สำเร็จ!แก้ตะกอนถมหน้าฝาย  กรมชลทำได้ช่วยประหยัดงบฯ-จ่อขยายผลทั่วปท.

สำเร็จ!แก้ตะกอนถมหน้าฝาย กรมชลทำได้ช่วยประหยัดงบฯ-จ่อขยายผลทั่วปท.

วันพฤหัสบดี ที่ 15 มีนาคม พ.ศ. 2561, 06.00 น.

นายปริญญา กมลสินธุ์ ผู้เชี่ยวชาญด้านวิศวกรรมชลประทาน (ด้านวิศวกรรมชลศาสตร์) สำนักวิจัยและพัฒนา กรมชลประทาน เปิดเผยว่า สำนักวิจัยและพัฒนาประสบผลสำเร็จในงานศึกษาวิจัยแก้ปัญหาตะกอนตกทับหน้าฝาย ซึ่งเป็นปัญหาใหญ่ที่หลายประเทศ อาทิ เกาหลี จีน ญี่ปุ่น ก็ยังไม่มีความชัดเจนในการแก้ไขและยังไม่มีเครื่องมือใดๆ ที่สามารถแก้ปัญหาดังกล่าวได้ 100% โดยการศึกษาวิจัยครั้งนี้ได้ศึกษาวิจัยที่ฝายลำเซบาย ซึ่งสร้างปิดกั้นลำเซบายที่บ้านเชือก ต.หนองขอน อ.เมือง จ.อุบลราชธานี เป็นฝายคอนกรีตสูง 2 เมตรและมีการเสริมฝายยางขึ้นไปอีก 2.5 เมตร ยาว 100 เมตร มีการใช้งานแค่เพียง 2 ปี ก็ปรากฏว่ามีตะกอนทรายมาตกทับถมทั้งด้านเหนือและท้ายฝายจำนวนมาก มีความสูงถึงฝายยาง จนไม่สามารถอัดน้ำพองยางขึ้นเก็บกักน้ำได้ กรมชลประทานจะต้องทำการขุดลอกตะกอนออก โดยใช้งบประมาณครั้งละไม่น้อยกว่า 5-6 ล้านบาท

สำหรับแนวทางในการศึกษาวิจัยเพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าวนั้น ได้นำหลากหลายวิธีมาวิเคราะห์ให้สอดคล้องและเหมาะสมกับสภาพภูมิประเทศ ซึ่งสภาพลำน้ำทางภาคอีสานนั้น จะมีดินทรายค่อนข้างมาก ฝนตกก็จะชะล้างตะกอนดินลงลำน้ำ


“ในการศึกษาวิจัยครั้งนี้พบแนวทางในการแก้ไขปัญหาที่ดีที่สุด 2 วิธี คือ วิธีแรก ใช้รอบังคับร่องน้ำ ( Spur Dike) เป็นการบีบบังคับช่องทางไหลของน้ำให้เล็กลง โดยใช้ต้นยูคาลิปตัสมาปักสลับเป็นลักษณะก้างปลาทั้งด้านซ้ายขวาของฝาย ระยะห่างกัน 25 เมตร เป็นการเพิ่มความเร็วให้กระแสน้ำไหลพุ่งไปด้านหน้าให้พัดพาตะกอนไหลข้ามสันฝายไป ซึ่งเป็นงานที่ใช้เงินไม่มาก แต่สามารถช่วยลดอัตราการตกจมของตะกอนหน้าฝายได้กว่าครึ่ง” นายปริญญา กล่าว

ส่วนวิธีที่สองเป็นนวัตกรรมใหม่ คือ ได้มีการประดิษฐ์เรือดูดตะกอนขนาดเล็กที่ไม่ใช้เครื่องจักรใหญ่ สามารถวิ่งไปบนสันฝายได้โดยไม่สร้างความเสียหายให้ฝายยาง เหมาะกับการเคลียร์ทรายเฉพาะจุด ในกรณีของฝายลำเซบายใช้ดูดทรายที่ทับฝายยางออกเพื่อให้สามารถพองตัวและกักน้ำได้ต่อไป ใช้เวลาเคลียร์ทรายประมาณ 2-3 ชั่วโมง เป็นการแก้ปัญหาที่รวดเร็วและง่ายต่อการใช้งาน ซึ่งขณะนี้ทางสำนักวิจัยและพัฒนามีเรือต้นแบบดูดตะกอนขนาดเล็ก น้ำหนักเบา มีล้อสะดวกในการเคลื่อนย้าย และไม่มีส่วนใดขุดเจาะดินจึงไม่เป็นอันตรายต่อฝายยางและพื้นทางน้ำ จึงเหมาะที่จะนำไปใช้งานในคลองดาดคอนกรีต และทางน้ำที่ต้องหลีกเลี่ยงการพังทลายจากการขุดลอก

นายปริญญากล่าวว่า แนวทางในการป้องกันและแก้ไขปัญหาการตกจมของตะกอนทรายหน้าฝายลำเซบายดังกล่าว สามารถนำไปประยุกต์ใช้ในโครงการชลประทานอื่นๆ ที่มีปัญหาคล้ายคลึงกันได้

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top