วันพฤหัสบดี ที่ 25 ธันวาคม พ.ศ. 2568
อาจต้องถือเป็นคำพิพากษา “ประวัติศาสตร์” อีกครั้งหนึ่งของประเทศไทย สำหรับคำพิพากษาของศาลปกครองกลาง เมื่อวันที่ 6 มีนาคมที่ผ่านมา ซึ่งมีคำสั่งให้เพิกถอนคำชี้ขาดของคณะอนุญาโตตุลาการที่ให้ “กรมควบคุมมลพิษ” จ่ายชดเชยค่าเสียหาย หรือ “ค่าโง่” จากโครงการก่อสร้างระบบบำบัดน้ำเสียคลองด่าน จ.สมุทรปราการ ให้แก่ “กลุ่มกิจการร่วมค้าเอ็นวีพีเอสเคจี” (NVPSKG) ซึ่งประกอบไปด้วย บริษัท นอร์ทเวสต์ วอเตอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด, บริษัท วิจิตรภัณฑ์ก่อสร้าง จำกัด, บริษัท ประยูรวิศว์การช่าง จำกัด (ชื่อขณะนั้น), บริษัท สี่แสงการโยธา (1979) จำกัด, บริษัท กรุงธน เอนจิเนียร์ จำกัด และ บริษัท เกตเวย์ ดิเวลลอปเมนต์ จำกัด คิดเป็นมูลค่ารวมดอกเบี้ยถึงกว่า 9.6 พันล้านบาท
จะว่าไปกรณี “ค่าโง่” คลองด่าน ก็เปรียบเสมือนกับ “หนามยอกอก” คนไทยทั้งประเทศมาโดยตลอด เพราะโดยข้อเท็จจริงแล้วเราไม่ได้ต้องสูญเพียงเฉพาะเสียแค่ค่าโง่เกือบ 1 หมื่นล้านบาท ให้กับ “กิจการร่วมค้า NVPSKG” เท่านั้น แต่ก่อนหน้านั้นยังสูญเสียเม็ดเงินไปถึงกว่า 2 หมื่นล้านบาท สำหรับการดำเนินการก่อสร้างโครงการ ที่สุดท้ายกลับเป็นเพียงโครงการบำบัดน้ำเสียที่พิกลพิการไม่สามารถใช้งานได้จริง และต้องทิ้งให้กลายเป็นพื้นที่รกร้างว่างเปล่ามาจนถึงทุกวันนี้
หรือง่ายๆ นี่คือการละเลงเงินทิ้งไปเปล่าๆ ปลี้ๆ ถึงกว่า 3 หมื่นล้านบาท โดยที่คนไทยไม่ได้อะไรกลับมาแม้แต่นิดเดียว
มิหนำซ้ำ โครงการนี้ยังเต็มไปด้วยความอื้อฉาวเรื่องการทุจริตคอร์รัปชั่น โยงใยกับนักการเมือง กลุ่มการเมือง รวมถึงข้าราชการน้อยใหญ่ และภาคเอกชนอีกหลายคน หลายสำนัก
เงินแต่ละบาทที่ถูกควักจ่ายออกไป จึงเป็นยิ่งกว่า “ค่าโง่” ที่คอยเสียดแทงใจของคนไทย เพราะทุกคนต่างรู้ทั้งรู้ว่ามีการทุจริตฉ้อโกง แต่กลับทำอะไรไม่ได้ นอกจากยอมจำใจควักเงินให้กับเขาไป
คำสั่งของศาลปกครองกลางจึงเปรียบเสมือนดั่งแสงสว่างวาบใหญ่ หลังจากที่ก่อนหน้านี้มีคำพิพากษาจากศาลอาญา และศาลแขวงดุสิต ช่วยยืนยันมาแล้วถึงความมีอยู่จริงของขบวนการทุจริต “คลองด่าน” ที่มีการฮั้วกันทั้งหมดของฝ่ายผู้ว่าจ้างและผู้รับจ้าง จนกระทั่งนำไปสู่การทำสัญญาที่มิชอบ
ดังนั้นไม่ว่าเวลานี้ที่เหลือจากนี้ บริษัทวิจิตรภัณฑ์ก่อสร้าง จำกัด รวมทั้งบริษัทอื่นๆ ในกลุ่มกิจการร่วมค้าNVPSKG ที่การฟ้องร้องบังคับ “กรมควบคุมมลพิษ” ให้จ่ายเงินที่เหลือตามคำสั่งอนุญาโตตุลาการ จะมีการอุทธรณ์คำสั่งศาลปกครองกลางครั้งนี้หรือไม่
สิ่งที่รัฐโดยเฉพาะ “กรมควบคุมมลพิษ” ในฐานะผู้เสียหายและเจ้าทุกข์จะต้องมีความชัดเจนหลังจากนี้ คือ การจัดการทวงคืนความเสียหายทั้งหมดที่เกิดขึ้นกับโครงการนี้ จะดำเนินการได้ด้วยวิธีไหน อย่างไร
ส่วนไหนดำเนินการเล่นงานเอาผิดได้ก็ต้องดำเนินการ ส่วนไหนดำเนินการเพื่อเรียกร้องความเสียหายคืนได้ก็ต้องดำเนินการ หัวเด็ดตีนขาดยังไง ประเด็นเหล่านี้ต้องมีความชัดเจนออกมาให้ได้
เพราะนี่คือเงินของประชาชนนะครับ ไม่ใช่เงินรัฐบาล
มะลิลา
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี