เจ้าหน้าที่ชุดEODพบจุดที่คนร้ายวางบึ้มในห้างที่นราธิวาสแล้ว เป็นระเบิดกระเป๋าสตางค์ซุกไว้ในล็อกเก็บกระป๋องสเปยร์ปรับอากาศรถยนต์ซึ่งเป็นวัตถุไวไฟหวังขยายผลเผาเหี้ยนทั้งห้าง แฉเป็นฝีมือของโจรใต้รุ่นใหม่ยังไม่มีประวัติในแฟ้มคดี คาดแบ่งงานเป็นทีมไม่ต่ำกว่า10คนก่อนเผ่นกบดานในพื้นที่รอยต่อประเทศเพื่อนบ้าน เผยเป้าหมายต้องการโจมตีย่านเศรษฐกิจมากกว่าหวังเอาชีวิต
เมื่อเวลา 12.30 น.วันที่ 25 ก.พ.61 เจ้าหน้าที่ขุดเก็บกู้ทำลายวัตถุระเบิด เหยี่ยวดง หน่วยปฏิบัติการพิเศษ ตำรวจภูธรและเจ้าหน้าที่ชุดพิสูจน์หลักฐาน กองวิทยาการ ตำรวจภูธร จ.นราธิวาส ใช้เวลาค้นหาวัตถุพยานนานกว่า 4 ชั่วโมงภายในอาคารห้างซุปเปอร์ 4 ดีพาร์ทเม้นต์สโตร์ เป็นห้างค้าปลีกใหญ่ที่สุดของ จ.นราธิวาส ตั้งอยู่ริมถนนจำรูญนรา เขตเทศบาลเมืองนราธิวาส หลังถูกคนร้ายลอบวางระเบิดเผาห้างจนได้รับความเสียหายทั้งอาคาร เหตุเกิดเมื่อวันที่ 23 ก.พ.61 ที่ผ่านมา
พบจุดวางระเบิดกระเป๋าในล็อก2
มีรายงานว่า เจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้ทำลายวัตถุระเบิดพบหลักฐานสำคัญที่คนร้ายนำระเบิดมาวางซุกไว้ในล็อกที่ 2 ซึ่งเป็นประตูทางเข้าทางด้านหลังที่วางเรียงรายไว้ในตัวอาคารประมาณ 6 ล็อก ซึ่งเป็นล็อกจำหน่ายสินค้าประเภทกระป๋องสเปรย์ฉีดกันชื้นภายในห้องแอร์ หรือห้องโดยสารรถยนต์ โดยเป็นวัตถุระระเบิดแบบกระเป๋า”สตางค์”แบบพกพาจำนวน 2 ลูกวางใกล้กัน
เจอเศษชิ้นส่วนนาฬิกาดิจิตอล
นอกจากนี้ ยังพบชิ้นส่วนกระเป๋าถูกความร้อนเผาจนละลายพร้อมกับเศษนาฬิกาแบบดิจิตอล เศษวงจรและสารประกอบระเบิดอยู่ในสภาพไหม้เกรียมทั้ง 2 อัน และห่างกันประมาณ 5 เมตร ตรงบริเวณล็อกที่ 4 เจ้าหน้าที่พบเศษวัตถุระเบิดอีก 1 จุด ซึ่งถูกไฟไหม้เกรียมและเป็นระเบิดชนิดเดียวกันอีกด้วย
แผนชั่วหวังผลให้เกิดไฟไหม้
แหล่งข่าวกล่าวว่า สำหรับสาเหตุที่คนร้ายนำวัตถุระเบิดมาวางซุกไว้ในล็อกของสินค้า ประเภทกระป๋องสเปรย์กันชื้น เนื่องจากภายในกระป๋องสเปรย์ฉีกกันชื้นมีส่วนผสมของแก๊สเป็นหลักที่สามารถติดไฟได้ง่าย และเมื่อระเบิดเกิดระเบิดขึ้นจะสร้างประกายไฟที่รุนแรงและเมื่อกระป๋องฉีดสเปรย์ระเบิดและจะปล่อยแก๊ส พุ่งเป็นแรงสนับสนุนทำให้เกิดประกายไฟขนาดใหญ่ขึ้นจนลามไปติดสินค้าอื่นๆในทันที จึงเกิดไฟไหม้ในวงกว้างภายในอาคารที่ไม่มีทางระบายอากาศ เพราะเวลาที่เกิดเหตุทางพนักงานได้ปิดประตูทุกบานทำให้ไฟไหม้ลามไปยังบริเวณข้างเคียงได้อย่างรวดเร็ว
เป้าหมายโจมตีร้านค้าย่านเศรษฐกิจ
แหล่งข่าวในพื้นที่แจ้งด้วยว่า กลุ่มคนร้ายที่ลอบนำวัตถุระเบิดชนิดใหม่แบบกระเป๋าสตางค์นำมาใช้เพื่อวินาศกรรมเผาร้านค้าย่านเศรษฐกิจสำคัญๆเป็นกลุ่มวัยรุ่นๆ ใหม่ที่ถูกฝึกมาปฏิบัติการณ์โดยเฉพาะ และไม่มีหมายใดๆ จากฝ่ายความมั่นคง โดยมีกลุ่มโจรรุ่นพี่อยู่เบื้องหลังคอยวางแผนและสั่งการให้กลุ่มนี้นำวัตถุระเบิดไปก่อเหตุตามเป้าหมายที่ถูกเลือกไว้ และตระเวรดูต้นทางไว้ก่อนหน้านี้แล้ว โดยมีการวางแผนไว้ล่วงหน้า
เผ่นกบดานพื้นที่รอยต่อของมาเลย์
ล่าสุดมีรายงานว่า กลุ่มคนร้ายได้หลบหนีออกนอกพื้นที่ไปซ่อนตัวในพื้นที่ใกล้เคียง โดยเฉพาะพื้นที่อำเภอที่มีเขตรอยต่อกับประเทศเพื่อนบ้าน
คาดใช้ทำงานเป็นทีมไม่ต่ำกว่า10คน
แหล่งข่าวระบุด้วยว่า สำหรับคนร้ายที่ร่วมก่อเหตุในครั้งนี้เจ้าหน้าที่คาดว่ามีจำนวนไม่ต่ำกว่า 10 คน โดยแบ่งหน้าที่เป็นคนขับรถจักยานยนต์ 1 คน และอีก 1 คน ทำหน้าที่แอบนำวัตถุระเบิดไปวางซุกไว้ในร้านค้าเป้าหมาย และยังมีคนที่ทำหน้าที่ดูต้นทางอีก 1 คน รวมจุดละ ไม่น้อยกว่า 3 คน รวม 3 จุด น่าจะใช้คนไม่น้อยกว่า 10 คน
เน้นเผาร้านมากกว่ามุ่งเอาชีวิต
ในการลงมือนั้นจะเลือกสถานที่ที่ไม่มีหรือห่างจากกล้องวงจรปิด โดยนำมาวางไว้ก่อนที่ร้านจะปิดไม่นาน ซึ่งโดยปกติร้านค้ามักจะปิดร้านในช่วงเวลา ประมาณ 22.00 น.และเมื่อวางซุกไว้ในร้านค้าแล้ว คนร้ายได้มีการตั้งเวลาระเบิดไว้ที่หลัง 00.00 น.เนื่องจากเป็นช่วงเวลาที่เจ้าของร้านปิดร้านและพักผ่อนแล้ว โดยการกระทำในครั้งนี้ คนร้ายมุ่งเน้นเปาร้านค้ามากกว่ามุ่งหวังในชีวิต เนื่องจากเป็นวัตถุระเบิดชนิดเล็กที่ไม่มีสะเก็ดระเบิด
ตร.ชี้ระเบิดกระเป๋าป้องกันยาก
ด้าน ร.ต.อ.พลวัฒน์ เทพษร รอง หน.ชุดเก็บกู้และทำลายวัตถุระเบิด กองกำกับการปฏิบัติการพิเศษตำรวจภูธร จ.นราธิวาส เผยว่า การทำงานของระเบิดกระเป๋า มีการวิวัฒนาการเพื่อนำมาอำพรางก่อเหตุในการตบตาเจ้าหน้าที่ และง่ายต่อการเล็ดลอดเข้าไปก่อเหตุในพื้นที่เป้าหมาย ซึ่งระเบิดกระเป๋าทำงานแบบง่ายๆ คือ ตั้งเวลาปลุกจากนาฬิกาดิจิตอลเพื่อให้วงจรทำงานจนเกิดความร้อน และความร้อนดังกล่าวจะเป็นตัวจุดหัวไม้ขีดให้เกิดเปลวไฟ แล้วไปทำให้แอลกอฮอล์แห้งเกิดลุกไหม้ เป้าหมายของกลุ่มคนร้ายมักจะแฝงตัวไปวางไว้บริเวณที่มีสินค้าจำนวนมาก ซึ่งจะทำให้เกิดไฟไหม้อย่างรวดเร็ว
เตรียมประเมินความเสียหายตัวตึก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ส่วนเจ้าหน้าที่เทศบาลเมืองนราธิวาส เตรียมวางแผนและนำกำลังคนอุปกรณ์หนักเพื่อขนย้ายสินค้าที่ได้รับความเสียหายในตัวอาคารออกไปทิ้ง เพื่อให้เจ้าหน้าที่ด้านการประเมินตัวตึกและอาคารมาทำการประเมินความเสียหายของตัวอาคารในวันพรุ่งนี้ (26 ก.พ.) เพื่อสำรวจดูว่าตัวอาคารได้รับความเสียหายมากน้อยแค่ไหนและยังสามารถกลับมาซ่อมแซมเพื่อใช้งานได้อีกหรือไม่
ย้ายพนักงาน80ชีวิตไปแผนกอื่น
สำหรับพนักงานแผนกซุปเปอร์มาร์เก็ตที่ทำงานภายในตึกเกิดเหตุ จำนวนประมาณ 80 ราย ล่าสุดถูกย้ายไปทำงานในแผนกเสื้อผ้า เครื่องสำอาง รองเท้า เพื่อเป็นการแก้ปัญหาให้กับพนักงานได้ทำงานครบเดือนโดยที่ไม่ต้องหยุดงาน และแผนกดังกล่าวจะเปิดจำหน่ายอีกครั้งในวันที่ 1 มี.ค.61 นี้ เนื่องจากตึกในแผนกดังกล่าวเป็นอาคารชั้นเดียว รวม 7 ห้อง และไม่ได้รับความเสียหายแต่อย่างใด
ระดมจนท.-อาสาสมัครคุมเข้ม24ชม.
ส่วนการรักษาความปลอดภัยในรอบบริเวณห้างซุปเปอร์ 4 ดีพาร์ทเม้นต์สโตร์ ซึ่งตั้งอยู่บนถนนจำรูฐนรา เขตเทศบาลเมืองนราธิวาส มีเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองนราธิวาส และเจ้าหน้าที่อาสาสมัครรักษาดินแดน อ.เมือง และเจ้าหน้าที่อาสาสมัครป้องกันเมืองคอยดูแลตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อป้องกันไม่ให้คนร้ายกลับมาก่อเหตุซ้ำอีกเนื่องจากบริเวณดังกล่าวเป็นย่านธุรกิจสำคัญมีร้านค้าและที่อยู่อาศัยเป็นจำนวนมาก
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี