10 มี.ค.61 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าตัวแทนชาวบ้านไม่ต่ำกว่า 150 คน เข้ามาร้องเรียนว่า มีกลุ่มชาวบ้านได้รับความเสียหาย เข้าข่ายถูกลอกลวง เสียหายมูลค่าประมาณ 40 ล้านบาท จึงเรียกร้องขอความเป็นธรรมผ่านสื่อมวลชน กรณีที่ถูกหลอก ให้ซื้อที่ดินในพื้นที่ ต.ตาแซะ อ.เมือง จ.ยะลา เมื่อปี 2553 จนถึงปัจจุบัน 10 ปีมาแล้ว ยังไม่มีความคืบหน้า ของการแก้ปัญหาดังกล่าว
ทั้งที่กลุ่มได้ร้องผ่านศูนย์ปฏิบัติการ คดีพิเศษจังหวัดชายแดนภาคใต้ และศูนย์ดำรงธรรม ศอ.บต. จนกระทั่งทาง ศอ.บต.ได้มีการตั้งคณะกรรมการร่วม ตรวจสอบตามที่ชาวบ้านได้มีการร้องเรียนมา จนถึงขนาดนี้ผู้แทนชาวบ้านที่ได้รับความเสียหาย อ้างว่ายังไม่มีข้อสรุปและความคืบหน้าใดๆเลย จึงอยากวิงวอนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบและให้ความเป็นธรรมให้ชาวบ้านจากกรณีดังกล่าวนี้ด้วย
ส่วนโครงการพัฒนาที่ดินแปลนใหญ่ในพื้นที่ ต.ตาเซะ อ.เมือง จ.ยะลาในครั้งนั้น ได้รับการชี้แจงจาก ตัวแทนกลุ่มผู้ได้รับความเสียเดือดร้อน จากโครงการดังกล่าว โดยขอสงวนชื่อและนามสกุลว่า" เมื่อ 10 ที่แล้ว มีกลุ่มบุคคลในนาม มูลนิธิมะดีนะฮ อัลนูร เสนอขายที่ดินเพื่อเปิดโครงการพัฒนา บริเวณบ้านตาแซะ อ.เมือง จ.ยะลา มีเนื้อที่ประมาณ 1,850 ไร่ ซึ่งที่ดินแปลงนี้ เป็นชื่อบุคคลคนเดียว โดยขายให้ชาวบ้านห้องละ 5 หมื่นบาท" แล้วยังประกาศอีกว่า หากผู้ซื้อคนไหนที่ซื้อแล้วมีความต้องการเป็นเงินจะได้กำไรกลับเท่าตัวกับราคาที่ซื้อ ทุกคนก็ซื้อโดยจ่ายเป็นเงินสด ประมาณ 1500 คน ได้เงินมาทั้งหมด 350 ล้านบาท ในจำนวนเงินก้อนนี้ทางมูลนิธีมะดีนะฮอันนูร นำไปจ่ายค่าที่ดินที่ซื้อมาในราคา 286 ล้านบาท
ทุกครั้งที่ไปขอเงินคืนจะถูกนิ่งเฉยไม่มีคำตอบใดๆ จนกระทั่งต่อมาเมื่อปี 2558 ได้มีตัวแทนฝ่ายมูลนิธิฯได้แจ้งให้ผู้ซื้อทุกคนไปเปิดบัญชี ธนาคาร อิสลาม เพื่อจะโอนเงินทั้งหมดให้ ชาวบ้านต่างก็ไปเปิดบัญชี กันทุกคน เพราะหวังจะได้เงินคืน แต่สุดท้ายก็เหมือนเดิม ไม่ได้มีการโอนเงินเข้าบัญชีผู้เสียหายแต่อย่างใด
หลังจากนั้นไม่นาน ก็มีเจ้าหน้าที่ของมูลนิธิฯ มาเรียกเก็บสัญญาซื้อขายจากชาวบ้านด้วย ทำให้บางคนรู้เท่าไม่ถึงการณ์คิดไม่ทันก็ให้หนังสือสัญญาตัวจริงไป บางคนที่รู้ทันก็ให้ที่เป็นฉบับถ่ายเอกสาร จึงทำให้ชาวบ้าหรือผู้เสียหายบางคน ที่ซื้อไม่มีเอกสารก็มี ตอนนี้ตัวแทนผู้เสียหายที่ดำเนินการเรียกร้อง ในเรื่องนี้ก็รู้สึดไม่ปลอดภัย ถูกคุกคาม เพราะมีเรื่องของอิทธิพลเกี่ยวข้องด้วย
สำหรับความคืบหน้าของโครงการล่าสุดมูลนิธิมะดีนะฮ อัลนูร มีคำสั่งประกาศแต่งตั้งคณะทำงานเพื่อประสานโครงการพัฒนาพื้นที่ตาแซะ อำเภอเมืองจังหวัดยะลา ซึ่งมูลนิธิเป็นองค์กรที่จัดตั้งขึ้นเพื่อดำเนินการพัฒนาสังคมคุณภาพชีวิตและสาธารณกุศลของนักเรียนนักศึกษาและประชาชนทั่วไปให้ได้ ให้ตั้งมั่นอยู่ในคุณธรรมจริยธรรมตามหลักศาสนาอิสลาม
โครงการพัฒนาพื้นที่ตาแซะ เป็นหนึ่งในกิจกรรมของมูลนิธิมะดีนะฮ อัลนูร ที่ต้องการพัฒนาให้เป็นหมู่บ้านมุสลิมต้นแบบซึ่งดำเนินการอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2553 เป็นต้นมา แต่ยังไม่บรรลุเป้าหมายที่วางไว้รวมทั้งความเข้าใจของพี่น้องมุสลิมยังมีความสับสนในเรื่องของข้อมูล การดำเนินงานในการพัฒนาพื้นที่ดินดังกล่าวนี้
ทางด้านนายอาดัม ดาเระมูซอ ประธานมูลนิธิมะดีนะฮ อัลนูร จึงได้แต่งตั้งคณะทำงานเพื่อประสานงานโครงการพัฒนาพื้นที่ตาแซะ เมื่อวันที่ 26 กันยายน 2560ที่ผ่านมา โดยมีนายอุดร น้อยทับทิม อดีตรองผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา พลโทมนตรี อุมารีอดีตที่ปรึกษาแม่ทัพภาคที่ 4 พันเอกชัชภณ สว่างโชติ รองผู้อำนวยการศูนย์สันติวิธี กอ.รมน.ภาคที่ 4 ส่วนหน้า นายอดิมาน มะแอ ผู้อำนวยการส่วนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดยะลา นายมะตูกี สาและ นาย สะตอปา มาลี นายอับดุลลาเต๊ะ สาและ นายอาตออุลเล๊าะ ดาเร๊ะมูซอ นายรอยะ สะหะ
ให้คณะทำงานเพื่อประสานงานโครงการพัฒนาพื้นที่ตาแซะ อ.เมือง จ.ยะลา ชุดนี้ มีอำนาจ 1.ในการประสานงานและชีแจงข้อมูล การดำเนินโครงการตาแซะต่อสาธารณะองค์กรทั้งภาครัฐ และเอกชนรวมทั้งสื่อมวลชนเพื่อให้ได้รับข้อมูลที่ถูกต้อง 2. ประกาศฉบับนี้ โดยให้ นายอาดัม ดาเระมูซอผู้มีกรรมสิทธิ์ในที่ดินโครงการพัฒนาตาแซะ ได้รับมอบหมายมาจากที่ประชุม นิซัมมูดิน ได้มอบอำนาจให้คณะทำงาน ชุดนี้ดำเนินการตามขข้อ 1 โดยให้ถือว่านายอาดัม ดาเระมูซอ เป็นผู้กระทำด้วยตนเอง 3. ให้คณะทำงานยึดถือการให้ข้อมูลข่าวสารที่เป็นความจริงโดยคำนึ่งถึงการอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุขในสังคม โดยมีการประชุมก่อนที่จะประสานงานกับบุคคลทั่วไปหรือองค์กรอื่นๆตามข้อที่ 1 ทุกครั้ง
ในส่วนของ ศอ.บต.หลังได้รับการร้องเรียนมา ก็ไม่ได้เพิกเฉยและได้มีการตั้งคณะกรรมร่วมชุดหนึ่งเพื่อเข้าตรวจสอบข้อเท็จจริง พร้อมให้ความเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย
ล่าสุดนายกิตติ สุระคำแหง รองเลขา ศอ.บต. กล่าวว่า ในเรื่องนี้ว่า นายศุภณัฐ สิรันทวิเนติ เลขาธิการศอ.บต.ออก คำสั่ง เมื่อ วันที่ 30 ตุลาคม 2560 ที่ 114 2/2560 แต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบและแก้ไขปัญหาการซื้อขายที่ดินของมูลนิธิมะดีนะฮ อัลนูร มัรกัส จังหวัดยะลา ในคำสั่งบอกว่า เนื่องจากศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้รับประสานจากศูนย์ปฏิบัติการ คดีพิเศษจังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อขอความอนุเคราะห์ให้ ศอ.บต. บูรณาการให้ความร่วมมือกรณีได้รับ ความเดือดร้อน ขอจาก ชาวบ้าน อ้างว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมจากการซื้อขายที่ดินจัดสรรของมูลนิธิมะดีนะฮ อัลนูร มัรกัส จังหวัดยะลา และประสงค์ขอรับเงินค่าซื้อที่ดินคืน
เพื่อให้ได้ข้อเท็จจริง ปรากฏได้ชัดเจนยิ่งขึ้นและบูรณาการข้อมูลทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องสามารถ คลี่คลายปัญหาความเดือดร้อนจากการดำเนินการซื้อขาย บนที่ดินดังกล่าวเป็นไปด้วยความเรียบร้อยให้ได้ ความพึงพอใจและประโยชน์ร่วมกัน จึงควรแต่งตั้งคณะกรรมการแก้ไขปัญหาที่ดินตาเซะ ประกอบด้วย นายกิตติ สุระคำแหง ผู้ช่วยเลขาธิการ ศอ.บต.ปัจจุบันเป็น รองเลขา ศอ.บต. เป็นประธาน และมีกรรมการ ว่าที่ร้อยเอกสมศักดิ์ ไชยมณี ผอ. ศดต.จชต. ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลาหรือผู้แทน ศูนย์ปฏิบัติการพิเศษจังหวัดชายแดนภาคใต้หรือผู้แทน เจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดยะลาหรือผู้แทนโยธาธิการและผังเมืองจังหวัดยะลาหรือผู้แทน ประธานกรรมการอิสลามประจำจังหวัดยะลาหรือผู้แทน เลขานุการกรรมการอิสลามจังหวัดยะลา ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดยะลาหรือผู้แทน กำนันตำบลตาเซะ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลตาเซะ นายอับดุลเราะห์มาน อิบราฮิม นายอาดัม ดาเระมูซอ ประธานมูลนิธิมะดีนะฮ อัลนูร นายนุชอาหมัด หะยีอาแว นายโดรอหะ หะยีมามุ นายไพศาล คณะทอง ที่ปรึกษากฎหมาย ศดต.จชต. นายไชยะ เจ๊ะแหล้ นิติกรชำนาญการพิเศษ นายฮารีฟ มาหิเละ นักสังคมสงเคราะห์ชำนาญการพิเศษ นางสาวสุกีลักษณ์ หมาดสะ นิติกรชำนาญการ
คำสั่งดังกล่าวให้อำนาจหน้าที่ เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงและรวบรวมพยานหลักฐานให้ปรากฏในส่วนที่ได้รับความเดือดร้อน หรือความเสียหายอันเนื่องจากการซื้อขายที่ดินตำบลตาเซะอำเภอเมืองจังหวัดยะลาเพื่อการจัดกิจกรรม อาเซียนเมื่อปี 2552 เจรจาไกล่เกลี่ยข้อพิพาทเพื่อพ่อเพื่อหาข้อยุติเบื้องต้นให้เกิดความเป็นธรรมสำหรับทุกฝ่าย หากคู่กรณีก็ไม่สามารถ ตกลงกันได้ให้ดำเนินการรวบรวมข้อมูลเสนอเลขาธิการ ศอ.บต. พิจารณา
ประสานงานกับส่วนราชการหรือหน่วยงานของรัฐที่มีอำนาจที่เกี่ยวข้อง เพื่อหา เพื่อหาทางออกอย่างสันติวิธี และไม่ขัดกับหลักศาสนา ดำเนินการอื่นๆหรือตามที่เลขาธิการ มอบหมายรายงานผลให้เลขาธิการทราบ
ตอนนี้คณะกรรมการได้ประชุมหลายครั้งแล้วและเรียกทุกฝ่ายมาคุย ปัญหาคือ การดำเนินการของอุสตะมามุ หรือ นายอาดัม ดาเระมูซอ ประธานมูลนิธิมะดีนะฮ อัลนูร เอาเงินชาวบ้านไปจริง1500 คน ลงทุนซื้อที่ดินจริง 1850 ไร่ ชาวบ้านในที่นี้ มีอยู่ 3 กลุ่ม กลุ่มแรกต้องการบริจาคเพื่อการกุศาลจริง กลุ่ม 2 ต้องการบริจาคและต้องการเก็งกำไร เพราะทางผู้ขายรับปากว่าจะให้กำไรเท่าตัว กลุ่มที่ 3 กลุ่มที่ต้องการเก็งกำไรอย่างเดียว
ซื้อที่ดิน 1850 ไร่นี้เพื่อต้องการพัฒนา ที่นี้ต่อมานายทุนจากต่างประเทศถอย ต่อมาตอนหลังมี ตาบุงฮัจยี เข้ามาอีกจะพัฒนาแต่ก็ถอยไปอีก ส่วนเงินที่ได้จากชาวบ้านก็ได้มาแปรสภาพเป็นที่ดินการพัฒนาก็ไม่เกิด
ตอนนี้ก็อยู่ระหว่างการดำเนินการแบ่งโซนให้กับผู้ซื้อ ทั้งหมด เป็นโซนออกมาได้ 7,000 กว่าแปลงบางส่วนยังเป็นส่วนยาง มีรายได้วันละ 2 หมื่นบาทเข้ามาในปัจจุบันและ เงินบางส่วนที่ได้มาจากชาวบ้านได้มีการทำถนน สร้างอาคาร เครียร์พื้นที่ และสร้างโรงเรียนปอเนาะ ซึ่งมีเด็กอยู่ 200-300 คน เรียนฟรี รายได้จากส่วนยาง วันละ 2 หมื่นเป็นค่าใช้จ่ายให้กับเด็กนักเรียนปอเนาะ ที่ดูแลอยู่
เรื่องนี้เกิดการผิดพลาดตรงที่ นายทุนไม่เข้ามา ความเจริญ และการพัฒนาจึงไม่ได้เกิดตามวางไว้ และปัญหาที่มีตอนนี้ คือการขาดการสร้างความเข้าใจ กับผู้เสียหายจากโครงการ นี้ตามความเป็นจริง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี