ใครจะรับผิดชอบเรื่องนี้ ถ้าฝ่ายครูผิดก็จะรับผิดชอบด้วยการติดคุก คดีนี้ต้องมี 1 คนติดคุก ถ้าครูติดคุกแสดงว่าครูก็ต้องเป็นคนไม่ดี แต่อยากให้คิดว่าทำไมตำรวจและกองสลากถึงรับเรื่องไปตรวจสอบ ทำไมศาลสั่งอายัดเงินไว้ เพราะครูมีความชัดเจนในเรื่องคดีอย่างมาก ตอนนี้กองปราบยังไม่สรุป ถ้าผลคดีออกมาอย่างไรก็ต้องไปต่อสู้ในศาล การที่ตำรวจสรุปยังไม่ใช่ เพราะต้องไปต่อสู้คดีในศาลอีก
"เจ้เกียว"ยืนยันเป็นพยานให้"ครูปรีชา"
ด้าน นางรัตนาพร สุภาทิพย์ หรือ เจ๊บ้าบิ่น อายุ 58 ปี แม่ค้าที่อ้างว่าเป็นคนขายลอตเตอรี่รางวัลที่ 1 ให้กับครูปรีชา ที่บริเวณหน้าธนาคารกสิกรไทย สาขากาญจนบุรี แต่ปรากฏว่าวันนี้ เจ้บ้าบิ่น ไม่ได้เดินทางมาตั้งแผงขายลอตเตอรี่ ส่วนฝั่งตรงกันข้าม ไม่พบว่า น.ส.พัชริดา พรมตา หรือเจ้พัช ที่เป็นพยานและกล่าวยืนยันมาโดยตลอดว่าได้ขายลอตเตอรี่ให้กับเจ้บ้าบิ่น ซึ่งปรากฎว่าเจ้พัช ไม่ได้เดินทางมาขายลอตเตอรี่เช่นกัน
ต่อมาผู้สื่อข่าวได้ไปที่บ้านพักของเจ้บ้าบิ่น ที่อยู่ภายในชุมชนเตาปูน 3 เขตเทศบาลเมืองกาญจนบุรี เมื่อไปถึงพบรถจักรยานยนต์ รวมทั้งรถสารี่ขายของจอดอยู่ภายในบริเวณบ้าน ส่วนประตูยังคงแง้มเอาไว้เล็กน้อย ผู้สื่อข่าวจึงเข้าไปเรียก แต่เจ้บ้าบิ่นไม่ได้ขานตอบรับ แต่มีเสียงผู้ชาย คาดว่าน่าจะเป็นลูกชายของเจ้บ้าบิ่น ตะโกนออกมาจากในบ้านเพื่อต่อว่าสื่อมวลชน ในลักษณะที่กำลังเกิดความโมโห จากสถานการณ์ดังกล่าว สื่อเห็นท่าหากยังอยู่ท่าจะไม่ได้จึงตัดสินใจเดินทางกลับ
จากนั้นได้ไปพบกับนางปณัญชยา สุขผล หรือ เจ้เกียว อายุ 50 ปี ผู้ค้าสลากรายใหญ่ของจังหวัดกาญจนบุรี และเป็นพยานแวดล้อมคนสำคัญของฝ่ายครูปรีชา ซึ่งขณะนั้นมีลูกค้าทยอยเดินทางมาซื้อลอตเตอรี่ที่แผงเจ้เกียวอย่างต่อเนื่อง และเมื่อเจ้เกียวเห็นสื่อมวลชนก็ได้กล่าวทักทายผู้สื่อข่าวอย่างอารมณ์ดี โดยไม่แสดงอาการอะไรออกมาให้สื่อได้เห็น ที่สำคัญเจ้เกียว พร้อมที่จะตอบข้อสักถามของสื่อมวลชนด้วยความเต็มใจ จึงทำให้บรรยากาศเป็นไปอย่างกันเอง นอกจากนี้สื่อมวลชนที่ไปทำข่าวก็ได้เลือกซื้อลอตเตอรี่ของเจ้เกียวอีกด้วย
ทั้งนี้ เจ้เกียวเอง ยืนยันในคำถามที่สื่อมวลชนซักถามเหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา โดยหากถูกออกหมายเรียกก็พร้อมที่จะเดินทางไปพบพนักงานสอบสวนที่กองปราบฯหรือหากถูกออกหมายจับก็พร้อมที่จะเข้ามอบตัวและประกันตัวออกมาต่อสู้คดีจนถึงที่สุดเช่นกัน นอกจากนี้เจ้เกียวยังยืนยันว่าขณะที่นายปรีชา เดินทางมารับลอตเตอรี่ที่สั่งจองเอาไว้กับเจ้บ้านบิ่น เมื่อช่วงเย็นของวันที่ 31 ต.ค.60 ซึ่งวันดังกล่าวที่เรดซิตี้มีการขายตลาดนัด
โดยเจ้เกียว เล่าว่า ในวันดังกล่าวมีแผงขายลอตเตอรี่อยู่ 4 แผง เป็นของตน 2 แผง ของเจ้พัช 1 แผง ตั้งอยู่ขวามือและของเจ้บ้าบิ่นอีก 1 แผง ตั้งอยู่ซ้ายมือของตน ดังนั้น การที่ครูปรีชามารับลอตเตอรี่นั้น ตนจึงเห็นเหตุการณ์ และรู้ทุกอย่าง ดังนั้น จึงกล้าที่จะมาเป็นพยานแวดล้อมให้กับครูปรีชา
แนะ ป.นำ"ลุงจรูญ"จำลองเหตุการณ์บ้าง
เจ้เกียว เปิดเผยว่า อยากจะฝากไปถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบว่า เราทุกคนยินดีและพร้อมที่จะให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ และไม่เคยมีข้ออะไรกับเจ้าหน้าที่กองปราบมาก่อน คือที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่กองปราบได้นำตัวครูปรีชามาจำลองเหตุการณ์ และในวันที่มาจำลองเหตุการณ์นั้น ก็เป็นวันที่มีการขายตลาดนัดจริง สถานที่จริง สภาพแวดล้อมก็จริง
ดังนั้น จึงอยากจะให้เจ้าหน้าที่กองปราบฯเชิญตัว ร.ต.ท.จรูญ มาจำลองเหตุการณ์ในวันที่มีการขายตลาดนัดเช่นเดียวกับวันที่นำตัวครูปรีชามาจำลองเหตุการณ์ดูบ้าง ซึ่งพวกตนขอยืนยันว่าในวันดังกล่าวไม่มีแม่ค้าคนใดใช้ผ้ามาปิดบังใบหน้า เลยแม้แต่คนเดียว ดังนั้น หากหมวดจรูญ ได้มาซื้อลอตเตอรี่จริง ถึงแม้อ้างว่าจะจำไม่ได้ เชื่อว่าอย่างน้อยก็ต้องคับคล้ายคับคราใบหน้าแม่ค้าบ้าง และอย่างน้อยก็น่าจะจำแผงลอตเตอรี่ที่ซื้อได้ไม่มากก็น้อย แต่อย่างไรก็ตามจากกระแสข่าวที่ออกมาว่า กองปราบจะขอหมายจับอย่างน้อยสองคน แต่ก็เป็นเพียงข่าวลอย ส่วนเรื่องกระแสที่ว่าลอตเตอรี่เป็นของหมวดจรูญ ก็เป็นเพียงกระแสข่าวเช่นกัน
ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า หลังจากได้พูดคุยกับเจ้เกียวแล้วเสร็จ ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปพบ ร.ต.ท.จริญ วิมูลที่บ้านพัก ภายในหมู่บ้านศิริชัยวังสารภี หมู่ 8 ต.ปากแพรก อ.เมือง จ.กาญจนบุรี พบว่าหมวดจรูญอยู่บ้านกับนางลาวัลย์ ภรรยา ผู้สื่อข่าวถามว่า จากกระแสข่าวที่ว่าทางกองปราบได้สรุปแล้วว่าลอตเตอรี่นั้นเป็นของหมวดจรูญ ไม่ใช่ของครูปรีชา ซึ่งหมวดจรูญ ตอบว่า ยังไม่ทราบเรื่องดังกล่าวจริงๆ และยังไม่ทราบว่าทางกองปราบนั้นสรุปออกมายังไง ซึ่งขณะนี้ยังไม่สามารถตอบคำถามได้ จึงขอรอฟังคำแถลงการณ์จากกองปราบก่อน
ส่วนเรื่องขางทนายษิทรา หากจะประสานมา ทางทนายก็จะประสานผ่านมาทางลูกสาว แต่จนถึงขณะนี้ทางทนายก็ยังไม่ได้ประสานมาหาส่วนเรื่องของความรู้สึกขณะนี้ก็ยังคงเป็นปกติ แต่จะให้สบายใจไปเลยเสียทีเดียวนั้นคงเป็นไปไม่ได้ เพราะเรื่องมันยังไม่จบ
หากสมมติว่าทางกองปราบฯ แถลงออกมาว่าลอตเตอรี่เป็นของครูปรีชา ซึ่งทางเราก็พร้อมที่จะสู้ต่อไป ซึ่งคงต้องให้เป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย สำหรับเรื่องเงินที่ถูกอายัดเอาไว้นั้น ขณะนี้ทางเราก็ยังไม่มีการทำเรื่องเพื่อขอให้ถอนอายัดแต่อย่างใด เพราะเราเองก็ไม่ได้รีบร้อนที่จะต้องใช้เงินแต่อย่างใด
ผบก.ป.ติดป้ายห้ามสื่อเข้าก่อนรับอนุญาต
ในช่วงบ่ายวันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณหน้าสำนักงานผู้บังคับการกองปราบปราม ได้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจประจำสำนักงาน พล.ต.ต.ไมตรี ฉิมเฉิด ผบก.ป.นำป้ายมาติดไว้หน้าสำนักงาน ระบุข้อความว่า "พื้นที่หวงห้าม สื่อมวลชนกรุณาขออนุญาตก่อนเข้า" ทั้งนี้ สำหรับป้ายดังกล่าว ถูกนำมาติดภายหลังสื่อมวลชนนำเสนอข่าวว่า "กองปราบปราม เตรียมสรุปคดีหวย 30 ล้าน ว่าใครเป็นเจ้าของ" ซึ่งก่อนหน้านี้ไม่ได้มีการติดป้ายดังกล่าวแต่อย่างใด ซึ่งเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ว่าสาเหตุน่าจะมาจากประเด็นการนำเสนอข่าวดังกล่าว จนทำให้ ผบก.ป.ต้องแถลงต่อสื่อมวลชน โดยตัดพ้อถึงความคลาดเคลื่อนของข่าวที่เผยแพร่ผ่านสื่อมวลชนบางสำนัก จึงขอลดระดับความสัมพันธ์ เกิดเป็นวลีเด็ด "ผมคงต้องขอเว้นระยะห่างกับสื่อมวลชนสักพัก เพื่อให้อยู่ในจุดที่เหมาะสมมากกว่านี้"
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี