ความคืบหน้าคดีหวย 30 ล้านบาท ที่เป็นข้อพิพาทระหว่าง ร.ต.ท.จรูญ วิมูล อดีตข้าราชการตำรวจ และนายปรีชา ใคร่ครวญ ครูโรงเรียนเทพมงคลรังสี นั้น
11 มี.ค.61 พล.ต.ท.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (ผบช.ก.) กล่าวถึงความคืบหน้าในการดำเนินคดีกับ พล.ต.ต.สุทธิ พวงพิกุล อดีตรองผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.กาญจนบุรี ที่เข้าไปแก้ไขสำนวนคดีหวย 30 ล้านบาท ว่า ได้ออกหมายเรียก นายปรีชา ใคร่ครวญ หรือครูปรีชา , น.ส.รัตนาพร สุภาทิพย์ หรือเจ๊บ้าบิ่น และ น.ส.พัชริดา พรมตา หรือเจ๊พัช เเม่ค้าขายลอตเตอรี่ ให้มารับข้อกล่าวหาในวันที่ 16 มี.ค.นี้ ในความผิดฐานสนับสนุนในการทำคำให้การทำให้เจ้าหน้าที่ปฎิบัติหน้าที่โดยมิชอบ หรือละเว้นการปฎิบัติหน้าที่ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ซึ่งก่อนหน้านี้ได้แจ้งข้อหากับ พล.ต.ต.สุทธิ ไปแล้ว
พล.ต.ท.ฐิติราช กล่าวว่า ส่วนกลุ่มบุคคลที่มีหมายเรียกดังกล่าว ทางคณะทำงานจะพิจารณาอีกที ว่าจะเป็นตัวการร่วมหรือผู้สนับสนุน โดยภายในสัปดาห์หน้าคาดว่าจะมีความชัดเจนมากยิ่งขึ้น ทั้งนี้คดีดังกล่าวจะมีการแยกทำเป็นอีกสำนวนคดีจากคดีหลัก ซึ่งการพิจารณามาตรา 157 กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลางจะพิจารณาสำนวนให้ครบถ้วนที่สุด ก่อนส่งให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริต (ป.ป.ช.) พิจารณาทำสำนวนส่งให้อัยการฟ้องศาลอาญาคดีทุจริตต่อไป
"พล.ต.ต.สุทธิ จะปฎิเสธหรือรับสารภาพ ตำรวจไม่ได้มีความกังวล ใครจะให้การอย่างไรก็เป็นสิทธิ แต่ตำรวจก็รวบรวมพยานหลักฐานประกอบสำนวนให้มากที่สุด ยิ่งปฏิเสธยิ่งดี ผลการกระทำจะบอกเองว่าใครทำผิด" พล.ต.ท.ฐิติราช กล่าว
และว่า ขอให้ประชาชนเชื่อใจ เราจะเป็นที่พึ่งสุดท้ายของประชาชน ทุกอย่างดำเนินการตามพยานหลักฐาน ตำรวจเป็นเพียงกระบวนการยุติธรรมขั้นต้น ตำรวจจะต้องส่งสำนวนให้อัยการส่งฟ้อง และ ศาลเท่านั้นที่มีอำนาจตัดสินความผิด คนทำผิดก็ต้องว่ากันไปตามผิดไม่มีการละเว้น เรื่องนี้แม้เริ่มต้นเกิดจากความเชื่อแต่ภายหลังผบก.กาญจนบุรีแก้ไขคำให้การ ซึ่งทำให้เกิดความเสียหายแก่ผู้อื่น ถือเป็นการสอบสวนโดยมิชอบ และส่อไปในทางทุจริต ตรงนี้ตนพูดชัดเจน ประชาชนไม่ต้องกังวล ตนเองจะดูเองทุกเรื่อง
ผู้สื่อข่าวถามว่า จะมีการส่งเรื่องให้ พล.ต.ต.สุทธิ ออกจากราชการหรือไม่ ผบช.ก.กล่าวว่า ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และหน่วยงานต้นสังกัด รวมถึงหน่วยงานที่ตรวจสอบเรื่องวินัย เป็นผู้พิจารณา
ผู้สื่อข่าวถามว่า ตำรวจ 2 นาย ที่ถูกกันไว้เป็นพยานจะถูกดำเนินคดีด้วยหรือไม่ พล.ต.ท.ฐิติราช กล่าวว่า เราจะบริการงานให้เกิดประโยชน์สูงสุดเพื่อไม่ให้มีช่องว่างในการต่อสู้คดี จึงต้องดูว่ามีพยานหลักฐานอื่นประกอบด้วยหรือไม่ ซึ่งตำรวจจะต้องหาหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์มาเปรียบเทียบ เบื้องต้นบุคคลที่สอบปากคำไปนั้น ต้องการทราบว่าใครเป็นผู้สั่งการ และสั่งผ่านใครมาเพื่อให้ขยายผลไปถึงระดับผู้สั่งการในการกระทำผิด
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี