ปลดออกผอ.รร.หื่น
ถ่ายคลิปลวนลามลูก
แห่ให้กำลังใจครูสาว
แฉอาจารย์ขออึ้บนร.
จากกรณีครูโรงเรียนแห่งหนึ่งใน จ.กาฬสินธุ์พาลูกสาววัย 19 ปี เข้าร้องทุกข์ต่อ ผวจ.กาฬสินธุ์ และ ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ รวมทั้งศูนย์ดำรงธรรม จ.กาฬสินธุ์ ว่าลูกสาวถูก นายสมศักดิ์ ขันทวี อดีตสามีใหม่ ผอ.โรงเรียนแห่งหนึ่งใน จ.กาฬสินธุ์ ใช้โทรศัพท์แอบถ่ายภาพและถ่ายคลิปขณะอาบน้ำ พร้อมกับลวนลามลูกสาวมานานหลายปี โดยขอให้ทางสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา จ.กาฬสินธุ์ เขต 3 (สพป.กาฬสินธุ์ เขต 3) ตรวจสอบข้อเท็จจริง และแจ้งความไว้ที่ สภ.กุฉินารายณ์ จ.กาฬสินธุ์ ดำเนินคดีกับอดีตสามีใหม่รายนี้ กระทั่ง ผอ.โรงเรียนรายดังกล่าว ได้เข้ารับทราบข้อหาอนาจารเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี ส่วนทางศึกษาธิการจังหวัดได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรง แล้วนั้น
ความคืบหน้าเมื่อวันที่ 8 มีนาคม นายกิตติพศ พลพิลา ศึกษาธิการ จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า หลังจากศึกษาธิการจังหวัดแต่งตั้งคณะกรรมการสอบวินัยร้ายแรง ผอ.โรงเรียนดังกล่าว จากการลงพื้นที่รวบรวมพยานหลักฐานเสร็จสิ้นแล้ว มีผลสรุปว่ากรณีมีมูลความผิดตามที่มีผู้ร้องจริง ทางคณะกรรมการจึงมีมติให้ปลดผอ.โรงเรียนแห่งนี้ออกจากราชการ และเสนอเรื่องไปยังคณะกรรมการศึกษาธิการจังหวัดพิจารณา โดยที่ประชุมคณะกรรมการศึกษาธิการจังหวัด เมื่อวันที่ 6 มีนาคม ที่ผ่านมา มีมติปลด ผอ.รายนี้ ออกจากราชการ จากนั้นก็จะทำหนังสือเป็นลายลักษณ์อักษร ส่งไปยังหน่วยงานต้นสังกัด เพื่อให้ดำเนินการต่อไป
นายกิตติพศกล่าวอีกว่า นอกจากนี้ในที่ประชุมคณะกรรมการศึกษาธิการจังหวัด นายอรรถพล ตรึกตรอง ศึกษาธิการภาค 12 ได้พิจารณาวาระสำคัญ เรื่อง การพิจารณาการกระทำผิดวินัยร้ายแรงของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา โดยเฉพาะการล่วงละเมิดทางเพศผู้เรียน และการทุจริตต่อหน้าที่ราชการ มีแนวทางการลงโทษทางวินัย ใน 3 กรณี 1.กรณีล่วงละเมิดทางเพศผู้เรียน 2.ทุจริตต่อหน้าที่ราชการ และ 3.กรณีเสพหรือจำหน่ายยาเสพติด ให้ผู้มีอำนาจตามมาตรา 53 คือศึกษาธิการจังหวัด สั่งให้ออกราชการไว้ก่อนทุกราย เพื่อให้การดำเนินการทางวินัยรวดเร็ว และเป็นการป้องปรามการกระทำความผิดทางวินัย โดยที่ประชุมมีมติเห็นชอบข้อเสนอดังกล่าว และให้แจ้งไปยังเขตพื้นที่การศึกษาทั้ง 4 เขต ให้ปฏิบัติอย่างเคร่งครัด
ส่วนความคืบหน้ากรณีครูสาวโรงเรียนแห่งหนึ่งใน จ.กาฬสินธุ์ ออกมาขอความเป็นธรรมกรณีมีนักเรียนหญิง บอกว่าถูกครูผู้ชายในโรงเรียนขอมีเซ็กซ์ด้วยเพื่อแลกเกรด จนครูสาวรายนี้ได้โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ค มีใจความแจ้งเตือนให้ลูกศิษย์สาวระมัดระวังพฤติกรรมการคุกคามทางเพศ แต่หลังจากโพสต์ข้อความดังกล่าวแล้ว กลับถูกสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา (สพม.) 24 สั่งตั้งกรรมการสอบสวนวินัย แต่ต่อมาภายหลังมีการเผยแพร่ข่าวออกไป ทางกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) จึงแจ้งให้ สพม.24 ตั้งกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมด นั้น
วันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปยังโรงเรียนดังกล่าว โดยพบว่ามีผู้ปกครองและนักเรียนจำนวนมาก ต่างเดินทางมาให้กำลังใจครูสาวรายนี้
น.ส.สวย (นามสมมุติ) หนึ่งในนักเรียนสาวที่ถูกครูชายขอมีเซ็กซ์ด้วย เปิดเผยว่า ช่วงที่ครูคนดังกล่าวมาพูดคุยเป็นเวลาพักเที่ยง ตนกำลังนั่งเล่นกับเพื่อน ระหว่างนั้นครูก็เข้ามาพูดหยอกล้อ ก่อนจะพูดว่าทำไมไม่ทาที่อวัยวะเพศด้วย และยังพูดอีกว่า อยากวันไหนโทร.มานัดครูนะ โดยสั่งห้ามบอกครูคนอื่นทำให้ตนกับเพื่อนรู้สึกกลัวจึงนำเรื่องราวทั้งหมดไปแจ้งครูสาว จากนั้นครูสาวก็โพสต์ข้อความเตือนลูกศิษย์ให้ระวังตัว แต่กลับถูก ผอ.นำเรื่องร้องเรียนให้มีการสอบสวนวินัย ซึ่งพวกตนคิดว่ากรณีที่เกิดขึ้นน่าจะสอบครูผู้ชายมากกว่า และนักเรียนทุกคนมาให้กำลังใจและจะขออยู่เคียงข้างครูสาวรายนี้ โดยยืนยันได้ว่าทุกสิ่งที่พูดไปเป็นความจริงทั้งหมด
ด้าน ครูสาวรายดังกล่าว ระบุว่า หลังจากทราบว่ามีการตั้งคณะกรรมการใหม่เพื่อสอบสวนเรื่องราวทั้งหมดทำให้รู้สึกว่าเป็นสิ่งที่ถูกต้องและควรทำตั้งแต่แรก และตนอยากให้มีการสอบสวนอย่างตรงไปตรงมา ขอให้เอาเหตุผลและความถูกต้องมาวัดกัน สำหรับตนนั้นก็ไม่ได้ทำเพื่อตัวเอง แต่ทำเพื่อเด็กนักเรียนทุกคน และเพื่อปกป้องศักดิ์ศรีนักเรียนที่กำลังอยู่ในวัยหนุ่มสาว ตนพร้อมจะสู้เพื่อความจริง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี