พศ.นครปฐม นำหน่วยงานเกี่ยวข้องเข้าตรวจสอบวัดป่าปฐมชัย แต่ไม่ได้ยอมเข้าตรวจสอบพื้นที่กุฏิเขตหวงห้าม พบพระพุทธรูป 8 องค์อยู่ครบ แต่จะต้องรอพิสูจน์อีกครั้งใช่ของแท้หรือไม่ ขณะที่ "หลวงปู่พุทธะอิสระ" ซัดสำนักพุทธ-มหาเถรทำงานอึด เชื่อ"นิพนธ์"สึกแล้วแต่อาจซุกตัวอยู่ในวัด เผย "นิพนธ์" ฉาวมาตั้งปต่ปี 2555 "สาวบี" พร้อมพวกบุกกองปราบฯแจ้งความคนป้ายสี 6 มี.ค.นี้
วันนี้ (5 มี.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีอดีต พระครูปลัดนิพนธ์ ธัมมทีโป อดีตเจ้าอาวาสวัดป่าปฐมชัย อ.เมือง จ.นครปฐม ถูกร้องเรียนเรื่องการเสพเมถุนและยักยอกทรัพย์วัดป่าปฐมชัยว่า เมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่จากสำนักพระพุทธศาสนาจังหวัดนครปฐม พร้อมเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เข้าตรวจสอบทรัพย์สินภายในวัดป่าปฐมชัย หลังจากทางเจ้าคณะจังหวัดนครปฐม ฝ่ายธรรมยุต ได้สั่งการให้ทางเจ้าคณะอำเภอเมืองนครปฐมประสานกับสำนักพระพุทธศาสนาจังหวัดนครปฐม ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบทรัพย์สินภายในวัด หลังมีกระแสข่าวว่าพระพุทธรูปทองคำ 8 องค์หายไปจากวัดหลังจากพระนิพนธ์ ได้ลาสิกขอออกไปจากวัด
โดยผู้เข้าร่วมตรวจสอบนำโดยพระครูภาวนาวิมล ว. (สุพร ชัย สารธมฺโม) เจ้าอาวาสวัดสระกระเทียม เจ้าคณะอำเภอเมืองนครปฐม ชั้นปกครองสายธรรมยุต นายสุขพิชัย เชาวกุล นักวิชาการศาสนาชำนาญการ นายธานี พิกุลทอง นักวิชาการศาสนาชำนาญการ สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดนครปฐม นายนรวีร์ ขันธหิรัฐ ปลัดอำเภอชำนาญการพิเศษ อำเภอเมืองนครปฐม และชุด อส.รักษาดินแดน และผู้นำท้องถิ่น เจ้าหน้าที่จาก อบต.หนองปากโลง กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ส่วนเจ้าหน้าที่ทางวัดได้มีพระ และแม่ชี รวมถึงศิษย์ของสมีพนธ์ เข้าร่วมรับฟังชี้แจ้ง ซึ่งเมื่อผู้สื่อข่าวกำลังจะเข้าบันทึกภาพบรรยากาศในการการตรวจสอบดังกล่าว แต่ทางคณะสงฆ์ไม่เปิดโอกาสให้สื่อมวลชนเข้าร่วมบันทึกภาพและฟังการชี้แจงต่างๆ ใดใด
พบพระอยู่ครบแต่รอพิสูจน์แท้หรือไม่?
สำหรับการตรวจสอบบัญชีทรัพย์สิน ทราบว่ามีฆราวาส ที่ชื่อ รดา ไม่ทราบ นามสกุล ได้เป็นผู้ร่วมให้ข้อมูลถึงทรัพย์สินต่างๆ ภายในวัดร่วมกับ ครูบาเปี๊ยก และมีแม่ชีที่เข้าร่วมในการชี้แจง โดยจุดแรกคือประเด็นของพระทองคำจำนวน 8 องค์ที่เป็นข้อสงสัยโดยทางผู้ชี้แจง โดยมีการนำมาแสดงเป็นพระทอง แต่ไม่สามารถบอกได้ว่าเป็นพระที่ถูกระบุก่อนหน้านี้หรือไม และเป็นพระทองตำจริงหรือไม่ ซึ่งจะต้องรอให้ผู้เชี่ยวชาญเข้ามาตรวจสอบอีกครั้ง ส่วนจำนวนเงินของวัดที่ปรากฏคือการนำมาแจ้งหนี้สินจากการก่อสร้างมีถึง 7 ล้านบาท
ทั้งนี้ หน่วยงานบางแห่งได้มีการเดินสำรวจบริเวณโดยรอบ แต่ไม่ได้เข้าตรวจสอบพื้นที่กุฏิ หรือบ้านพักที่แยกออกจาก 2 ฝั่งมีบ่อน้ำกั้นกลาง ซึ่งติดป้ายเป็นเขตหวงห้าม ส่วนกุฏิของสมีนิพนธ์ ที่อยู่ด้านหลัง ทางเจ้าหน้าที่แจ้งว่า สมีนิพนธ์ ได้ใช้เป็นที่จำวัดและจะออกมารับยาในเวลา 5 โมงเย็นเท่านั้น ส่วนที่พักของฝ่ายหญิงเป็นลักษณะเหมือนบ้านหลังเล็กๆ ได้มีการติดกล้องวงจรปิดบางส่วนเอาไว้ แต่ที่ตัวเจดีย์หลักในวัดที่จัดเก็บทรัพย์สินต่างๆ ไม่ปรากฏของการติดกล้องวงจรปิด
ยังไม่ชี้มูล"สมีนิพินธ์"รอให้พศ.สรุป
สำหรับบรรยากาศในวันนี้ พบว่ามีบรรยากาศคึกคักกว่าทุกวัน หลังจากที่เกิดข่าว โดยที่หน้าวัดมีรถจอดหลายคันและมีศิษย์ของสมีนิพนธ์ มาคอยตรวจตราและจับตาคนเข้าออก รวมถึงพยายามบันทึกภาพของคนที่เข้าออกในวัดเกือบทั้งหมด
ทั้งนี้ ในฝ่ายปกครอง โดยอำเภอเมืองนครปฐม ได้มีการประสานผู้นำองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้นำชุมชน ได้เข้ามาร่วมตั้งทีมงาน เพื่อบริหารวัดร่วมกับเจ้าอาวาสรักษาการ เป็นคณะกรรมการวัดชั่วคราว ตามหลักที่วัดเป็นิติบุคคล เพื่อให้ทำหน้าที่บริหารจัดการได้อย่างโปร่งใส และขับเคลื่อนการทำงานของวัดให้ดำเนินต่อไปได้ และมีการตั้งไวยวัจกร เพื่อให้วัดยังเป็นสถานที่สำหรับเข้ามาของประชาชนได้ตามแบบฉบับทั่วไป
นายสุขพิชัย เชาวกุล นักวิชาการศาสนาชำนาญการ บอกว่า วันนี้ได้รับมอบหมายจากนางกัญฐณา หินเมืองเก่า ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดนครปฐม ได้เข้ามาเป็นตัวแทนในการตรวจสอบทรัพย์สิน และแจ้งการดำเนินการต่างๆ ในวัดโดยได้แนะนำให้มีการจัดทำบัญชีทรัพย์สินของวัดเป็นรหัส เพื่อตรวจสอบได้ง่าย
"อยากให้สื่อมวลชนได้เข้าใจว่าวันนี้สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดนครปฐม ได้ลงมาทำงานในการตรวจสอบแล้ว ส่วนกรณีของการสอบสวนสมีนิพนธ์ ในข้อกล่าวหาอื่นๆ นั้น ยังไม่ได้สามารถตอบได้เพียงแต่ทำหน้าที่รายงานไปยังต้นสังกัดคือสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติเท่านั้นซึ่งจะเป็นผู้สรุปแถลงการณ์เกี่ยวกับเรื่องนี้เองต่อไป"
"พุทธะ"เชื่อ"สมีนิพนธ์"อาจอยู่ในวัด
ด้านพระพุทธะอิสระ หรือ หลวงปู่พุทธะอิสระ อดีตเจ้าอาวาสวัดอ้อน้อย อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม ให้สัมภาษณ์ทีมข่าวแนวหน้าออนไลน์เกี่ยวกับกรณีสมีนิพนธ์ว่า สมีนิพนธ์นุ่งเหลือง ห่มเหลือง มา 5-6 ปีทำไมฝ่ายปกครองคณะสงฆ์ไม่ทำอะไร แต่พอมีข่าวร้องเรียนก็กระดี๊ กระด๊า พระสงฆ์ที่มาพูดว่าจะอธิกรณ์สมีนิพนธ์ คนพูดฝันกลางวันซึ่งทำไม่ได้เพราะนายนิพนธ์ สึกจากพระแล้ว อย่างไรก็ตาม การที่สมีนิพนธ์สึกแล้ว ไม่อยู่ในผ้าเหลืองและเป็นคนที่มีชนักติดหลังก็อาจเป็นไปได้ว่าอาจจะหลบซ่อนตัวอยู่ในวัด
หลวงปู่พุทธอิสระ กล่าวแนะด้วยว่า สำหรับการเข้าตรวจสอบวัดของเจ้าหน้าที่สำนักพระพุทธศาสนาในครั้งนี้การที่วัดตั้งป้อมว่าเป็นเจ้าของสถานที่นั้นจะใช้หลักรัฐศาสตร์คงไม่ได้แล้ว ต้องนำหลักนิติศาสตร์มาใช้ โดยทางสำนักพุทธฯ จะต้องไปแจ้งความที่สถานีตำรวจ ในฐานะผู้เสียหายเพื่อดำเนินการไปสู่ขั้นตอนขอหมายศาลเพื่อให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองผู้ทำหน้าที่รับผิดชอบพื้นที่ตามกฏหมายเข้าไปภายในวัด เพื่อตรวจสอบว่าอาจมีทรัพย์สินอะไรของวัดที่หายไปบ้าง ภายหลังที่สมีนิพนธ์ บอกว่าไม่อยู่วัดแล้ว"
พุทธะเผยนิพนธ์ฉาวมาตั้งแต่ปี2555
ก่อนหน้านี้ หลวงปู่พุทธะอิสระ ยังให้สัมภาษณ์ถึงกรณ๊อดีตพระครูปลัดนิพนธ์ ทางรายการนิวคุยเคาะเจาะข่าวด้วยว่า กรณีนี้มองได้ 2 ประเด็น 1.มองแบบโลกสวยต้องบบอกว่าเป็นธรรมชชาติ ธรรมดาของมนุษย์ที่ยังต้องกิน มีกาม มีโกรธ ซึ่งเมื่อบวชแล้วไม่ได้หมายความว่าจะเป็นผู้สำเร็จทุกคน ขณะที่สมีนิพนธ์ เป็นพระหนุ่มที่บวชเข้ามาไม่กี่พรรษา และเผอิญมีวาสนาได้รับการอุปถัมภ์ บำรุงและสนับสนุนจากญาติโยมบรรดาอาเสี่ย เจ้าสัว คนร่ำรวยที่เห็นลีลาการแสดงออกมองว่าน่าเลื่อมใสศรัทธา จึงได้สนับสนุนจนมีการติดลาภยศ ติดอามิสจนติดโลกอย่างที่ปรากฏ
หลวงปู่พุทธะอิสระ กล่าวต่อว่า 2.มองแบบไม่ธรรมดา ตามความเป็นจริงอย่างที่มีคนร้องเรียนเข้ามาซึ่งมีชาวบ้านที่อยู่ใกล้วัดมาร้องเรียนอาตมา ทางอาตมาจึงแนะนำให้ไปร้องเรียนต่อเจ้าคณะตำบล เจ้าคณะอำเภอ และเจ้าคณะจังหวัด เพราะเป็นพระสายธรรมยุติ แต่สิ่งที่ได้รับตอบกลับมา คือ ทุกคนเงียบกันหมดเลย ซึ่งเหตุผลก็เหมือนกรณีที่อาตมาไปร้องเรียนเรื่องเณรคำที่วัดบวรฯ ซึ่งนานมาแล้ว ทั้งที่ตอนนั้นเณรคำยังไม่ดังเท่าขนาดนี้ ยังไม่ประจักษ์ว่าเสพเมถุนกับสีกาคนไหน แต่ทุกคนก็เงียบกันหมด
"ข้อเท็จจริงคือพวกนี้ไม่ยอมทำงาน ไม่ยอมทำหน้าที่ ก็เลยกลายเป็นประเด็นให้สังคมโจมตี และประจาน หลังจากนั้นเจ้าคณะค่อยมาตามไล่บี้ทีหลัง ทั้งที่ก่อนหน้านี้สมีนิพนธ์ร้องเรียนมานานแล้วตั้งแต่ประมาณปี 2555, 2556 ซึ่งตอนนั้นร้องเรียนเรื่องเงินๆ ทองๆ ว่าชาวบ้านโอนเงินมาให้ทำบุญ แล้วเข้าบัญชีเจ้าอาวาส เก็บเงินไว้คนเดียวตลอด พอมีเงินมากๆ ก็มีสาวมาติดเพราะเป็นพระหนุ่ม" หลวงปู่พุทธะอิสระ กล่าว
เมื่อถามว่าสมีนิพนธ์ มีภรรยาและกิ๊กจำนวน 7 คนไม่ใช่เรื่องจริงใช่ไหม หลวงปู่พุทธะอิสระ กล่าวว่า ความจริงมีมากกว่านั้นอีก ซึ่งคล้ายกรณ๊เมื่อ 30 ปีที่แล้ว เจ้าคณะตำบลคนหนึ่งใน อ.บางเลน จ.นครปฐม ก็มีเมียประมาณ 7-8 คน ซึ่งอาตมาสอบจนได้หลักฐานชัดเจน แม้กระทั่งบอกตำหนิในร่มผ้าได้ แต่ปรากฏว่าพรรคพวกเขามาก เจ้าคณะปกครองเขาช่วยกัน สุดท้ายการสอบเป็นโมฆะ เราท้อใจเลยลาออก เพราะเขาช่วยกันแบบนี้ ความยุติธรรมในศาลสงฆ์จึงไม่มีจริง เพราะถ้ามีจริงธรรมกาย ไม่กลายเป็นประเด็นความมั่นคง เพราะถ้าศาลสงฆ์มีความชัดเขน ช่วยกันรักษาพระธรรรมวินัย ไม่เอื้อเฟื้ออลัชชี ก็ไม่กล้าเหิมเกริมเหมือนอย่างในปัจจุบันนี้
"น.ส.บี"พวก6คนบุกกองปราบพรุ่งนี้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันที่ 6 มี.ค.นี้ เวลาประมาณ 11.00 น. น.ส.บี (นามสมมติ) พร้อมพวกทั้งหมด 6 คนและทนายความจะเดินทางไปร้องกองปราบฯ เพื่อขอความเป็นธรรมและแจ้งความดำเนินคดีกับบุคคลที่กล่าวหาพวกตนว่าเป็นเมียอดีตพระนิพนธ์ จนได้รับความเสียหาย จากนั้นจะไปยื่นหนังสือชี้แจงต่อสำนักพระพุทธศาสนาแห่งชาติเพื่อชี้แจงเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมด
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี