“มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค” ไม่เชื่อ อย.-กรมประมง ยันต้องตรวจสอบการปนเปื้อนสารกัมมันตรังสีอีกครั้ง จี้เปิดชื่อ 12 ร้านอาหารที่รับปลาตาเดียวจาก“ฟุกุชิมะ”มาขาย เตือนไม่ตรวจซ้ำ ฟ้องล้มประกาศถ่ายโอนอำนาจฯ
6 มี.ค.61 น.ส.สารี อ๋องสมหวัง เลขาธิการมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค เปิดเผยว่า ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ของไทยอนุญาตให้มีการนำเข้าปลาตาเดียวจากจังหวัดฟุกุชิมะ ประเทศญี่ปุ่น เป็นประเทศแรก หลังจากเหตุโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟุกุชิมะไดอิจิรั่วไหลเมื่อ 7 ปีก่อน ซึ่งเมื่อบ่ายที่ผ่านมา เลขาธิการ อย.และ รองอธิบดีกรมประมงได้ออกมาแถลงข่าวยืนยันความปลอดภัยของปลาดังกล่าวนั้น ตนไม่เชื่อถือการแถลงข่าวของทั้ง 2 หน่วยงาน เนื่องจากกรมประมงยอมรับเองว่าไม่มีการตรวจซ้ำที่ด่าน เป็นการเชื่อข้อมูลใบรับรองจากผู้นำเข้าเท่านั้น
ดังนั้นทางมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค เรียกร้องให้มีการตรวจซ้ำ เพื่อยืนยันความปลอดภัยที่จะมีต่อผู้บริโภคในล็อตที่เพิ่งนำเข้า และขอให้เปิดเผยชื่อร้านอาหารทั้ง 12 ร้าน ชะลอการจำหน่ายปลาจนกว่าจะมีการตรวจซ้ำจากหน่วยงานที่ได้รับการรับรองจากทางการไทย
“ขอเรียกร้องให้สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) และกระทรวงเกษตรเปิดเผยใบรับรองการนำเข้าปลาตาเดียว พร้อมทั้งให้เปิดเผยรายชื่อร้านอาหาร 12 นำเข้าปลาจากฟุกุชิมะเพื่อจำหน่าย เพื่อเป็นข้อมูลให้กับผู้บริโภค และเรียกร้องให้ร้านอาหารทั้งหมดชะลอการใช้ปลาที่นำเข้าจนกว่าจะมีการตรวจสอบความปลอดภัยซ้ำจากหน่วยงานในประเทศไทย และให้หยุดการนำเข้าล็อตอื่นๆ” น.ส.สารี กล่าว
เลขาธิการมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค กล่าวอีกว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ สะท้อนถึงปัญหาที่องค์การอิสระเพื่อการคุ้มครองผู้บริโภคย้ำมาตลอด คือ การที่ อย.ถ่ายโอนอำนาจหน้าที่การตรวจอาหารนำเข้า 7 พิกัดไปยังกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เพื่อใช้เป็นอำนาจการต่อรองทางการค้ากับประเทศคู่ค้า ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 59 จากแรงผลักดันของธุรกิจอาหารส่งออก
“ก่อนหน้านี้ อย.ตรวจสอบอาหารนำเข้ามาโดยตลอด แต่เมื่อมีการถ่ายโอนกรมประมงกลับอ้างว่า ไม่มีหน้าที่กัก หรือตรวจสอบซ้ำ ให้ อย.ไปสุ่มตรวจหลังเข้าสู่ตลาดแล้ว ซึ่งถือว่าเป็นการทำลายมาตรฐานการคุ้มครองผู้บริโภค ขณะเดียวกัน ผ่านมาเกือบ 2 ปี อย.ไม่เคยมีการประเมินการถ่ายโอนภารกิจครั้งนี้ว่าดีหรือเลวลงอย่างไร ซึ่งสะท้อนอย่างชัดเจนจากการนำเข้าปลาจากฟุกุชิมะครั้งนี้” เลขาธิการมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค กล่าว
เลขาธิการมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค กล่าวย้ำว่า หากไม่มีการตรวจสอบจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เครือข่ายผู้บริโภคจะพิจารณาฟ้องให้เพิกถอนประกาศสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา เรื่องการถ่ายโอนภารกิจให้หน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ตรวจสอบการนำเข้าสินค้า ฉบับวันที่ 15 พ.ค.2559
ทั้งนี้ เมื่อ 7 ก.ย.2559 รศ.ดร.จิราพร ลิ้มปานานนท์ ประธานคณะกรรมการองค์การอิสระเพื่อการคุ้มครองผู้บริโภคภาคประชาชน(คอบช.) แถลงข่าวคัดค้านการออกประกาศโอนภารกิจดังกล่าว เนื่องจากเกรงว่า มาตรฐานการคุ้มครองผู้บริโภคจากอาหารนำเข้าและอาหารตีกลับ จะถูกใช้เพื่อเจรจาต่อรองทางการค้าระหว่างประเทศ
รศ.ดร.จิราพร กล่าวเมื่อปี 2559 ด้วยว่า ตั้งแต่ปี 2545 เคยมีแรงผลักดันจากภาคธุรกิจที่จะดึงงานควบคุมดูแลเรื่องอาหารทั้งหมดให้ไปอยู่ภายใต้หน่วยงานเดียว คือ สำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ (มอกช.) ภายใต้กระทรวงเกษตรฯ ด้วยเหตุผลเพื่อให้เกิดการแข่งขันได้ดียิ่งขึ้นทางด้านเศรษฐกิจ โดยแทบไม่สนใจเรื่องการคุ้มครองผู้บริโภค เช่นเดียวกับเหตุผลที่อ้างอิงในรายงานคณะทำงานของ สนช. แต่ครั้งนั้นมีการทัดทานจากหลายฝ่ายทำให้รัฐบาลทักษิณ ชินวัตร ไม่ได้ดำเนินตามเสียงเรียกร้องของกลุ่มธุรกิจอาหาร
อย่างไรก็ตาม ไม่น่าเชื่อว่า จะมาสำเร็จในรัฐบาลทหารของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ซึ่งเชื่อว่าจะส่งผลกระทบสุขภาพอนามัยของประชาชนในประเทศไทย เช่นที่เคยเกิดขึ้นแล้วเมื่อครั้งวัวบ้าระบาดในอังกฤษ และไข้หวัดนกในไทย ซึ่งในปัจจุบัน อังกฤษต้องทบทวนบทเรียนแยกหน่วยงานด้านความปลอดภัยอาหารออกมาจากกระทรวงด้านเศรษฐกิจ แต่ของไทยกลับไม่มีการสรุปบทเรียนทางอนุกรรมการอาหารและยา
“คอบช.จึงเสนอให้มีการทบทวนเรื่องดังกล่าว และขอให้ทางกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ชี้แจงอย่างละเอียดว่า มีกระบวนการตรวจสอบสินค้าอาหารนำเข้าและอาหารตีกลับอย่างไร มีหน่วยงานหรือภาคส่วนใดเข้าไปร่วมตรวจสอบสร้างความสมดุล ประชาชนจะมีความปลอดภัยต่อการบริโภคอาหารที่ถูกส่งคืนกลับมาอย่างไร และจะคุ้มครองผู้บริโภคอย่างไร” รศ.ดร.จิราพร กล่าวเมื่อปี 2559
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
+ อย.รับผ่อนปรนนำเข้าปลา 'ฟุกุชิมะ' ตั้งแต่ปี’59 ยันไม่พบปนเปื้อน เมินบี้ตรวจ12ร้านอาหาร
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี