"กฤษฏา ยันแนวคิดหยุดกรีดยาง3 เดือน ส่งผลตลาดประเทศจีน ตกใจรีบซื้อยางดันราคาขึ้นวันเดียว 2 บาท ลั่น 3 รมต.เกษตรฯใจสู้ แก้ทุกปัญหา เกษตกรลืมตาอ้าปากได้แน่นอน ด้าน รมช.ลักษณ์ ระบุสัญญาณดี ราคายางขึ้นชัดเจน ตลาดส่งออกทะลุ 53 บาท"
23 ก.พ.61 ที่มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตหาดใหญ่ นายกฤษฏา บุญราช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และนายลักษณ์ วจนานวัช รัฐมนตรีช่วยว่าการเกษตรฯ ได้ร่วมประชุมรับปัญหาจากกลุ่มเกษตรกรชาวสวนยางภาคใต้ และชายแดนใต้ ที่ส่วนใหญ่ต้องการเร่งซื้อยางจากเกษตรกรใช้ในหน่วยงานรัฐเพื่อดึงราคาขึ้น ส่วนการหยุดกรีดยาง 3 เดือน เกษตรกรในที่ดินไม่มีเอกสารสิทธิ เข้าไม่ถึง และการทำงานของ การยางแห่งประเทศไทย(กยท.)ที่ขาดประสิทธิภาพ ไม่เข้าถึงเกษตกร ต่างจากในอดีตที่เป็นสำนักงานกองทุนสงเคราะห์การทำสวนยาง (สกย.) มีบทบาทช่วยเหลือเกษตรกรได้ดีกว่า
โดยนายถนอมเกียรติ ยิ่งฉ้วน ที่ปรึกษาเครือข่ายสถาบันเกษตรกรชาวสวนยางแห่งประเทศไทย ขอให้รัฐมนตรีเกษตรฯใช้อำนาจยับยั้งบอร์ดการยางแห่งประเทศไทย(กยท.) ที่มีมติเดินหน้าโครงการจัดจ้างเอกชนติดตั้งระบบจัดเก็บเงินค่าธรรมเนียมส่งออกยางพารา วงเงิน 800 ล้านบาท และได้รับส่วนแบ่งจากรายได้ 5% เป็นเวลา 5 ปี โดยในทีโออาร์ ไม่ชี้แจงว่า ส่วนแบ่งจากยอดเงินเซสทั้งหมดหรือไม่ที่เก็บได้ปีละ 9,000 ล้านบาท หากเป็นตามนั้น เอกชนจะได้ส่วนแบ่งถึงปีละ 450 ล้านบาท และในทีโออาร์ไม่ได้กำหนดว่า หลังจาก 5 ปี เครื่องมือตรวจวัดน้ำหนักที่ติดตั้งใหม่จะตกเป็นของ กยท.หรือไม่ ซึ่งจริงๆ ไม่ต้องทำการติดตั้ง เพราะสามารถใช้เครื่องชั่งของด่านศุกลากรได้ เพียงแต่ใช้เงินเชื่อมพัฒนาระบบ 44 ล้านบาท โดยไม่ต้องเช่าสถานที่ ไม่ต้องลงทุนติดตั้งเครื่องตราชั่ง บอร์ดกยท.อย่าไปยุ่งเกี่ยวรายได้ที่มาจากเงินเซส ต้องที่นำมาพัฒนาเกษตรกร
"การประชุมบอร์ดกยท.มีการลงมติ 15 ต่อ 6 ไม่ใช่เป็นมติเอกฉันท์แต่อย่างใด และความจริงตัวแทนเกษตรกรกว่า10 คนที่อยู่ในการประชุม และตัวแทนจากกระทรวงการคลัง ต่างแสดงความเห็นคัดค้านทุกคน ดังนั้น เครือข่ายเกษตรกรกว่า20 แห่งจะประชุมแถลงข่าคัดค้านเรื่องนี้ วันที่ 28 ก.พ.61 ที่การยางแห่งประเทศไทย หากบอร์ด กยท.ยังเดินหน้าต่อไป จะตั้งเวทีขับไล่จนกว่าประธานบอร์ด และผู้ว่าฯกยท.จะลาออกจากตำแหน่ง" นายถนอมเกียรติ กล่าว
โดยนายกฤษฏา ได้สั่งการให้รองปลัดกระทรวง ทำหนังสือด่วนถึงประธานบอร์ด และผู้ว่าฯ กทย.โดยใช้อำนาจ ในมาตรา 69 ที่ให้ กยท.อยู่ภายใต้การกำกับทั่วไปของ รมว.เกษตร แจ้งข้อห่วงใยเพื่อพิจารณา ผลดีผลเสีย ที่กยท.ต้องรับผิดชอบตามกฎหมาย และข้อกังวลเรื่องจุดอ่อนการเก็บเงินเซส ควรชี้แจงให้ทุกฝ่ายเกิดความเข้าใจมากขึ้น ที่จะทำให้สังคมได้รับรู้ถึงจุดอ่อนในระบบปัจจุบัน อยู่ตรงไหน หากมีเครื่องมือไปติดตั้งจะไม่รั่วไหล และปัญหาการรั่วไหลปีละพันกว่าล้านบาทได้ตั้งกรรมการสอบหาผู้รับผิดชอบได้หรือยัง ซึ่งก่อนเดินหน้าประมูลต้องชัดเจนข้อกำหนดทีโออาร์ ที่ให้เอกชน ได้ส่วนแบ่งการเก็บ
นายกฤษฏา กล่าวว่าปัญหาของ กยท.มีหลายประเด็นทั้งการแจกปุ๋ย ซึ่งเกษตรกรร้องเรียนมาตลอด ได้ปุ๋ยไม่ตรงสูตร และต้องเสียค่าขนส่งเอง ทำให้มีราคาแพงกว่าเกษตรกรซื้อเอง อีกทั้งยังล่าช้ากว่าจะได้ปุ๋ยเข้าหน้าฝนแล้ว จึงสั่งให้ผู้ว่าฯ กทย.วางแผนการซื้อปุ๋ยให้เกษตรกร หรือจ่ายเงินให้เกษตรกรไปซื้อเอง ไปทำแผนมาเสนอตนเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาในรอบหน้า และให้เจ้าหน้าที่ กยท.ทั้ง 4 ภาคประสาน ทรัพยากรฯจังหวัดให้ส่งรายละเอียด จำนวนเกษตรกรสวนยางที่อยู่ในป่าก่อนปี2541จะได้รู้ว่าพื้นที่สวนยางมีเท่าไหร่ที่ไม่มีเอกสารสิทธิ และที่เข้ารับสิทธิจากรัฐได้
นายกฤษฏา กล่าวอีกว่าตนแก้ปัญหาด้วยสมอง และใจสู้ ซึ่งแนวคิดตนหยุดกรีดยาง ทูตเกษตรที่เซียงไฮ้ ประเทศจีน ยืนยันว่า ตลาดยางล่วงหน้าตอบรับดีมาก เพราะตกใจมาตรการนี้รีบซื้อ ตลาดโตคอม ราคาขึ้นวันเดียว 2 บาท
"สัปดาห์หน้าจะเชิญทูตประเทศเวียดนาม อินโดนีเซีย มาเลเซีย มาพบเพื่อเจรจาร่วมมือหยุดกรีดยาง ช่วงเดือน พ.ค- ก.ค. จ่ายเงินชดเชยเกษตรกรเดือนละ1.5 พันบาทต่อไร่ 3 เดือน จะเป็นพื้นที่ติดกันเป็นแปลงใหญ่ ตรวจสอบง่าย ขอถ้วยยางมาแลกเงินรอบแรกไป ครบสองเดือนไม่มีรอยกรีดใหม่ เอาถ้วยคืนไปรับเงินงวดสุดท้าย ผมฝากไว้ให้คิด ซึ่งผม และรมช.สองคน จะไม่ยอมแพ้ ตราบใดยังเป็นรมต.เกษตร ทำให้เกษตรกรลืมตาอ้าปากได้"นายกฤษฏา กล่าว
ด้านนายลักษณ์ กล่าวว่าเร่งประชุมหน่วยงานท้องถิ่น นำยางไปทำถนน 1 หมุ่บ้าน 1 กม.การใช้น้ำยางมหาศาล โดยรมว.เกษตรฯไม่ยอมแพ้ จะไปคุยอปจ.อปท.โน้มน้าวใช้เงินสะสมมาทำถนนพาราซอยซีเมนต์ อายุการใช้งานนานกว่า ซึ่งกยท.ต้องส่งทีมไปคุยทุกกับทุกตำบลด้วย พร้อมกันนี้ รมว.เกษตร ได้หารือกับนายกฯให้งบเพิ่มกับกรมชลประทาน 3.5 พันล้าน นำยางทำถนนซ่อมแซมคันคลอง
"รมว.เกษตรฯบอกว่าเราตั้งหลักๆดี เพราะนายกฯให้ทำต่อเนื่องการใช้ยาในประเทศ ปี 62 เรียกทุกหน่วยงานมา ขอสำนักงบประมาณ มากำหนดทีโออาร์ นำยางทำถนนเป็นนโยบายสำคัญ นายกฯบอกว่าถ้าใครไม่ทำถือว่าขัดนโยบาย เราต้องพึ่งตัวเองให้มาก อย่าไปพึ่งแต่ส่งออก และให้งบมาอีก 3 พันล้านบาท เริ่มปรับเปลี่ยนพื้นที่ปลูกยาง 1.5 แสนไร่ ไปทำแนวเกษตรทษฎีใหม่ ภายในกันยายนนี้ ส่วนมาตรการระยะยาว ต้องทำให้เกษตรกรรู้ราคาซื้อขายในตลาด จะตั้งบริษัทซื้อขาย ส่งออก เหมือนบริษัทอ้อยและน้ำตาลทราย แบ่งกัน30/70 เป็นเรื่องใหญ่มาก จะเชิญทีดีอาร์ไอ มาหารือในการแบ่งปันตลาดอย่างเป็นธรรม มั่นใจราคายางจากนี้ขยับขึ้นเพราะราคาตลาดส่งออกอยู่ 53 บาทแล้ว" นายลักษณ์ กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี