ฟันคดีติดสินบน
เรียก‘เปรมชัย’รับข้อหา14มีนาฯ
เจ้าสัวแจ้งขอนั่งเจ๊ทไปนอก
อ้างจะกลับไทย11มีนาคมนี้
“บิ๊กป้อม” รับประกันไม่มีใครช่วยได้หากเปรมชัยทำผิดจริง ย้ำไม่เปลี่ยนตัว “ศรีวราห์” เพราะทำหน้าที่ได้ดี ขณะที่รองผบ.ตร.ประชุมทีมสืบสวนเพิ่มข้อหา“พยายามติดสินบน”อีกคดี นัดเข้ารับทราบข้อกล่าวหา 14 มีนาคม ด้าน“บิ๊กอิตาเลียนไทย”เตรียมนั่งเครื่องบินส่วนตัวไปต่างประเทศแจ้งเดินทางกลับ 11 มีนาฯนี้
เมื่อวันที่ 8 มีนาคม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม กล่าวถึงกรณีความเคลื่อนไหวของประชาชนที่ออกมากดดันให้ดำเนินคดีกับ นายเปรมชัย กรรณสูต ประธานบริหาร บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเม้นต์ จำกัด (มหาชน) กับพวกรวม4 ราย ล่าสัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร ฝั่งตะวันตก จ.กาญจนบุรี ว่า ความเคลื่อนไหวในโซเชียล เป็นกระแสสังคม เป็นอีกเรื่อง แต่การทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นไปตามพยานหลักฐาน เป็นไปตามกฎหมาย มีการหาพยานหลักฐานนิติวิทยาศาสตร์ ทุกอย่างเป็นไปตามรูปคดี ไม่มีใครสามารถเข้าไปช่วยเหลือ รับรองได้ อย่างไรก็ตาม การแสดงออกของประชาชน ผ่านการเขียนรูป กราฟฟิตี้ ภาพถ่าย ตามจุดต่างๆ เป็นเรื่องที่ไม่สามารถไปห้ามประชาชนได้
เมื่อถามว่า กระแสกดดันให้เปลี่ยนตัว พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร. ในการรับผิดชอบคดีดังกล่าวนั้น พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ที่ผ่านมา พล.ต.อ.ศรีวราห์ ทำงานได้ดี และเป็นคนตรงไปตรงมา คำพูดอาจโผงผางบ้าง ซึ่งขณะนี้ไม่มีแนวโน้มอะไรที่จะเปลี่ยนตัว เพราะคดีใกล้จะจบแล้ว
ศรีวราห์ฟันเพิ่มพยายามติดสินบน
วันเดียวกัน เมื่อเวลา 10.40 น. พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร. พร้อม พล.ต.ต.ชยพล ฉัตรชัยเดช รอง ผบช.ส. พล.ต.ต.สมบัติ มิลินทจินดา รอง ผบช.ภ.1, พ.ต.อ.วัชรินทร์ พูสิทธิ์ รอง ผบก.ปปป. พร้อมคณะได้เดินทางมาประชุมร่วมกับพนักงานสอบสวน ที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค7(บก.ภ.7) เพื่อเร่งรัดสำนวนคดี และเก็บรายละเอียดต่างๆ เพื่อรวบรวมพยานหลักฐานให้ครบถ้วน ทุกข้อหา ก่อนจะส่งฟ้องพนักงานอัยการให้ทันภายในวันที่ 26 มีนาคม นอกจากนี้ ในการประชุมได้มีการตรวจพยานหลักฐานเกี่ยวกับข้อหาพยายามติดสินบนเจ้าพนักงานของนายเปรมชัย ซึ่งพนักงานสอบสวน จะสอบปากคำนายวิเชียร ชินวงศ์ หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าฯ กรณีเป็นผู้ร้องทุกข์แจ้งความเอาผิด
โดย พล.ต.อ.ศรีวรราห์ ระบุว่า ขณะนี้มีประจักษ์พยาน ที่จะเอาผิดนายเปรมชัยในข้อหาดังกล่าวได้ โดยจะมีการแจ้งข้อกล่าวหานายเปรมชัยภายในวันนี้ ก่อนที่จะออกหมายเรียกให้มารับทราบข้อกล่าวหาในวันที่ 14 มีนาคม พร้อมข้อหาที่ได้แจ้งความไว้ก่อนหน้านี้ 2 ข้อหา คือคดีเกี่ยวกับการครอบครองอาวุธปืนและร่วมครอบครองงาช้างแอฟริกาโดยผิดกฎหมาย
ยอมรับเปรมชัยเตรียมบินไปนอก
พล.ต.อ.ศรีวราห์ เปิดเผยได้รับรายงานว่านายเปรมชัย มีกำหนดการเดินทางไปต่างประเทศในวันที่ 9 มีนาคมนี้ ซึ่งถือเป็นสิทธิ์ของนายเปรมชัยสามารถทำได้ เพราะไม่อยู่ในเงื่อนไขการประกันตัวของศาล และนายเปรมชัยได้มีการแจ้งมาที่เจ้าหน้าที่แล้ว แต่ไม่ได้แจ้งจุดหมายและกำหนดกลับ ซึ่งได้สั่งการให้สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง(สตม.) ตรวจสอบข้อมูลการเดินทาง ไว้ว่านายเปรมชัยเดินทางไปที่ใด
ส่วนในวันที่ 14 มีนาคม ที่นายเปรมชัยต้องรับทราบข้อกล่าวหา 3 ข้อหาใหม่ ก็ยังสามารถใช้สิทธิ์ขอเลื่อนเข้ารับทราบข้อกล่าวหาได้ แต่หากไม่มาและไม่มีการแจ้งขอเลื่อน ก็จะออกหมายเรียกครั้งที่ 2 ส่วนการเดินทางอออกนอกประเทศในครั้งนี้ จะไม่ส่งผลกระทบต่อการดำเนินคดีใน 9 ข้อหาแรก เนื่องจากเจ้าหน้าที่มีการแจ้งข้อกล่าวหาและเจ้าหน้าที่ส่งฝากขังต่อศาลและอยู่ในอำนาจของศาลแล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในที่ประชุมได้มีมติให้แจ้งข้อกล่าวหา ต่อนายเปรมชัย ในความผิดฐานพยายามติดสินบนเจ้าพนักงานเพิ่มอีก 1 คดี
เผยจุดหมายบังคลาเทศ กลับ11มี.ค.
สำหรับการเดินทางของไปต่างประเทศของนายเปรมชัยนั้น มีการงานแจ้งว่า นายเปรมชัยได้ทำหนังสือถึงด่านตรวจคนเข้าเมือง แจ้งกำหนดการเดินทางโดยเครื่องบินเจ็ทส่วนตัว โดยเดินทางออกจากประเทศไทยในวันที่ 10 มีนาคม ที่สนามบินดอนเมือง ไปยังประเทศบังคลาเทศ ในเวลา 9.00 น. มีลูกเรือ 2 คน และผู้โดยสารจำนวน 4 คน และเดินทางกลับมาในวันที่ 11 มีนาคม ในช่วงเวลา 17.30 น.
เก็บงาช้างบ้านเปรมชัยไว้เป็นหลักฐาน
ที่ กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ปทส.) นายนุวรรต ลีลาพตะ รองหัวหน้าชุดปฏิบัติการปราบปรามการกระทำความผิดด้านสัตว์ป่า กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช พร้อมด้วย นายถิรเดช ปาละสุวรรณ หัวหน้าชุดปฏิบัติการ เจ้าหน้าที่ชุดเหยี่ยวดง กรมอุทยานแห่งชาติฯ ทำการตรวจวัดขนาดและอัตลักษณ์ทางนิติวิทยาศาสตร์งาช้าง 2 คู่ ที่ตรวจยึดมาจากบ้านพักนายเปรมชัย ก่อนรับไปจาก ปทส. เพื่อนำไปเก็บรักษาไว้เป็นหลักฐานในคดีที่ตำรวจแจ้งข้อกล่าวหานายเปรมชัย และภรรยา ครอบครองซากสัตว์ป่า จนกว่าคดีจะสิ้นสุด
นัดรับทราบข้อกล่าวหา14มี.ค.
ทั้งนี้ นายเปรมชัย ขึ้นทะเบียนงาช้าง 2 คู่ ว่าเป็นงาช้างบ้าน โดยระบุว่าเป็นมรดกตกทอดมา แต่ภายหลังการตรวจพิสูจน์พบว่าเป็นงาช้างแอฟริกา จึงต้องแจ้งข้อกล่าวหาตามขั้นตอนทางกฎหมาย ทั้งนี้ ได้นัดนายเปรมชัย และภรรยา รวมทั้ง น.ส.วันดี สมภูมิ ผู้รับรองว่าเป็นงาช้างบ้าน มารับทราบข้อกล่าวหาร่วมกันมีซากสัตว์ป่าคุ้มครองไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ตาม พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2535 มีโทษตามมาตรา 47 อัตราโทษจำคุกไม่เกิน 4 ปี ปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับแอฟริกา ที่ ปทส. ในวันที่ 14 มีนาคมนี้
ป้ายเสือดำร้องไห้โผล่อิตาเลียนไทย
เมื่อเวลา 11.40 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่าที่บริเวณด้านหน้าของบริษัท อิตาเลียนไทย จำกัด ได้มีชายไม่ทราบชื่อ ใส่หน้ากากอนามัยปิดบังใบหน้า นำแผ่นป้ายรูปเสือดำกำลังร้องไห้ วางหน้าตึกอิตัลไทยทาวเวอร์ ถนนเพชรบุรี-ตัดใหม่ ซึ่งเป็นที่ตั้งของ บริษัทอิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) ของนายเปรมชัย กรรณสูต ผู้ต้องหาคดีลักลอบล่าสัตว์ป่าคุ้มครอง
จากการสอบถามชายดังกล่าวขอไม่เปิดเผยชื่อ ซึ่งตนเองเป็นศิลปินอิสระ และทำเรื่องดังกล่าวเพียงคนเดียว ภายหลังจากนำแผ่นป้ายรูปเสือดำมาเสร็จได้เดินออกจากหน้าอาคารกลับไปทันที จากนั้นประมาณ 10 นาที เจ้าหน้าที่อาคารอิตัลไทยได้ให้แม่บ้านนำแผ่นป้ายรูปเสือดำออกจากป้ายอาคารทันที
ยื่นสอบ ‘ศรีวราห์-ผกก.ทองผาภูมิ’
ที่สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เข้ายื่นคำร้องถึงผู้ตรวจการแผ่นดิน เพื่อขอให้ตรวจสอบการไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย หรือปฏิบัตินอกเหนือหน้าที่และอำนาจตามกฎหมายต่อ พล.ต.อ.ศรีวราห์ และ พ.ต.อ.วุฒิพงษ์ เย็นจิตร ผกก.สภ.ทองผาภูมิ เพื่อเสนอแนะต่อ ตร. และสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) ให้ขจัดหรือระงับความไม่เป็นธรรม และขอให้เสนอแนะต่อหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้องเพื่อมีการปรับปรุงกฎหมาย กฎ หรือคำสั่ง หรือขั้นตอนการปฏิบัติงานใดๆ ที่ก่อให้เกิดความเดือดร้อนหรือไม่เป็นธรรม กรณีมีคำสั่งให้ลงโทษภาคทัณฑ์ ร.ต.อ.สุมิตร บุญยะนิจ พงส.สภ.ทองผาภูมิ ที่รับแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษ นายเปรมชัย กับพวก ฐานกระทำการทารุณกรรมสัตว์ฯ ซึ่งต่อมาได้มีการถอนแจ้งความไปแล้ว จนเป็นเหตุให้ ร.ต.อ.สุมิตรต้องถูกลงโทษ จากข้ออ้างที่ว่าไม่ตรวจสอบข้อกฎหมายและรับคำร้องทุกข์ไปโดยไม่ถูกต้อง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี