8 มี.ค.61 ศ.คลินิก นพ.อุดม คชินทร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมช.ศธ.) เป็นประธานการประชุม คณะกรรมการพัฒนานวัตกรรมการบริหารจัดการสถานศึกษาในรูปแบบ Public School ครั้งที่ 1/2561 โดยมีนายบุญรักษ์ ยอดเพชร เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) นายพินิจศักดิ์ สุวรรณรังค์ เลขาธิการคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม
โดย ศ.คลินิก นพ.อุดม เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการฯ ว่า ที่ประชุมได้ตั้ง คณะกรรมการดำเนินการพัฒนานวัตกรรมการบริหารจัดการศึกษาในรูปแบบ Public School เพื่อรองรับการขับเคลื่อนการปฏิรูปการศึกษาตามนโยบายไทยแลนด์ 4.0 โดยมีนายมีชัย วีระไวทยะ เป็นประธาน ทำหน้าที่ในการวางกรอบมาตรฐานการดำเนินการโรงเรียนรูปแบบใหม่นี้ รวมถึงทำหน้าที่คัดกรองสถานศึกษา ที่จะเข้าร่วม เบื้องต้น จะเริ่มดำเนินการในโรงเรียนขนาดเล็ก และขนาดกลางที่มีศัยภาพมีความเหมาะสม จังหวัดละ 1 แห่ง รวม 77 โรงเรียน หรืออาจมีมากกว่า 77 โรงเรียน หากคณะกรรมการดำเนินการพัฒนาฯ เห็นว่ามีความเหมาะสม ทั้งนี้ โรงเรียน Public School จะเป็นโรงเรียนในกำกับของ ศธ. เช่นเดิม แต่จะมีรูปแบบการบริหารจัดการที่มีความอิสระคล่องตัว ภายในคณะกรรมการบริหารสถานศึกษา ซึ่งประกอบด้วย ผู้แทนจาก 4 ภาคส่วน คือ ผู้แทนจากภาครัฐ ภายประชาสังคม หรือองค์การปกครองส่วนท้องถิ่น ภาคเอกชน และมหาวิทยาลัย ซึ่งไม่จำเป็นต้องเป็น คณะครุศาสตร์/ศึกษาศาสตร์เท่านั้น ยังเปิดโอกาสให้คณะอื่นๆ เช่น คณะวิทยาศาสตร์ เข้ามามีส่วนร่วมเป็นคณะกรรมการบริหารสถานศึกษาได้ด้วย
นพ.อุดม กล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตาม คณะกรรมการบริหารสถานศึกษา มีอำนาจในการคัดเลือกผู้อำนวยการโรงเรียน และหากเห็นว่า ผู้บริหารเดิมไม่เหมาะสม ก็สามารถเสนอเลือกคนใหม่ได้ โดยเปิดกว้างให้คัดเลือกผู้ที่มีความรู้ความสามารถและประสบการด้านการศึกษา ที่มาจากทั้งจากทั้งภาครัฐ และภาคเอกชน รวมถึงเปิดโอกาสให้อาจารย์จากคณะครุศาสตร์/ศึกษาศาสตร์ ที่มีคุณสมบัติเหมาะสม เข้ามาเป็นผู้อำนวยการโรงเรียนดังกล่าวได้ด้วย ขณะเดียวกัน ในส่วนของครูผู้สอน เปิดโอกาสให้คณะกรรมการบริหารสถานศึกษา คัดเลือกครูและบุคลากรได้เอง ทั้งจากครู ที่เป็นข้าราชการของศธ. และสามารถจ้างผู้ที่มีความรู้สาขาที่ต้องการมาสอน เป็นครูอัตราจ้าง และสามารถกำหนดอัตราเงินเดือนให้เองได้ ส่วนครูที่เป็นข้าราชการ คณะกรรมการบริหารสถานศึกษา สามารถกำหนดเงินท็อปอัพพิเศษให้ได้ด้วยเช่นกัน
"การดำเนินการโรงเรียน รูปแบบ Public School จะเริ่มทันทีในช่วงเปิดเทอมเดือนพฤษภาคม ปีการศึกษา 2561 นี้ โดยเราจะไม่ใช้คำว่าโรงเรียนนำร่อง เพราะเราจะทำจริงๆ ทำเป็นโรงเรียนต้นแบบ เพื่อขยายไปในโรงเรียนอื่นๆในอนาคต ซึ่ง ศธ. มีโรงเรียนในกำกับทั้งหมด 3.7 หมื่นโรงเรียน ที่ต้องดูแลมานานเป็น 10 ปี แต่ก็ยังทำได้ไม่ดีเท่าที่ควร ดังนั้น จึงต้องเปิดกว้างให้ภาคส่วนต่างๆ รวมถึงประชาสังคม ท้องถิ่นเข้ามามีส่วนร่วมดูแล ในส่วนของศธ.ก็ทำหน้าที่กำกับดูแลนโยบาย เรื่องมาตรฐานและคุณภาพ ทั้งนี้ ในส่วนของข้อกฎหมายต่างๆ นั้น ที่ประชุมได้สอบถามทางสำนักงาน ก.ค.ศ. ยืนยันว่า กฎหมายมีช่องทางให้สามารถดำเนินการได้ ทั้งผู้อำนวยการโรงเรียนและครู มีเพียงเรื่องงบประมาณ ที่จะต้องลงไปดูในรายละเอียด แต่ในหลักการบริหารแบบอิสระนี้จะบริหารเงินเองได้ ดังนั้น เงินที่เข้ามาก็จะถูกนำไปใช้พัฒนาการศึกษา" นพ.อุดม กล่าว และว่า การทำโรงเรียน Public School ไม่ถือว่าซ้ำซ้อนกับโรงเรียนในกำกับรัฐ ของคณะกรรมการอิสระเพื่อการปฏิรูปการศึกษา (กอปศ.) เพราะโรงเรียนในกำกบรัฐของ กอปศ. จะต้องรอปรับแก้กฎหมายหลายฉบับ ขณะที่โรงเรียน Public School นี้สามารถดำเนินการได้ทันทีภายใต้กฎหมายที่มีอยู่ และอนาคต โรงเรียนทั้งสองรูปแบบก็จะมารวมเป็นรูปแบบเดียวกัน เพราะมีการบริหารจัดการที่เป็นอิสระเช่นกัน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี