นายกฤษฎา บุญราช รมว.เกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า ได้ร่วมหารือกับเอกอัครราชทูตและผู้แทนจากประเทศผู้ผลิตยางรายใหญ่ของโลก ได้แก่ มาเลเซีย อินโดนีเซีย และเวียดนาม เรื่องความร่วมมือเพื่อสร้างเสถียรภาพราคาและพัฒนาอาชีพการทำสวนยาง ตลอดจนอุตสาหกรรมยางให้มีความมั่นคงและยั่งยืน โดยมีประเด็นสำคัญ คือ การติดตามความก้าวหน้าการดำเนินงานมาตรการควบคุมปริมาณการส่งออกยางพารา (AETS) ภายใต้ข้อตกลงสภาไตรภาคียางพาราระหว่างประเทศ (ITRC) ประกอบด้วย ประเทศไทย มาเลเซีย อินโดนีเซีย โดยกำหนดการลดโควตาการส่งออกยางพาราร่วมกันของ 3 ประเทศสมาชิก ITRC จำนวน 350,000 ตัน ที่แก้ไขปัญหาราคายางในระยะสั้น ภายในระยะเวลา 3 เดือน ตั้งแต่เดือนมกราคม จนถึงสิ้นเดือนมีนาคม 2561 ซึ่งนับจากนี้ยังเหลือเวลาอีกประมาณ 1 เดือน โดยทั้ง 3 ประเทศยืนยันที่จะดำเนินการอย่างเข้มงวดและจริงจังมากขึ้น เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด และเกิดความต้องการใช้ยางในตลาดโลกเพิ่มมากขึ้น จะส่งผลให้ราคายางปรับตัวสูงขึ้น
นอกจากนี้ ไทยได้นำเสนอต่อที่ประชุมเกี่ยวกับมาตรการสร้างเสถียรภาพราคายาง 5 มาตรการ 1.มาตรการบริหารจัดการการผลิต โดยไทยมีนโยบายลดพื้นที่ปลูกยางในพื้นที่ที่ไม่เหมาะสมด้วยการโค่นยางเพื่อไปปลูกพืชอื่น ซึ่งจะจำกัดปริมาณผลผลิตให้มีความสมดุลกับความต้องการใช้ ปีละ 200,000 ไร่ 2.มาตรการการปลูกยางพาราร่วมกับพืชเศรษฐกิจอื่น 3.เพิ่มการใช้ยางในประเทศ ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน โดยการรณรงค์ให้หน่วยงานภาครัฐ เพิ่มปริมาณการใช้ยางพาราในประเทศสามารถนำไปใช้ประโยชน์ในรูปแบบต่างๆ อาทิ สระน้ำ ยางปูพื้น ถนนยางพารา 4.มาตรการหยุดกรีด โดยให้พื้นที่ปลูกยางในหน่วยงานภาครัฐ ยกเว้นพื้นที่ที่ใช้ในการวิจัย หยุดกรีดยางเป็น 3 เดือน คิดเป็นพื้นที่ประมาณ 100,000 ไร่ เพื่อลดปริมาณผลผลิตออกสู่ตลาด นอกจากนี้ไทยยังมีแนวคิดในการลดพื้นที่กรีดยางเพิ่มเติมอีก 2 แนวทาง ได้แก่ หยุดกรีดยาง 3 ล้านไร่ เป็นระยะเวลา 3 เดือน ตั้งแต่พฤษภาคมถึงกรกฎาคม และหยุดกรีดยางทุกไร่ โดยให้กรีดแบบวันเว้นวัน และ 5.มาตรการการควบคุมการผลิต-ราคายางพารา ที่ปัจจุบันยางพาราของประเทศไทยเป็นสินค้าควบคุม โดยกระทรวงพาณิชย์จะเข้ามาดูกลไกราคายางพารา
“ในการประชุม ไทยได้ขอให้ประเทศสมาชิกรับไปพิจารณา คือ มาตรการหยุดกรีดยาง และคณะกรรมการราคายางระหว่างประเทศ ซึ่งเบื้องต้นจากการหารือนั้น อินโดนีเซียสนใจมากที่สุดในเรื่องการลดกรีดยาง โดยแต่ละประเทศจะนำข้อเสนอไปพิจารณาเพื่อหาข้อสรุปร่วมกันต่อไป” นายกฤษฎา กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี