"หมวดจรูญ"ควงภรรยาโผล่ให้สัมภาษณ์สื่อที่หน้าบ้านพัก ซัดคู่กรณีฝ่าย "ครูปรีชา" ไม่หวั่นแม้จะสร้างตัวละครออกมาเรื่อยๆ พร้อมเตรียมแจ้งความ "นายแผน" ข้อหาแจ้งความเท็จ เผย พงส.กองปราบฯ ประสานพบที่เมืองกาญจน์วันนี้
เมื่อเวลา 08.00 น.วันนี้ (14 มี.ค.61) ที่บ้านเลขที่ 299/110 หมู่บ้านศิริชัย วังสารภี ซ.5 หมู่ 8 ต.ปากแพรก อ.เมือง จ.กาญจนบุรี ร.ต.ท.จรูญ วิมูล อดีตข้าราชการตำรวจ คู่กรณีนายปรีชา ใคร่ครวญ ครูชำนาญการพิเศษโรงเรียนเทพวิทธรังษี อ.เมือง จ.กาญจนบุรี ในคดีสลากกินแบ่งรัฐบาล 30 ล้าน ได้ออกมาพบผู้สื่อข่าวที่หน้าบ้านด้วยการแต่งการในชุดลำลอง นุ่งกางเกงสามส่วนสวมเสื้อยืดคอปกแขนสั้นทับใน ใส่รองท้าแตะ แบบสบายๆ โดยมีนางลาวัลย์ วิมูล ภรรยาคู่ใจออกมาพบสื่อเพื่อให้สัมภาษณ์ในครั้งนี้ด้วย
โดย ร.ต.ท.จรูญ วิมูล พร้อมกับภรรยา ร่วมให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนว่า วันนี้ได้รับการประสานจากเจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการปราบปราม กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลางว่า จะเดินทางมาพบแต่เบื้องต้นยังไม่ทราบว่าเจ้าหน้าที่กองปราบฯ จะเดินทางมาพบที่บ้านพัก หรือจะนัดให้ไปพบที่ใด โดยหลังจากพบเจ้าหน้าที่กอบปราบฯ แล้วก็จะแจ้งความดำเนินคดีต่อนายฐนุกร เหลืองใหม่เอี่ยม หรือ แผน อายุ 46 ปี ซึ่งเป็นพยานให้กับนายปรีชา ใคร่ครวญ ในข้อหาแจ้งความเท็จ
สำหรับเจ้าหน้าที่ที่จะมาพบนั้นเป็นพนักงานสอบสวนจากกอปราบฯ ส่วนจะต้องให้ปากคำเพิ่มอะไรหรือไม่ขณะนี้ยังไม่ทราบ เพราะยังไปพบกับทางเจ้าหน้าที่กองปราบเลย อีกทั้งทางเจ้าหน้าที่ไม่ได้แจ้งให้ทราบล่วงหน้าด้วย คาดว่าหากเจ้าหน้าที่ประสานมาอีกครั้งหนึ่ง คงจะเดินทางไปพบหลังจากที่ได้รับประทานอาหารเช้าแล้วเสร็จ
ส่วนกรณีที่ทนายษิทรา เบี้ยบังเกิด ได้โพสต์เฟซบุ๊กว่า นายแผนนั้นเคยเดินทางมาที่บ้านของต้นนั้น เป็นเรื่องจริง ซึ่งนายแผนได้เดินทางมาที่บ้านตั้งแต่ช่วงต้นเดือนธันวาคม 2560 ซึ่งขณะนั้นนายแผนขับรถยนต์ มากับเจ้าหน้าที่ธนาคาร เพื่อมาให้คำปรึกษาเกี่ยวกับเรื่องทนายความ เพราะครั้งแรกตนไม่มีและไม่รู้จักกับทนายความ ซึ่งเจ้าหน้าที่ธนาคาร บอกว่านายแผนรู้จักกับทนายความเยอะ จึงจะให้นายแผนเป็นคนหาทนายให้ ซึ่งวันที่ปรึกษากันตัวนายแผนก็ได้เข้าไปนั่งคุยกันภายในบ้านด้วย
โดยหลังจากที่นายแผน ออกข่าวครั้งแรก สื่อมวลชนได้เบลอใบหน้า จึงจำไม่ได้ว่าเป็นใคร แต่เมื่อนายแผนไปร้องขอความเป็นธรรมที่ คสช.เมื่อวานนี้ สื่อไม่ได้เบลอหน้า เมื่อดูข่าวจึงรู้ว่านายแผนนั้นคือใคร และครั้งแรกนายธนาคารเองก็แนะนำให้เราไปหาทนายษิทรา แต่เรายังติดต่อไม่ได้ ก็เลยจะให้นายแผนเป็นผู้ติดต่อทนายให้ แต่พอมาถึงวันรุ่งขึ้นทนายษิทรา ได้โทรศัพท์ติดต่อกลับมา เราจึงโทรศัพท์ไปบอกเจ้าหน้าที่ธนาคารว่าไม่ต้องแล้ว เพราะทนายษิทรา โทรติดต่อกลับมาแล้ว
ผู้สื่อข่าวถามว่า การที่นายแผนของมาให้การแบบนี้เป็นเพราะสาเหตุอะไร ร.ต.ท.จรุญ ตอบว่าไม่ทราบเหมือนกัน ให้สื่อคิดเอาเองดีกว่า
ผู้สื่อข่าวถามว่า ยืนยันได้หรือไม่ว่ารู้จักกับนายแผน ตั้งแต่วันนั้นมา ร.ต.ท.จรุญ กล่าวว่า ถ้ารู้จักกันเป็นการส่วนตัว เราไม่รู้จัก แต่ที่เขามาเพราะเขาเป็นคนขับรถให้เจ้าหน้าที่ธนาคาร ดังนั้นจึงไม่รู้จักกันเป็นการส่วนตัว ซึ่งในวันดังกล่าวก็ได้มีการคุยกับนายแผนบ้าง แต่ส่วนใหญ่ก็จะคุยแต่เรื่องทนายความ แต่สุดท้ายก็มาได้ทนายษิทรา ซึ่งทนายษิทราเป็นทนายคนที่สอง สำหรับทนายคนแรกนั้นลูกสาวหามาให้ เพราะทนายเป็นเพื่อนกันกับลูกสาว ซึ่งทนายที่เป็นเพื่อนของลูกสาวก็มาทำหน้าที่ได้ไม่นานนัก
ผู้สื่อข่าวถามว่าลุงจรูญ ยังจะยืนยันหรือไม่ว่าไม่ได้ก้มเก็บลอตเตอรี่ตามคำให้การของนายแผน ร.ต.ท.จรุญ ตอบว่า ยืนยันเพราะผมซื้อมากับมือ สำหรับเรื่องคดีในใจลึกแล้วก็ไม่อยากให้ยืดเยื้อ ผมอยากให้มันจบเร็วๆ แต่จะจบได้หรือไม่ได้ก็คงจะตอบไม่ได้ สำหรับเรื่องเงินที่ถูกอายัดไว้ ถึงตอนนี้ก็ยังไม่ได้ยื่นเรื่องขอถอนอายัดแต่อย่างใด คงต้องปล่อยให้เป็นไปแบบนั้นไปก่อน เพราะยังไงเราก็ไม่ได้รีบใช้เงิน
ผู้สื่อข่าวถามว่าทางทนายษิทรา โพสต์เฟซบุ๊กว่าทางเจ้าหน้าที่ธนาคารจะมายืนยันให้กับหมวดจรูญ รวมทั้งยืนยันเรื่องของนายแผนด้วย ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร่ ร.ต.ท.จรุญ ตอบว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องจริง ซึ่งจะมายืนยันว่าวันนั้นมีใครมาที่บ้านบ้าง จากนั้นทางเจ้าหน้าที่กองปราบก็คงจะไปสอบสวนเพิ่มเติม
ผู้สื่อข่าวถามอีกว่า ล่าสุดทนายษิทรา โพสต์ว่า นายแผน อาจจะโดนไล่ออก แต่นายแผนได้บอกคนใกล้ชิดว่าไม่เป็นไร "นาย" จะรับผิดชอบชีวิตให้ ลุงจรูญทราบหรือไม่ว่าคนที่นายแผนอ้างว่า "นาย" นั้นคือใคร ซึ่งลุงจรูญ และป้าลาวัลย์ ต่างก็ตอบเป็นเสียงเดียวกันว่า ไม่ทราบ
ผู้สื่อข่าวถามว่ามีความวิตกหรือไม่ เพราะเริ่มมีตัวละครฝ่ายครูปรีชาออกมาเรื่อยๆ ร.ต.ท.จรุญ ตอบว่า ไม่วิตก ความรู้สึกลึกๆ ส่วนตัวก็ไม่ได้วิตก เพราะว่ายังไงเสียเราก็รู้อยู่แก่ใจของเราเองอยู่แล้วว่าเราทำอะไร เราผิดเราถูกเรารู้อยู่แล้ว สำหรับนายแผน ไม่ได้เป็นเจ้าหน้าที่ของธนาคาร แต่เป็นคนของบริษัทที่มาทำหน้าที่ขับรถให้กับเจ้าหน้าที่ธนาคาร
ผู้สื่อข่าวถามว่ากรณีที่ทาง เจ๊พัช เจ๊บ้าบิ่น และเจ๊เกียว ยังยืนยันเช่นเดิมว่าลอตเตอรี่นั้นเป็นของครูปรีชา อยากจะพูอะไรกับพยานฝั่งโน้นบ้าง ร.ต.ท.จรุญ ตอบว่า ก็ต้องปล่อยไปตามความต้องการของเขา เพราะเรื่องแบบนี้เราคงไปห้ามใครเขาไม่ได้หรอก
ผู้สื่อข่าวถามว่าเกรงหรือไม่ว่าหากฝั่งตรงข้ามมีคลิปไปปรากฏในชั้นศาล ร.ต.ท.จรุญ ตอบว่า ผมไม่เกรงหรอกถ้าความจริงมันปรากฏ ถ้าความจริงลึกๆมันปรากฏ ผมจะไม่เกรงกลัวอะไรเลย เพราะอะไรรู้ไหม เพราะผมรู้อยู่แก่ใจอยู่แล้วว่าผมผิดหรือผมถูก ซึ่งผมเชื่อว่าฝ่ายโน้นก็รู้อยู่แก่ใจด้วยเหมือนกัน
ผู้สื่อข่าวถามว่าการที่ไม่มีแม่ค้าคนใดออกมายืนยันการซื้อขายลอตเตอรี่ให้กับหมวดจรูญ จุดนี้จะเป็นจุดอ่อนของหมวดจรูญหรือไม่ ร.ต.ท.จรุญ ตอบว่า ผมไม่แปลกใจเลยเรื่องนี้ เพราะผมเองก็ไม่มีแม่ค้าประจำ ในชีวิตของผม ผมไม่เคยซื้อลอตเตอรี่กับแม่ค้าประจำคนไหนเลย ที่ผ่านมานึกจะซื้อตรงไหนก็ซื้อ นึกอยากจะซื้ออะไรก็ซื้อแค่นั้น
ผู้สื่อข่าวถามว่าถึงตรงนี้ได้คุยกับคนที่ชื่อเจ้เซี๊ยมที่อยู่อำเภอบ่อพลอยแล้วหรือยัง ร.ต.ท.จรุญ ตอบว่ายังไม่ได้คุย และยังไม่ได้เจอกันเลย ที่จริงแล้วมีความสนิทสนมกับเจ๊เซี๊ยมมาก สนิทกันมานานกว่า 30 ปี เท่ากับอายุของลูกคนโต และรู้จักกันตั้งแต่ยังเป็นตำรวจอยู่ที่อำเภอบ่อพลอย
"ซึ่งการที่เจ๊เซี๊ยมออกมาพูดแบบนี้เราก็ไม่เข้าใจเขาเหมือนกัน ว่าเขาคิดอย่างไรทั้งๆที่เราก็รู้จักกันมาตั้งนาน และเมื่อพอเรามาได้ยินเขาพูดออกมาในลักษณะเช่นนั้นเราก็ยังไม่เข้าใจเขาอยู่ดีว่าเขาทำไมถึงทำอย่างนั้นกับเรา"
ผู้สื่อข่าวถามว่า แล้วเจ๊เซี๊ยมรู้หรือไม่ว่าเราถูกรางวัลที่ 1 ร.ต.ท.จรุญ ตอบว่ารู้ เพราะเราเป็นคนโทรไปบอกเขาเอง บอกแค่คนเดียวเท่านั้น แต่หลังจากถูกรางวัลที่ 1 กว่าจะบอกก็นานพอสมควร ครั้งแรกเราตั้งใจเอาไว้ว่าจะไม่บอกใครเลย จะให้ทุกคนค่อยๆรู้ เพื่อที่จะได้ไม่ต้องมีญาติเยอะ กลัวญาติเยอะ
"ส่วนที่นำเรื่องไปบอกเจ๊เซี๊ยมเป็นคนแรกก็เพราะเป็นคนที่สนิดมานาน แต่ก็คงจะไม่ฝากบอกไปถึงเจ๊เซี๊ยมอีกแล้ว เพราะว่าต่างคนก็ต่างจิตใจกัน ส่วนเจ๊เซี๊ยมจะเข้าไปร่วมขบวนการหรือไม่นั้น ตรงนี้คงไม่ขอตอบดีกว่า เพราะเราก็ไม่รู้ว่าเขาคิดแบบไหน"
ผู้สื่อข่าวถามว่าเป็นไปได้หรือไม่ว่า ขณะที่ครูปรีชาโทรศัพท์ไปคุยกับเจ๊เซี๊ยม ระหว่างคุยครูปรีชาได้แอบอัดคลิปเสียงเอาไว้ ร.ต.ท.จรุญ และภรรยา ตอบว่า อาจจะเป็นไปได้ และถึงแม้ว่าจะมีการอัดเสียงหรือไม่อัดเสียงก็ตาม เมื่อเจ๊เซี๊ยมพูดออกมาแบบนั้นก็ทำให้ความรู้สึกของเราไม่ดี แค่เจ๊เซี๊ยมคิดความรู้สึกของเราก็ไม่ดีแล้วและยังเอาอีกสองคนมาโยงได้ยังไง เราก็ไม่รู้เช่นกัน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี