กอ.รมน.ภาค 4 แจ้งดำเนินคดีโรงเรียนปอเนาะ หลังตรวจค้นพบเอกสารปลุกระดมต่อต้านรัฐ ใช้โรงเรียนเป็นแหล่งฝึกปฏิบัติการขนาดเล็กของ RKK ยึดถังแก๊ส ถังดับเพลิง ปุ๋ยยูเรีย เครื่องมือขุดเจาะหลุมระเบิดใต้ถนน สุดอึ้ง!พบบัญชีงบประมาณโรงเรียน มีเงินอุดหนุน33ล้าน ส่อทุจริต
เมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่หน่วยเฉพาะกิจปัตตานี พล.ต.จตุพร กลัมพสุต ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจ(ผบ.ฉก.)ปัตตานี พล.ต.ต.ปิยะวัฒน์ เฉลิมศรี ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด(ผบก.ภ.จ.)ปัตตานีพ.ต.อ.สิริวิชญ์ ชาญเตชะสิทธิ์กุล ผู้อำนวยการ(ผอ.)ศูนย์ปฏิบัติการคดีพิเศษจังหวัดชายแดนภาคใต้พร้อมผู้บังคับหน่วยกำลังในพื้นที่ จ.ปัตตานี ร่วมแถลงความคืบหน้าการติดตามจับกุม11ผู้ก่อความไม่สงบรายสำคัญโดยเฉพาะคือ นายสาลาฮูดิง ลาเตะ หรือเลาะแคนา และนายมาหามะ เจ๊ะและพร้อมพวก รวม9คน
โดยพล.ต.จตุพร กล่าวว่าผลการสอบสวน ได้ขยายผลการสามารถจับกุมทั้ง 11 ราย นำไปสู่การตรวจค้นพบอุปกรณ์ประกอบระเบิดจำนวนมาก ถูกฝังไว้ในพื้นดินภายในป่า ใน ต.บางเขา อ.หนองจิกและเอกสารปลุกระดมมวลชน เอกสารการฝึกชุดปฏิบัติการณ์ของชุดปฏิบัติการขนาดเล็ก หรือ RKK รวมไปถึงผลการบันทึกการประชุมเกี่ยวกับการต่อสู้ทางยุทธศาสตร์ของกองทัพรัฐปัตตานี จำนวนมาก ซึ่งจากการตรวจสอบเอกสารทั้งหมดพบว่า เป็นเอกสารขับเคลื่อนการต่อสู้เพื่อต่อต้านรัฐและที่สำคัญผู้ต้องสงสัยบางคนยังสารภาพว่ากลุ่มก่อความไม่สงบทั้งที่มีหมายจับและกลุ่มแนวร่วมได้แฝงตัวในหมู่บ้านหลายแห่งใน ต.บางเขา อ.หนองจิก รวมไปถึงได้เข้าไปมาฝึกชุดปฏิบัติการขนาดเล็กในโรงเรียนบ้านบากงพิทยา ต.บางเขา เจ้าหน้าที่จึงได้ตัดสินใจเข้าทำการตรวจค้น ปรากฏพบเอกสารสำคัญและวัตถุพยาน ที่น่าเชื่อว่าเกี่ยวข้องกับการก่อเหตุร้ายหลายรายการ สอดคล้องกับคำให้การของผู้ต้องสงสัย
สำหรับหลักฐานที่ยึดได้เป็นเอกสารสำคัญที่มีเนื้อหาประวัตศาสตร์บิดเบือนทำให้เกิดความเกลียดชังระหว่างประชาชน เอกสารต่อต้านเจ้าหน้าที่ฝ่ายรัฐ และเอกสารบิดเบือนข้อเท็จจริงกล่าวหาในเรื่องที่ศาลมีคำสั่งยึดที่ดินของโรงเรียนญีฮัดวิทยาให้ตกเป็นทรัพย์สินของแผ่นดินโดยเอกสารดังกล่าวเป็นภาษาของประเทศเพื่อนบ้าน อีกทั้งยังยึดถังแก๊ส ถังดับเพลิง ปุ๋ยยูเรีย และ เครื่องมือขุดเจาะหลุมระเบิดใต้ถนน ซึ่งได้นำไปทำการตรวจสอบในทางนิติวิทยาศาสตร์ว่าจะตรงกับหลักฐานเชื่อมโยงกับบุคคลหรือคนร้ายที่ก่อเหตุความไม่สงบก่อนหน้านี้หรือไม่และยังตรวจพบหลักฐานสำคัญที่คาดว่าเกี่ยวข้องกับการทุจริตงบประมาณของรัฐในโครงการอุดหนุนรายหัวนักเรียน และค่าตอบแทนครู เงินเสี่ยงภัย เงินช่วยเหลือค่าครองชีพและสวัสดิการอื่นๆ ของครู รวมไปถึงค่าอาหารกลางวันและอุปกรณ์การเรียนของนักเรียน
โดยพบว่าโรงเรียนจ้างให้บริษัทเอกชนจัดทำการตรวจสอบบัญชี ทราบว่าโรงเรียนบากงพิทยาได้รับเงินอุดหนุนปีละประมาณ 33ล้านบาท ในจำนวนนี้เป็นค่าตอบแทนรายเดือนของครู จำนวน 17ล้านบาท จากรายชื่อครู จำนวน 121คน ซึ่งเป็นจำนวนที่เกินความจริงถึง 76คน หรือคิดเป็นงบประมาณ 12ล้านบาทต่อปี และหากรวมเงินอุดหนุนอื่นๆอีก คาดว่าผู้บริหารโรงเรียนบางคนอาจจะทุจริตจากเงินอุดหนุนการศึกษาของรัฐในโครงการเรียนฟรี 15ปีและที่สำคัญยังพบว่า ครูสอนศาสนาบางคนมีพฤติกรรมให้การสนับสนุนและอบรมบ่มเพาะแนวคิดอิสลามแนวทางที่รุนแรงด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าทั้งนี้ ทางกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน ภาค 4 ส่วนหน้า ได้มอบหมายให้ฝ่ายกฎหมาย ดำเนินการแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษต่อผู้บริหารโรงเรียนบางคนของโรงเรียนบากงพิทยา ที่ สภ.หนองจิก จ.ปัตตานี เพื่อให้การดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี