รายงานพิเศษ : กรมส่งเสริมสหกรณ์  ขยายความร่วมมือไปยังประเทศเพื่อนบ้าน

รายงานพิเศษ : กรมส่งเสริมสหกรณ์ ขยายความร่วมมือไปยังประเทศเพื่อนบ้าน

วันอังคาร ที่ 27 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561, 06.00 น.

กรมส่งเสริมสหกรณ์ โดยศูนย์ถ่ายทอดเทคโนโลยีการสหกรณ์ที่ 5 นครราชสีมา ขยายความร่วมมือส่งเสริมงานสหกรณ์ไปยังประเทศเพื่อนบ้าน ทำบันทึกข้อตกลงความร่วมมือกับกรมส่งเสริมกสิกรรมและสหกรณ์ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว จัดทำหลักสูตร “การจัดตั้งสหกรณ์ในสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว” เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับวิธีการจัดตั้งสหกรณ์และมีความรู้เกี่ยวกับธุรกิจในรูปแบบสหกรณ์ได้อย่างถูกต้อง เพื่อที่จะสามารถจัดตั้งสหกรณ์ในสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวได้อย่างเป็นระบบ ซึ่งจะเป็นกลไกหลักในการพัฒนาอาชีพเกษตรกรรมในภูมิภาคให้มีความเข้มแข็ง มั่นคงและยั่งยืนต่อไป

นายกัณวีย์ บุญญพันธุ์ ผู้อำนวยการศูนย์ถ่ายทอดเทคโนโลยีการสหกรณ์ที่ 5 สำนักพัฒนาและถ่ายทอดเทคโนโลยีการสหกรณ์ เปิดเผยว่า จากการที่กรมส่งเสริมสหกรณ์ได้เล็งถึงความสำคัญของความร่วมมือในการพัฒนาสหกรณ์ในภูมิภาคอาเซียนให้มีความเข้มแข็ง เพื่อเป็นกลไกหลักในการพัฒนาอาชีพเกษตรกรรมในภูมิภาคให้มีความเข้มแข็ง มั่นคง และยั่งยืน จึงได้ร่วมมือกับกรมส่งเสริมกสิกรรมและสหกรณ์ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว จัดทำบันทึกข้อตกลงความร่วมมือตามโครงการความร่วมมือด้านการเกษตรระหว่างไทย-ลาว โดยมุ่งเน้นในการส่งเสริมสหกรณ์ของสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวอย่างเป็นระบบ โดยในเบื้องต้นทาง สปป.ลาว มีความประสงค์จัดตั้งสหกรณ์ใน 3 แขวง ได้แก่ แขวงไชยบุรี นครหลวงเวียงจันทน์ และแขวงจำปาสัก เพื่อส่งเสริมให้เป็นสหกรณ์ต้นแบบเพื่อขยายผลต่อไปในพื้นที่อื่น ซึ่งกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้มอบหมายให้กรมส่งเสริมสหกรณ์และกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ดำเนินการประสานงานตามโครงการความร่วมมือด้านการเกษตรระหว่างไทย-ลาว และได้มีการจัดประชุมร่วมกันของผู้บริหารในระดับกรมฯ และในระดับพื้นที่ของทั้งสองประเทศ


ทั้งนี้ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว มีความต้องการจัดตั้งสหกรณ์ แต่ประชาชนยังขาดความเข้าใจในเรื่องสหกรณ์ ไม่เห็นความสำคัญของสหกรณ์ ไม่มีความรู้ความเข้าใจในเรื่องการรวมกลุ่ม พนักงานส่งเสริมของบริษัท/ภาครัฐบาลของสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ยังไม่มีความรู้ความเข้าใจในด้านการสหกรณ์ ประชาชนไม่มีความเข้าใจเรื่องการสหกรณ์ ประชาชนส่วนใหญ่ที่สมัครเข้าเป็นสมาชิก ก็เพื่อหวังผลประโยชน์ส่วนตัว ในขณะที่คณะกรรมการของสหกรณ์ก็ไม่มีความรู้ความเข้าใจเรื่องการสหกรณ์อย่างแท้จริงและขาดความรู้ในเรื่องของการจัดทำบัญชีของสหกรณ์ ดังนั้น ด้วยความเห็นชอบทั้งสองฝ่าย จึงได้กำหนดให้มีการฝึกอบรมด้านการสหกรณ์ให้แก่ผู้นำกลุ่มคณะกรรมการ เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องของกรมส่งเสริมกสิกรรมและสหกรณ์ บริษัทไฟฟ้าหงสา จำกัด ตามแผนงานที่ได้จัดทำร่วมกันจัดฝึกอบรมในประเทศไทย โดยฝ่ายไทยจะรับผิดชอบค่าที่พัก ค่าอาหาร และค่าพาหนะ นับแต่ชายแดนฝั่งไทย และส่งนักวิชาการสหกรณ์ เจ้าหน้าที่ของไทยไปติดตามและให้คำแนะนำในฝั่งสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว

“ความคืบหน้าการดำเนินการ กรมส่งเสริมสหกรณ์ได้เห็นชอบในหลักการให้ศูนย์ถ่ายทอดเทคโนโลยีการสหกรณ์ที่ 5 จังหวัดนครราชสีมา จัดฝึกอบรมตามโครงการความร่วมมือด้านการสหกรณ์ระหว่างไทย-ลาว หลักสูตร “การจัดตั้งสหกรณ์ในสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว” โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับวิธีการจัดตั้งสหกรณ์และมีความรู้เกี่ยวกับธุรกิจในรูปแบบสหกรณ์ได้อย่างถูกต้อง เพื่อที่จะสามารถจัดตั้งสหกรณ์ในสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวได้ โดยจะมีการให้ความรู้เกี่ยวกับการสหกรณ์อย่างรอบด้าน ทั้งเรื่องการสหกรณ์ การจัดตั้งสหกรณ์ กฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับที่เกี่ยวข้องกับสหกรณ์ การดำเนินธุรกิจของสหกรณ์ รวมถึงเรื่องบัญชี ซึ่งผู้เข้าร่วมโครงการประกอบด้วยผู้นำกลุ่มเกษตรกร ผู้แทนกลุ่ม เจ้าหน้าที่ภาครัฐของสปป.ลาว จากแขวงไชยบุรี นครหลวงเวียงจันทน์ และจำปาสัก รวม 50 คน โดยผู้เข้าอบรมจะได้เรียนรู้ทั้งภาคทฤษฎี และภาคปฏิบัติ รวมถึงไปศึกษาดูงานสหกรณ์ที่ประสบความสำเร็จในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา โดยโครงการนี้จะกำหนดจัดในระหว่างวันที่ 18 มีนาคม ถึงวันที่ 1 เมษายน 2561 ที่จะถึงนี้”นายกัณวีย์ กล่าวทิ้งท้าย

 

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top