วันที่ 5 มีนาคม ที่มูลนิธิสืบนาคะเสถียร นายศศิน เฉลิมลาภ ประธานมูลนิธิฯ พร้อม นายภานุเดช เกิดมะลิ เลขาธิการมูลนิธิฯ ได้ร่วมกันอ่านแถลงการณ์ทวงความคืบหน้าคดีล่าสัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรด้านตะวันตก จ.กาญจนบุรี ที่ นายเปรมชัย กรรณสูต ประธานบริหาร บริษัทอิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) และพวกรวม 4 คน ถูกจับกุมเป็นผู้ต้องหาได้พร้อมหลักฐานอาวุธปืน เครื่องกระสุน ซากเสือดำ ไก่ฟ้าหลังเทา และเก้ง ตั้งแต่ต้นเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา
โดยแถลงการณ์ระบุว่า นับตั้งแต่จับกุมจนถึงวันนี้เวลาได้ผ่านไปจนครบ 1 เดือนแล้ว แต่การสอบสวนเพื่อดำเนินการ กลับเป็นไปอย่างล่าช้าในสายตาของสาธารณชน ดังนั้นมูลนิธิจึงเห็นว่า
1.เมื่อพิจารณาจากพฤติการณ์แห่งคดี พบข้อเท็จจริงว่า นายเปรมชัยกับพวกลักลอบนำอาวุธปืนซุกซ่อนไว้ในรถก่อนขอ อนุญาตเข้าไปในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าตั้งแต่แรกแล้ว ซึ่งมีการเข้าไปตั้งแคมป์ในเส้นทางและบริเวณพื้นที่ที่ไม่อนุญาตให้เข้าไป ซึ่งเป็นบริเวณที่สงวนไว้สำหรับการอยู่อาศัยและหากินของสัตว์ป่าตามธรรมชาติอีก แสดงให้เห็นว่า นายเปรมชัย กับพวก อาจมีเจตนาเข้าไปภายในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า เพื่อล่าสัตว์ป่า ตั้งแต่แรกหรือไม่ประกอบกับเสียงปืนที่ดังมาจาก บริเวณที่ไม่อนุญาต ให้เข้าไปจึงมีเพียงกลุ่มของนายเปรมชัยกับพวกเพียงกลุ่มเดียวเท่านั้นที่เข้ามา พร้อมกับอาวุธปืน เครื่องกระสุน และปลอกกระสุน รวมถึงซากสัตว์ป่า และร่องรอยกระสุน บนซากสัตว์ป่า เศษซากกระดูกสัตว์ป่าที่พบในลำห้วย รวมทั้งการประกอบอาหารที่ทำมาจากเนื้อสัตว์ป่า ที่ตรวจพบล้วนเป็นพยานวัตถุสำคัญที่เปลี่ยนแปลงไม่ได้ที่ชัดเจนยิ่งว่านายเปรมชัยกับพวกได้ร่วมกันกระทำความผิดสำเร็จฐานล่าสัตว์ป่าคุ้มครองภายในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า
2.จากพฤติการณ์แห่งคดีและพยานหลักฐานที่ปรากฎทำให้เห็นได้ชัดว่า คดีนี้ไม่ใช่คดีที่ซับซ้อนจึงขอเร่งรัดให้ฝ่ายที่ดูแล และรับผิดชอบการดำเนินคดี โดยเฉพาะตำรวจ เร่งรัดดำเนินการเพื่อสรุปสำนวน พร้อมความเห็นไปยัง อัยการและส่งฟ้องศาลอย่างรวดเร็วและอย่าพยายามเบี่ยงเบนประเด็นการสอบสวนโดยการมุ่งไปสู่การเสาะหาพยานวัตถุที่อาจเปลี่ยนแปลงได้
3.ขอให้กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และรัฐบาล เร่งรัดติดตามคดีนี้อย่างใกล้ชิด และขอให้กรมอุทยานฯ ตรวจสอบสำนวนคดีในชั้นอัยการอย่างรอบคอบก่อนส่งฟ้องศาลเพื่อป้องกันความคลาดเคลื่อนไปจากพฤติการณ์แห่งคดีที่ปรากฏชัดแจ้งนี้
4.ขอให้รัฐบาลหน่วยงานของภาครัฐออกมายืนเคียงข้างประชาชน เพื่อสนับสนุนกิจกรรมทางอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และร่วมกันประณามผู้ที่มีเจตนาในการทำร้ายทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเพื่อให้เกิดตัวอย่างที่ดีให้แก่สังคมต่อไปในอนาคต
ขณะที่ในตอนท้าย นายศศิน ได้ย้ำว่า มูลนิธิฯจะส่งแถลงการณ์ฉบับนี้ไปยัง พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. และจะร่วมกับเครือข่ายองค์กรอนุรักษ์อื่นๆ เดินทางไปพบ พล.ต.อ.จักรทิพย์ เพื่อขอให้เร่งรัดการดำเนินการในคดีน
“ขอประกาศว่า หากในสำนวนคดีที่ตำรวจจะส่งฟ้องศาลไม่มีข้อหาเจตนาฆ่า ล่าสัตว์ป่า เราคิดว่า เราไม่จำเป็นต้องนัดกับใคร เพื่อจะออกมาเรียกร้องเรื่องนี้ เพราะพวกเราไม่ยอม นั่นหมายความว่าจะเกิดปรากฏการณ์ เป่านกหวีด ประชาชนจะออกมาเดินกลางถนน อีกครั้งหนึ่งอย่างแน่นอน” นายศศิน กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี