“บิ๊กโย่ง”ยอมรับสอบโคตรโกงคนไร้ที่พึ่งอืด ติดขัดปัญหาระบบราชการ ทำสาวไม่เจอตอ เตรียมเสนอ “บิ๊กตู่” งัด ม.44 ช่วยเร่งรัดการสอบสวน พร้อมประกาศเตือนใครถูกบังคับให้ทำผิดรีบสารภาพ พร้อมกันตัวเป็นพยาน
ยังคงมีความคืบหน้าอย่างต่อเนื่อง สำหรับการตรวจสอบการทุจริตของศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งทั่วประเทศ โดยเมื่อวันที่ 8 มีนาคม ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) นายกิตติ ลิ้มชัยกิจ ประธานคณะกรรมการ ป.ป.ท. ได้เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ท. ซึ่งมีวาระสำคัญ คือ การพิจารณาตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวนในพื้นที่ต่างๆ เพิ่มเติม
เชือดอีก5จังหวัดโกงคนไร้ที่พึ่ง-คนเอี่ยวเพียบ
โดย พล.ต.อ.จรัมพร สุระมณี กรรมการและโฆษก ป.ป.ท. เปิดเผยหลังการประชุมว่า ที่ประชุมมีมติตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวนข้อเท็จจริงทั้ง 5 จังหวัด คือ หนองคาย บึงกาฬ น่าน สุราษฎร์ธานี และตราด หลังพบว่ามีการปลอมลายมือชื่อ เบิกจ่ายเงินไม่ครบตามความจริง และมีการสวมสิทธิผู้ไร้ที่พึ่ง โดยมีเจ้าหน้าที่ระดับ ผ.อ.ศูนย์ 5 ราย รวมทั้งเจ้าหน้าที่ระดับลูกจ้าง พนักงาน และคนนอก รวม 25 ราย เข้ามาเกี่ยวข้องกับการทุจริตที่เกิดขึ้น
ผงะพบแล้วเบ็ดเสร็จ28จังหวัด
พล.ต.อ.จรัมพร กล่าวอีกว่า เวลานี้กำลังอยู่ระหว่างลงพื้นที่แสวงหาข้อเท็จจริงและรวบรวมพยานหลักฐานและพบความผิดปกติในการเบิกจ่ายเงินอีก 21 จังหวัด ประกอบด้วย 1.จ.พระนครศรีอยุธยา 2.สระบุรี 3.กระบี่ 4.ตรัง 5.สงขลา 6.นราธิวาส 7.ยะลา 8.พัทลุง 9.อุดรธานี 10.ร้อยเอ็ด 11.นครราชสีมา 12.สุรินทร์ 13.บุรีรัมย์ 14.ชัยภูมิ 15.ยโสธร 16.ลำพูน 17.ลำปาง 18.เชียงราย 19.พิษณุโลก 20.สระแก้ว และ 21.อ่างทอง ซึ่งเท่ากับว่า ปัจจุบันพบการกระทำที่เข้าข่ายการทุจริตแล้ว 28 จังหวัด ซึ่งเป็นการตรวจสอบงบประมาณปี 2560 และอาจมีการตรวจสอบงบประมาณย้อนหลังไปถึงปี 2558 ย้อนหลังอีกหากพบความเชื่อมโยง
“บิ๊กโย่ง”พร้อมประสานปปท.ไล่เช็คบิล
ด้าน พล.อ.อ.อนันตพร กาญจนรัตน์ รมว.พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) กล่าวว่า พม. และ ป.ป.ท. ได้ร่วมกันตรวจสอบ 44 หน่วยงาน โดยในส่วนของพม.พบ 15 หน่วยงานเกี่ยวข้อง และหลังพบว่าใครมีส่วนเกี่ยวข้องได้มีคำสั่งย้ายมาช่วยราชการและตั้งกรรมการสอบสวนภายใน 30 วันและลงโทษขั้นต้น ส่วนที่ตัวเลขไม่ตรงกับที่ ป.ป.ท. ตรวจสอบพบกว่า 20 แห่งนั้น อาจเป็นเพราะต่างคนต่างตรวจ และ ป.ป.ท. ไม่ได้ขึ้นกับ พ.ม. จึงไม่ได้รายงานให้ทราบ แต่ก็มีการประสานงานเป็นระยะ เพื่อไม่ให้ซ้ำซ้อนกัน
ใครถูกบังคับรีบบอก-พร้อมกันตัวเป็นพยาน
“ขณะนี้การตรวจสอบเริ่มชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ ได้ขอร้องไปว่าคนที่ทำผิด หากผิดเองก็รับผิดชอบตัวเอง หากใครโดนบังคับให้ะทำ ให้มาสารภาพ หนักจะเป็นเบา และจะกันตัวไว้เป็นพยาน ตอนนี้มีคนเข้ามาให้ข้อมูลเรื่อยๆ ซึ่งข้อมูลต่างๆ ต้องกลั่นกรองเพราะเป็นคำพูดที่อาจเอาตัวรอด จะมีหน่วยงาน กรรมการสอบสวนว่าข้อเท็จรงเป็นอย่างไร ต้องใช้เวลา จะให้เวลา 30 วันทุกกรณีที่ตรวจพบ ไม่ใช่นำทุกรณีมารวมกัน ภายใน 30วัน ไม่เช่นนั้นจะช้า ทำไม่ทัน สิ้นเดือนนี้กรณีแรกเสร็จ ขอให้รอดู ขณะนี้พาดพิงกันหลายระดับ หากพบหลักฐานว่ามีความเชื่อมโยง ผมลงโทษแน่นอน ส่วนปลัดพม.และรองปลัดที่ถูกย้าย เพราะถูกพาดพิง อยู่ระหว่างพิสูจน์ว่าผิดจริงหรือไม่”
จ่อชงบิ๊กตู่งัด“ม.44”สางโกง
พล.อ.อนันตพร กล่าวว่า ความยากที่เกิดขึ้นขณะนี้คือขั้นตอนของระบบราชการ เพราะระบบดี ป้องกันนักการเมืองกลั่นแกล้งข้าราชการ ทำให้ต้องใช้เวลาในการแจ้งการพิสูจน์ทราบ ส่งผลให้การตรวจสอบล่าช้า และตรวจสอบไปไม่เจอตอ ถ้าหากเจอตอยังดีเสียกว่า เพราะตนสามารถเข้าไปขุดได้หมดทุกตอ
ส่วนหลังจากนี้จะใช้คำสั่ง คณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) เช่น ม.44 แก้ปัญหาหรือไม่ พล.อ.อนันตพร กล่าวว่า หากจำเป็นก็ต้องขอ แต่จะอนุมัติหรือไม่อยู่ที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ถ้าจำเป็นเพื่อให้เกิดความรวดเร็วก็ต้องทำ และมีแนวโน้มว่าต้องขอ ขอหารือนายกรัฐมนตรีก่อน อย่างไรก็ตามก่อนไปถึงขั้นนั้น ยังมีวิธีอื่นดำเนินการ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี