นายกฤษฎา บุญราช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานในพิธีเปิดปฏิบัติการฝนหลวงสู้ภัยแล้ง ประจำปี 2561 อย่างเป็นทางการ ณ สนามบินนครสวรรค์ จังหวัดนครสวรรค์ พร้อมเปิดเผยว่า สถานการณ์ภัยแล้งในปี 2561 มีแนวโน้มทวีความรุนแรงมากขึ้น เนื่องมาจากความผันแปรของสภาพภูมิอากาศและสภาวะโลกร้อน ประกอบกับสถานการณ์ภัยพิบัติ ที่กำลังเกิดขึ้นขณะนี้ อาทิ สถานการณ์หมอกควันและไฟป่า ปัญหาภัยแล้ง และการขาดแคลนน้ำเพื่อใช้ทำการเกษตร เป็นต้น รวมถึงสถานการณ์ปริมาณน้ำเก็บกักในอ่างเก็บน้ำและเขื่อนสำคัญทั่วประเทศ ยังมีเขื่อนหลักบางแห่งที่มีปริมาณน้ำต่ำกว่าเกณฑ์ และมีการขอรับบริการฝนหลวงเพื่อช่วยเหลือพื้นที่การเกษตรด้วย กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เห็นความสำคัญของปัญหาดังกล่าว จึงมอบหมายให้กรมฝนหลวงและการบินเกษตร ดำเนินโครงการปฏิบัติการฝนหลวงสู้ภัยแล้ง ประจำปี 2561 ซึ่งเป็นภารกิจสำคัญตามนโยบายของรัฐบาลที่กำชับให้ทุกหน่วยงานมุ่งดำเนินงานเชิงรุกเพื่อช่วยเหลือพี่น้องเกษตรกรและประชาชน
ด้าน นายสุรสีห์ กิตติมณฑล อธิบดีกรมฝนหลวงและการบินเกษตร กล่าวว่า กรมฝนหลวงและการบินเกษตร เป็นหน่วยงานที่มีภารกิจหลักในการปฏิบัติการฝนหลวงเพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยแล้งให้แก่เกษตรกรและผู้ใช้น้ำทั่วทั้งประเทศ รวมถึงการเพิ่มปริมาณน้ำต้นทุนให้กับระบบบริหารจัดการน้ำของประเทศ โดยมีแผนปฏิบัติการประจำปี ตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม ถึงวันที่ 31 ตุลาคม ของทุกปี ภายใต้การดำเนินงานตามยุทธศาสตร์ 4 ยุทธศาสตร์ ได้แก่ การเพิ่มประสิทธิภาพการป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยแล้งและบรรเทาภัยพิบัติเชิงพื้นที่ การเพิ่มประสิทธิภาพการดัดแปรสภาพอากาศ การเพิ่มขีดความสามารถ การบริหารจัดการด้านการบิน และการพัฒนาระบบบริหารจัดการภาครัฐซึ่งสำหรับในปี 2561 กรมฝนหลวงและการบินเกษตร เตรียมจัดตั้งหน่วยปฏิบัติการฝนหลวง 5 ภูมิภาคทั่วประเทศ จำนวน 7 หน่วยปฏิบัติการ ได้แก่ ภาคเหนือ จำนวน 2 หน่วยฯ คือ หน่วยปฏิบัติการฝนหลวงจังหวัดเชียงใหม่ เปิดหน่วยฯ ตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2561 เป็นต้นไป หน่วยปฏิบัติการฝนหลวงจังหวัดพิษณุโลก เปิดหน่วยฯ ตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2561 เป็นต้นไป ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จำนวน 1 หน่วยฯ คือ หน่วยปฏิบัติการฝนหลวงจังหวัดขอนแก่น เปิดหน่วยฯ ตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2561 เป็นต้นไป ภาคกลาง จำนวน 2 หน่วยฯ คือ หน่วยปฏิบัติการฝนหลวงจังหวัดนครสวรรค์ เปิดหน่วยฯ ตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2561 เป็นต้นไป หน่วยปฏิบัติการฝนหลวงจังหวัดกาญจนบุรี เปิดหน่วยฯ ตั้งแต่วันที่ 6 มีนาคม 2561 เป็นต้นไป ภาคตะวันออก จำนวน 1 หน่วยฯ คือ หน่วยปฏิบัติการฝนหลวงจังหวัดจันทบุรี เปิดหน่วยฯ ตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม2561 เป็นต้นไป ภาคใต้ จำนวน 1 หน่วยฯ คือ หน่วยปฏิบัติการฝนหลวงหัวหิน เปิดหน่วยฯ ตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2561 เป็นต้นไป
นายสุรสีห์กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับการปฏิบัติการฝนหลวง ยังมีความร่วมมือจากหน่วยงานร่วมบูรณาการที่เกี่ยวข้องด้วย อาทิ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) สนับสนุนน้ำแข็งแห้งในการปฏิบัติการฝนหลวง กรมชลประทานและกรมป่าไม้ เรื่องบริหารจัดการน้ำและการอนุรักษ์ป่าต้นน้ำ การวิจัยพัฒนาจรวดดัดแปรสภาพอากาศ กับสถาบันเทคโนโลยีป้องกันประเทศ ดำเนินโครงการอากาศยานไร้คนขับ UAV กับคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ การสนับสนุนข้อมูลเกี่ยวกับงานวิจัยเพื่อแก้ไขปัญหาภัยแล้ง กับสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง การดำเนินงานเกี่ยวกับเทคโนโลยีที่ใช้สนับสนุนการปฏิบัติการฝนหลวง เกี่ยวกับการดัดแปรสภาพอากาศโดยพลุสารดูดความชื้นและพลุสารซิลเวอร์ไอโอไดร์กับกองทัพอากาศ และการวิจัยสารฝนหลวงทางเลือก กับสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย เป็นต้น
ทั้งนี้ การดำเนินการปฏิบัติการฝนหลวงสู้ภัยแล้ง และบรรเทาปัญหาภัยพิบัติต่างๆ กรมฝนหลวงและการบินเกษตร พร้อมเคียงข้างประชาชนเพื่อต่อสู้กับปัญหาภัยแล้ง การขาดแคลนน้ำ ปัญหาหมอกควัน และไฟป่า รวมถึงการยับยั้งพายุลูกเห็บ โดยจะมุ่งมั่นทุ่มเทอย่างสุดความสามารถในการปฏิบัติภารกิจ และ จะพัฒนาเทคโนโลยีฝนหลวง ซึ่งเป็นศาสตร์
พระราชาที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร พระราชทานไว้ให้ นำมาช่วยเหลือพื้นที่การเกษตร ป่าไม้ และประชาชนคนไทยให้รอดพ้นจากความทุกข์ยากอย่างยั่งยืน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี