12 มี.ค.61 โครงการอ่างเก็บน้ำห้วยน้ำรีอันเนื่องมาจากพระราชดำริ เป็นอีกหนึ่งโครงการของกรมชลประทาน ที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ทรงมีพระราชดำริให้กรมชลประทาน พิจารณาดำเนินการจัดหาแหล่งน้ำ เพื่อการอุปโภค-บริโภค และการเพาะปลูกให้กับราษฎรในพื้นที่อพยพ ที่ได้รับผลกระทบจากการสร้างเขื่อนสิริกิติ์ ซึ่งทรงรับเป็นโครงการพระราชดำริ เมื่อปี พ.ศ. 2548
“คณะรัฐมนตรีอนุมัติโครงการ เมื่อวันที่ 20 เมษายน 2554 แผนงาน 8 ปี (ปี 2554-2561) ค่าก่อสร้าง 4,800 ล้านบาท และ คณะรัฐมนตรีอนุมัติขยายระยะเวลาเป็น 11 ปี (ปี 2554-2564) เมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน 2560 วางแผนเร่งรัดงานก่อสร้างให้สามารถเก็บกักน้ำได้ในปี พ.ศ. 2562 งานก่อสร้างเขื่อนหัวงานและอาคารประกอบพร้อมอุโมงค์ส่งน้ำ ดำเนินการไปแล้วประมาณร้อยละ 53 และงานระบบท่อส่งน้ำและอาคารประกอบสัญญาที่ 1 ดำเนินการไปแล้วประมาณร้อยละ 13 และมีแผนก่อสร้างท่อส่งน้ำสายซอยในปี 2561-2564 เมื่อก่อสร้างแล้วเสร็จจะส่งน้ำครอบคลุมพื้นที่ชลประทาน 53,500 ไร่ ”
ดังนั้น เพื่อสนองพระราชดำริ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9 ด้านการฟื้นฟูและอนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้ และสิ่งแวดล้อม กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช จึงได้จัดตั้งโครงการฟื้นฟูสภาพป่าตามโครงการอ่างเก็บน้ำห้วยน้ำรี อันเนื่องมาจากพระราชดำริ จังหวัดอุตรดิตถ์ ขึ้น เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2556 ภายใต้โครงการอ่างเก็บน้ำห้วยน้ำรี อันเนื่องมาจากพระราชดำริ เพื่อฟื้นฟูสภาพป่าพื้นที่โครงการอ่างเก็บน้ำห้วยน้ำรี อันเนื่องมาจากพระราชดำริ เพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์ดิน น้ำ และ สิ่งแวดล้อม รวมทั้งการพัฒนาคุณภาพชีวิตและส่งเสริมอาชีพที่สอดคล้องกับหลักการอนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้ และ เหมาะสมกับภูมิสังคม ตลอดจนบูรณาการทุกภาคส่วน และ สร้างแนวร่วมภาคประชาชนในการป้องกันรักษาป่าและฟื้นฟูสภาพป่าพื้นที่โครงการอ่างเก็บน้ำห้วยน้ำรีอันเนื่องมาจากพระราชดำริให้กลับคืนสู่สภาพป่าสมบูรณ์ดังเดิม เพื่อพัฒนาพื้นที่โครงการให้เป็นแหล่งเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียง รวมถึงการพัฒนาพื้นที่โครงการให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ เพื่อสนองพระราชดำริพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร และ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9 ด้านการฟื้นฟู อนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้และสิ่งแวดล้อม
ต่อมาเมื่อวันที่ 10 มี.ค.61 ที่ผ่านมา สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุตรดิตถ์ เขต 2 ได้ดำเนินโครงการพัฒนาคุณภาพชีวิตคนอุตรดิตถ์ พร้อมจัดกิจกรรมพัฒนาแหล่งเรียนรู้บูรณาการอาชีพตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง และ การอบรมฝึกทักษะอาชีพและแปรรูปผลิตภัณฑ์ให้แก่เด็กนักเรียน เพื่อเสริมสร้างประสบการณ์อาชีพให้มีความรู้ความสามารถในการประกอบอาชีพโดยสุจริต ตลอดจนได้รับการฝึกทักษะด้านอาชิพ มีพื้นฐานในการประกอบอาชีพใน 2 กิจกรรมหลัก คือ งานเกี่ยวกับอาหารและงานเกษตร ที่บริเวณโครงการฟื้นฟูสภาพป่าตามโครงการอ่างเก็บน้ำห้วยน้ำรีอันเนื่องมาจากพระราชดำริ จ.อุตรดิตถ์ ส่วนประสานโครงการพระราชดำริ และ กิจการพิเศษ สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 11 กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช โดยมีนายนที บิณฑวิหค หัวหน้าโครงการฟื้นฟูสภาพป่าตามโครงการอ่างเก็บน้ำห้วยน้ำรี อันเนื่องมาจากพระราชดำริ จ.อุตรดิตถ์ นายพัฒนา เกตุชัยโกศล นักวิชาการสิ่งแวดล้อมชำนาญการ สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดอุตรดิตถ์ ตลอดจนเจ้าหน้าที่จากสำนักงานก่อสร้างชลประทานขนาดใหญ่ที่ 12 สำนักพัฒนาแหล่งน้ำขนาดใหญ่ กรมชลประทาน และ ตัวแทนกลุ่มอาชีพ ร่วมบรรยายพิเศษให้ความรู้เกี่ยวกับความเป็นมาของโครงการอ่างเก็บน้ำห้วยน้ำรีอันเนื่องมาจากพระราชดำริ อ.ท่าปลา จ.อุตรดิตถ์ ,การฟื้นฟูสภาพป่าตามแนวพระราชดำริ ฯ ,ความรู้เรื่องการปลูกผักไฮโดรโปรนิกค์ ,การเลี้ยงปลาดุกในบ่อพลาสติก ,การปลูกผักปลอดสารพิษ ,การเพาะเห็ดนางฟ้า ,การจักสานไม้ไผ่ , การเพาะชำกล้าไม้ , การแปรูปเม็ดมะม่วงหิมพานต์ และ การแปรรูปกล้วยตาก พร้อมทั้งแจกสื่อประชาสัมพันธ์การป้องกันไฟป่า ,การอนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้และสิ่งแวดล้อม
จากนั้นคณะครู-อาจารย์ และ นักเรียนโรงเรียนในสังกัดเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุตรดิตถ์ เขต 2 รวม 12 โรงเรียน จำนวน 40 คน ประกอบด้วย โรงเรียนสีเสียดบำรุง , โรงเรียนน้ำพร้าสามัคคี ,โรงเรียนอนุบาลท่าปลา ,โรงเรียนชุมชนผาเลือดวิทยาคาร , โรงน้ำสิงห์ , โรงเรียนบ้านซำบ้อ , โรงเรียนคุรุประชาสรรค์ศึกษา , โรงเรียนจริมอนุสรณ์ 2 , โรงเรียนบ้านวังหัวดอย , โรงเรียนนิคมสร้างตนเองลำน้ำน่านสงเคราะห์ 3 , โรงเรียนบ้านน้ำหมัน , โรงเรียนบ้านนาต้นโพธิ์ เดินทางลงพื้นที่ไปศึกษาดูงานที่โครงการ ฯ กลุ่มวนเกษตรบ้านสีเสียด (กลุ่มกล้วยตากห้วยน้ำรี) หมู่บ้านพิทักษ์ป่ารักษาสิ่งแวดล้อมบ้านสีเสียด หมู่ที่ 10 ตำบลจริม อ.ท่าปลา จ.อุตรดิตถ์และกลุ่มแปรรูปเม็ดมะม่วงหิมพานต์บ้านกิ่วเคียน หมู่บ้านพิทักษ์ป่ารักษาสิ่งแวดล้อมบ้านกิ่วเคียน หมู่ที่ 12 ต.จริม อ.ท่าปลา จ.อุตรดิตถ์ ท่ามกลางบรรยากาศเต็มไปด้วยความอบอุ่นและสนุกสนาน
ด้าน นายนที บิณฑวิหค หัวหน้าโครงการฟื้นฟูสภาพป่าตามโครงการอ่างเก็บน้ำห้วยน้ำรีอันเนื่องมาจากพระราชดำริ จ.อุตรดิตถ์ กล่าวว่า ที่ผ่านมาโครงการ ฯ ได้จัดกิจกรรมงานส่งเสริมอาชีพที่สอดคล้องกับการอนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้และสิ่งแวดล้อมให้กับราษฎรชุมชนเป้าหมายหลัก 5 หมู่บ้าน พร้อมส่งเสริมอาชีพปลูกพืชในระบบวนเกษตร/สร้างป่าสร้างรายได้ตามแนวพระราชดำริ ฯ ได้แก่ การส่งเสริมปลูกกาแฟ , กล้วยน้ำว้า , ทุเรียน , ลางสาด , ลองกอง , มังคุด , เงาะ , ลำไย , ขนุน , ส้มโอ , น้อยหน่า , มะพร้าวน้ำหอม , มะขามเปรี้ยว โกโก้ , เพกา , มะขามป้อม , ต๋าว , ยางนา , ประดู่แดง , พะยูง , มะค่าโมง , แคบ้าน , มะกรูด มะนาว , สะตอ , ชะอม , มะละกอ , มะรุม , แก้วมังกร , ผักหวานป่า , พริกไทย , พริกขี้หนู , ข่าป่า , หวาย , ไผ่ รวมถึงพืชผักสมุนไพร ซึ่งกิจกรรมทั้งหมดมีการติดตามผลงานอย่างต่อเนื่อง ส่วนผลการปฏิบัติงาน มีดังนี้ 1.กาแฟ เริ่มให้ผลผลิต 2.กล้วยน้ำว้าพันธุ์มะลิอ่อง เริ่มให้ผลผลิต 3.ข่าป่า เริ่มให้ผลผลิต 4.พืชผัก สมุนไพร เริ่มให้ผลผลิต และ 5.ไม้ผล ไม้ป่า เจริญเติบโตได้ดี
"ด้านส่งเสริมการตลาด/การจัดตั้งร้านค้าชุมชน ได้แก่ 1.สนับสนุนการแปรรูปเม็ดมะม่วงหิมพานต์บ้านกิ่วเคียน จนได้รับการรับรองมาตรฐานอาหาร และ ยา และ ออกแบบบรรจุภัณฑ์ที่สวยงามสะอาดน่ารับประทาน ซึ่งสามารถจัดหาตลาดได้หลายแห่ง เช่น ร้านภูฟ้าน่าน , ร้านภูฟ้ากรุงเทพ ฯ , กฟผ.เขื่อนสิริกิติ์ , หน่วยงานราชการในพื้นที่ และ ภาคเอกชน เป็นต้น 2.สนับสนุนการแปรรูปโรงแปรรูปกล้วยตากห้วยน้ำรีให้กับราษฎรบ้านสีเสียด จนสามารถจัดหาตลาดได้หลายแห่ง แต่ในปัจจุบันการผลิตกล้วยตากเพื่อจำหน่ายไม่ทันกับออเดอร์ที่สั่งซื้อ 3. สนับสนุนการแปรรูปกล้วยน้ำว้าให้กับราษฎรบ้านน้ำลี (กลุ่มกล้วยเบรกแตก) ซึ่งกลุ่มยังต้องการขอรับสนับสนุนและพัฒนาให้ดียิ่งขึ้นต่อไป 4.สนับสนุนการแปรรูปกล้วยน้ำว้าให้กับราษฎรบ้านน้ำลี ( กลุ่มกล้วยม้วน ) ซึ่งกลุ่มยังต้องขอรับการสนับสนุนและพัฒนาให้ดียิ่งขึ้นต่อไป 5. สนับสนุนการจัดหาตลาดขายเห็ดนางฟ้าให้กับราษฎรบ้านกิ่วเคียน ปัจจุบันสามารถจัดหาตลาดได้หลายแห่ง เช่น แม่ค้าขายเห็ดในตำบลนางพญา แม่ค้าขายเห็ดในตลาดสดอำเภอท่าปลา เป็นต้น 6. สนับสนุนการจัดตั้งร้านค้าชุมชนห้วยน้ำรี โดยการก่อสร้างร้านค้าชุมชนบริเวณด้านข้างสำนักงานชั่วคราวโครงการฟื้นฟูสภาพป่าตามโครงการอ่างเก็บน้ำห้วยน้ำรี อันเนื่องมาจากพระราชดำริฯ"
นายนที กล่าวต่ออีกว่า โครงการฟื้นฟูสภาพป่าตามโครงการอ่างเก็บน้ำห้วยน้ำรีอันเนื่องมาจากพระราชดำริ จ.อุตรดิตถ์ ได้ดำเนินการโครงการหมู่บ้านพิทักษ์ป่ารักษาสิ่งแวดล้อมบ้านกิ่วเคียน พร้อมส่งเสริมการปลูกพืชตามแนวทางสร้างป่าสร้างรายได้ตามแนวพระราชดำริ และ สนับสนุนการแปรรูปเม็ดมะม่วงหิมพานต์ เพื่อเป็นการส่งเสริมอาชีพตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ประกอบด้วย "กลุ่มเศรษฐกิจพอเพียงบ้านกิ่วเคียน" ,โครงการหมู่บ้านพิทักษ์ป่ารักษาสิ่งแวดล้อมบ้านน้ำลี โดยการส่งเสริมการปลูกพืชตามแนวทางสร้างป่าสร้างรายได้ตามแนวพระราชดำริ (กาแฟพันธุ์โรบัสต้า โกโก้ ผักหวานป่า ยางนา เพกา ต๋าว) และสนับสนุนการแปรรูปกล้วยน้ำว้า "กลุ่มสร้างป่าสร้างรายได้ตามแนวพระราชดำริบ้านน้ำลี" ,โครงการหมู่บ้านพิทักษ์ป่ารักษาสิ่งแวดล้อมบ้านสีเสียด โดยการส่งเสริมปลูกพืชในลักษณะวนเกษตร ( กล้วยน้ำว้าพันธุ์มะลิอ่อง กาแฟพันธุ์โรบัสต้า โกโก้ สะตอ ต๋าว เพกา มะขามป้อม) สนับสนุนการแปรรูปกล้วยน้ำว้า (กล้วยตาก) กลุ่ม“วนเกษตรบ้านสีเสียด”
ส่วนกิจกรรมการประสานงานความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องฯ เพื่อส่งเสริมด้านอาชีพ ที่สอดคล้องกับการอนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้ และ สิ่งแวดล้อมให้กับราษฎรชุมชนเป้าหมายหลัก เป้าหมายรอง และ หมู่บ้านแนวร่วมภาคประชาชนในการฟื้นฟู และ อนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้โครงการอนุรักษ์ยางนาและต๋าว เพื่อร่วมสนองพระราชดำริสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารี โดยได้ร่วมกับชุมชนและหน่วยงานในพื้นที่ดำเนินการไปแล้ว จำนวน 7 แห่ง และ ได้แจกจ่ายราษฎรนำไปปลูกในที่ทำกินของตนเองอีกด้วย นายนที กล่าวทิ้งท้าย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี