คุม‘ธรรมกาย’
ห้ามโปรยดอกไม้ริมถนนอีก
สุวพันธุ์โยนถามดีเอสไอ
ตอนนี้‘ธัมมชโย’อยู่ไหน
สั่งพศ.จัดการพระนอกรีต
“สุวพันธุ์” จี้ผอ.พศ.กระตุ้นสำนักพระพุทธฯจังหวัดทำงานเชิงรุกกวดขันพระนอกรีตทั้งคดีมาบวช เสพยา เสพเมถุน ปัดตอบ “ธัมมชโย” กบดานอยู่ที่ไหน พร้อมสั่งพศจ.ถกสาขา วัดพระธรรมกายทุกจังหวัดทำกิจกรรมให้รายงานยิบลั่นต่อไปจะไม่เห็นเดินโปรยดอกไม้ริมถนนอีกแล้ว
เมื่อวันที่ 1 มีนาคม นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะกำกับดูแลสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) เปิดเผยว่า ได้หารือกับพ.ต.ท.พงศ์พร พราหมณ์เสน่ห์ ผู้อำนวยการ พศ. โดยมอบนโยบายให้สำนักงาน พศ. ส่วนจังหวัด (พศจ.) ทั่วประเทศทำงานเชิงรุกมากขึ้น เข้าไปติดตามช่วยเหลือและสนับสนุน ดูแลกิจการของวัดและคณะสงฆ์ในต่างจังหวัดอย่างรวดเร็วทั่วถึง และเมื่อมีปัญหาเกิดขึ้นขอให้แก้ไขตั้งแต่ต้นทาง
นอกจากนี้ยังให้ทางพศ. ไปหารือกับคณะสงฆ์ที่มีคณะกรรมการดำเนินการรับผิดชอบตามแผนปฏิรูปประเทศ 6 ด้าน ให้นำเรื่องนี้ไปดำเนินการอย่างใกล้ชิดต่อไป เช่น ด้านการปกครอง สมบัติของวัด การศึกษาและเผยแผ่ และต้องเดินหน้าต่อในเรื่องการปฏิรูป ส่วนประเด็นเกี่ยวกับร่าง พ.ร.บ.การศึกษาพระปริยัติธรรม พ.ศ. ... ที่มีการสอบถามมาว่าจะเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีได้เมื่อใด นายสุวพันธุ์ กล่าวว่า ได้ส่งให้คณะเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สลค.) ไปแล้ว
“ร่างกฎหมายขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบถามความคิดเห็นจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้หากมีความเห็นชอบในทิศทางที่เสนอมาแล้ว ก็สามารถเดินหน้าต่อไปได้ และคงจะได้รับการพิจารณาเพื่อเสนอเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ต่อไป แต่จะเป็นเมื่อไหร่นั้น ยังตอบไม่ได้ ขณะนี้ได้แต่เพียงขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งรัดในการเสนอความคิดเห็นเข้ามา” นายสุวพันธุ์ ระบุ
ส่วนประเด็นพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมของพระภิกษุสงฆ์ที่ปรากฏเป็นข่าวอยู่หลายครั้งนั้น รัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ ชี้แจงว่า การแก้ปัญหาพระนอกรีต เช่น หนีคดีมาบวช เสพยาเสพติด เสพเมถุน ทางคณะสงฆ์ก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้กำชับเรื่องนี้มาตลอด เพราะคณะสงฆ์เองก็ไม่ต้องการให้เกิดเรื่องเสื่อมเสียเช่นนี้ขึ้น แต่ก็ต้องยอมรับว่าพระสงฆ์จำนวนมากก็ย่อมต้องมีที่ไม่ดีปะปนอยู่ ซึ่งก็ต้องเป็นเรื่องของพระสังฆาธิการของคณะสงฆ์ ไม่ว่าจะเป็นเจ้าอาวาส เจ้าคณะตำบล อำเภอ จังหวัด ที่จะต้องช่วยดูแลเรื่องเหล่านี้อย่างใกล้ชิดมากขึ้น แก้ปัญหาให้รวดเร็วขึ้น
อาทิ มีระบบของการตรวจสอบ ไม่ว่าจะเป็นพระบวชใหม่หรือพระที่บวชอยู่เดิม ต้องมีระบบการทำบัตรประจำตัวพระสงฆ์ แบบสมาร์ทการ์ด แทนใบสุทธิที่ใช้อยู่เดิม ส่วนกรณีปัญหาพระต่างด้าวที่มาอาศัยอยู่ในประเทศไทยนั้น ที่ผ่านมาเมื่อมีเรื่องทำนองนี้เกิดขึ้น ก็จะลงไปตรวจสอบกันที ซึ่งไม่ใช่ทิศทางการแก้ปัญหาที่มีประสิทธิภาพ ดังนั้นตนจึงได้มีการกำชับเรื่องนี้ไปแล้วว่าต้องดูแลอย่างใกล้ชิด
นายสุวพันธุ์ ยังอธิบายด้วยว่า พระต่างด้าวหมายถึงพระที่ธุดงค์มาจากต่างประเทศอย่างถูกต้อง เป็นพระจริงมาปฏิบัติตามพระธรรมวินัย เช่นเดียวกับพระสงฆ์ไทยที่เดินทางไปศึกษาพระธรรมที่อินเดีย พม่า ลาว เพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้ แต่พระที่บวชแล้วมาแฝงหาประโยชน์ที่มิชอบด้วยพระธรรมวินัยและกฎหมาย หากเป็นเช่นนั้น ทาง พศ. และคณะสงฆ์ต้องเร่งดำเนินการแก้ไขปัญหาไม่ให้เกิดขึ้น โดยเฉพาะพระวินยาธิการหรือตำรวจพระ ต้องดูแล ออกตรวจตราอย่างเข้มงวดและต่อเนื่อง
ทั้งนี้มีหลายเรื่องที่คณะสงฆ์ทำแล้วดี และ พศ. สนับสนุน เช่นโครงการนำร่องที่ มหาเถรสมาคม (มส.) มีมติให้วัด 16 แห่งต้องจัดทำบัญชีอย่างละเอียดตามมาตรฐานของ พศ. และการตรวจสอบเรื่องตัวชี้วัดของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (ก.พ.ร.) ที่ต้องทำเพื่อประเมินผลการปฏิบัติงานของ พศ. ที่ต้องรายงานประจำปีให้ ครม.ได้รับทราบด้วย และหากในปีแรกวัดทั้ง16 แห่งนี้ประเมินแล้วว่าประสบความสำเร็จ ก็ต้องขยายผลในปีต่อไปอีก จะเพิ่มอีกกี่แห่งก็ว่ากันไป เพราะวัดในประเทศไทยมีเป็นหมื่นวัด
นายสุวพันธุ์ ยังกล่าวถึงกรณีอดีตพระครูภาวนา โสภิต หรือพระครูปลัดนิพนธ์ ธัมมทีโป อดีตเจ้าอาวาสวัดป่าปฐมชัย จ.นครปฐม ที่มีข่าวอื้อฉาวทั้งเสพเมถุนยักยอกทรัพย์ของวัด และความโปร่งใสในการบริหารจัดการวัด ว่าแม้อดีตพระนิพนธ์จะสึกไปแล้วซึ่งสิ้นสุดในทางธรรม แต่ในทางโลกจะต้องตรวจสอบว่ามีเรื่องใดบ้างเช่นเรื่องเงินหรือเรื่องผู้หญิงที่ผิดทางอาญา หากพบก็จะต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย
ขณะที่กรณีการจัดกิจกรรมของวัดพระธรรมกาย นายสุวพันธุ์ เปิดเผยว่า ทาง พศ. ได้รายงานมาแล้วว่าได้ประสานงานกับ พศจ. ทั่วประเทศ ที่มีวัดสาขาของวัดพระธรรมกายตั้งอยู่ และหากมีการจัดงานทางวัดพระธรรมกายก็จะต้องรายงานเจ้าคณะจังหวัดให้ทราบ และประสานงานกับ พศจ. ในจังหวัดนั้นๆ ว่าจะจัดกิจกรรมอย่างไร ส่วนคำถามว่าพระธัมชโย อดีตเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกายอยู่ที่ไหน ในประเทศหรือต่างประเทศนั้น ขอให้ไปสอบถามกับกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) หรือตำรวจตรวจคนเข้าเมือง (ตม.)
“เราจะไม่เห็นภาพธัมมชโยหรือพระสงฆ์วัดพระธรรมกาย เดินโปรยดอกไม้ริมถนนอีกแล้ว โดยทางวัดจะแจ้งให้ทราบว่าจะทำกิจกรรมใดบ้าง เช่นเมื่อนั่งรถบัสเข้าไปแล้ว ก็จะทำกิจกรรมในพื้นที่เฉพาะ โดยสิ่งที่ทำจะไม่ขัดต่อพระธรรมวินัย ที่สำคัญสังคมและประชาชนไม่เดือดร้อน” นายสุวพันธุ์ กล่าวย้ำ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี