จับตาคดี‘เปรมชัย’!โดนข้อหาเพิ่ม-ฟันอีก1ร่วมติดสินบน มูลนิธิสืบฯจ่อพบผบ.ตร.
15 มี.ค.61 มูลนิธิสืบนาคะเสถียร เผยแพร่บทความ “คดีเปรมชัย กับประเด็นชวนติดตามต่อจากนี้” โดยไล่เรียงเหตุการณ์ความคืบหน้าคดีนายเปรมชัย กรรณสูต ประธานบริหาร บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนท์ จำกัด(มหาชน) ตกเป็นผู้ต้องหาคดีล่าสัตว์ป่า ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร ด้านตะวันตก จ.กาญจนบุรี พร้อมทั้งประเด็นที่ต้องติดตามต่อเนื่อง หลังนายเปรมชัย เข้ารับทราบข้อกล่าวหาเพิ่มเติมอีก 3 ข้อหา ในคดีเกี่ยวกับการพยายามติดสินบนเจ้าพนักงาน , คดีความผิดเกี่ยวกับอาวุธปืน และคดีความผิดเกี่ยวกับการครอบครองงาช้างแอฟริกา มีรายละเอียด ดังนี้
เมื่อวันที่ 13 และ 14 มีนาคม ที่ผ่านมา ถือเป็น 2 วันที่ปรากฎความคืบหน้าการดำเนินคดีของนายเปรมชัยและพวกเป็นอย่างมาก
แม้จะถือว่าเป็นความคืบหน้า (เกินคาดหมาย) แต่ก็ยังมีหลายเรื่องหลายประเด็นที่เป็นผลสืบเนื่องจากเหตุการณ์ของทั้ง 2 วันให้ต้องติดตาม
เริ่มตั้งแต่วันที่ 13 มีนาคม พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้ส่งสำนวนการสอบสวนคดีอาญาของสถานีตำรวจภูธรทองผาภูมิ แจ้ง 9 ข้อกล่าวหาต่อนายเปรมชัยและพวกให้กับสำนักงานอัยการ ภาค 7 จังหวัดทองผาภูมิ
สำนักงานอัยการได้ตั้งโต๊ะแถลงถึงคดีนี้ว่า คดีนี้ถือเป็นคดีสำคัญที่สาธารณชนติดตาม เพื่อให้การพิจารณาคดีนี้เป็นไปโดยรอบคอบ รวดเร็ว และโปร่งใส นางสมศรี วัฒนไพศาล อธิบดีอัยการภาค 7 จึงมีคำสั่งแต่งตั้งคณะทำงานเพื่อร่วมกันพิจารณาดำเนินคดี
จากนี้ไป 9 ข้อหาที่ได้ส่งสำนวนไปนั้น (ตามรายงานข่าวแจ้งว่าสำนวนการสอบสวนมีทั้งหมด 857 หน้า) ก็จะอยู่ในขั้นตอนของการพิจารณาของอัยการ ซึ่งทางอัยการระบุว่าจะเร่งรัดการทำสำนวนทุกๆ 7 วัน เพื่อให้มีการสั่งคดีเร็วที่สุด
อย่างไรก็ตาม ก็ยังต้องติดตามว่า ยังมีเนื้อหาใดในสำนวนไหนที่ต้องสอบสวนเพิ่มอีกหรือไม่
ส่วนรายละเอียดของสำนวนนั้น ทางอัยการระบุว่า ไม่สามารถเปิดได้ แต่ยืนยันว่าจะทำงานอย่างถูกต้อง โปร่งใส และตรวจสอบการทำงานได้
ในส่วนวันที่ 14 มีนาคม ซึ่งได้เรียกนายเปรมชัยมารับทราบข้อกล่าวหาอีก 3 ข้อ ที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (บก.ปทส.) ยิ่งมีหลายเรื่องให้ต้องติดตาม
แม้นายเปรมชัยจะให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหาในการมารายงานตัวตามหมายเรียกครั้งแรก แต่ในรายละเอียดของการทำสำนวนยังต้องสอบสวนหาความจริงอีกหลายประเด็น
ไล่มาตั้งแต่เรื่องงาช้าง ในข้อกล่าวหานี้ นอกจากจะเรียกนายเปรมชัยมารับทราบข้อกล่าวหาไปแล้ว ยังได้เรียกนางคณิตา กรรณสูต ภรรยานายเปรมชัยผู้แจ้งครอบครองงาช้างทั้ง 4 กิ่ง และนางสาววันดี สมภูมิ ผู้รับรองการครอบครองงาช้างมารับทราบข้อกล่าวหาด้วย
แต่นางคณิตา และน.ส.วันดี ได้แจ้งขอเลื่อนรับทราบข้อกล่าวหาเป็นวันที่ 20 มีนาคม 2561 แทน
นอกจากนี้ เนื่องจากงาช้างที่ตรวจพบเป็นงาช้างแอฟริกา จึงต้องมีการตรวจสอบเพิ่มเติมอีกด้วยว่าจะเป็นความผิดในกฎหมายระหว่างประเทศเรื่องลักทรัพย์หรือรับของโจรหรือไม่ ซึ่งจะเป็นการตรวจสอบว่ามีงาช้างถูกแจ้งหายไว้หรือไม่ หากพบว่ามีแจ้งหายนายเปรมชัยก็จะถูกดำเนินคดีฐานลักทรัพย์และรับของโจรเพิ่มอีก 2 ข้อหา
ข้อกล่าวหาต่อมาเรื่องครอบครองอาวุธปืน นอกจากความผิดที่พบจากปืนที่ไม่สามารถจดทะเบียนอนุญาต จำนวน 1 กระบอก ปืนประกอบเอง 1 กระบอก และปืนที่ไม่พบการจดทะเบียนอีก 4 กระบอก
ยังพบว่าอาจมีความผิดในกฎหมายบทอื่นอีก เช่น มีปืนคาบศิลา หากกรมศิลปากรตรวจพบว่าเป็นโบราณวัตถุ ก็อาจมีฐานความผิดที่เกี่ยวข้องกับกับ พ.ร.บ.โบราณสถานและวัตถุเข้ามาประกอบ
ทั้งสองเรื่องนี้ยังต้องติดตามว่า สุดท้ายแล้ว พนักงานสอบสวนจะแจ้งความผิดในฐานใดเพิ่มเติมอีกหรือไม่
ส่วนเรื่องติดสินบนเจ้าพนักงานนั้น ในเวลาเดียวกับที่ ปทส. ได้นำนายเปรมชัยมาฝากขังที่ศาลอาญา พนักงานสอบสวนได้เรียกนายวิเชียร ชิณวงษ์ หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรด้านตะวันตก และผู้ที่เกี่ยวข้องมาสอบปากคำเพิ่มเติม (เป็นครั้งที่ 3) ใช้เวลาในการสอบปากคำประมาณ 4 ชั่วโมง
หลังการสอบปากคำ พล.ต.อ.ศรีวราห์ ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนว่า จะมีการดำเนินคดีกับบุคคลเพิ่มเติมอีก 1 คน ในข้อหา ร่วมกันติดสินบนเจ้าพนักงาน แต่ยังไม่ขอเปิดเผยรายละเอียดในเรื่องนี้
ในส่วนการนำนายเปรมชัยไปฝากขังที่ศาลอาญา รัชดาภิเษก ตำรวจปทส.ฝากขังข้อหา ครอบครองซากสัตว์ป่า เนื่องจากเป็นข้อหาที่มีอัตราโทษสูงสุด โดยพนักงานสอบสวนไม่ยื่นคัดค้านการประกันตัว และศาลอนุมัติให้ประกันตัวนายเปรมชัย โดยใช้หลักทรัพย์เป็นเงินสด 3 แสนบาทประกันตัว โดยมีเงื่อนไขห้ามออกนอกประเทศ เว้นแต่ได้รับอนุญาต และต้องมารายงานตัวตามวันครบกำหนดฝากขังในวันที่ 1 พฤษภาคม 2561
นอกจากนี้ ยังมีเรื่องเกี่ยวเนื่องอย่างรีสอร์ตในอำเภอภูเรือ จังหวัดเลย ซึ่งถูกอ้างว่าเกี่ยวข้องกับตระกูลกรรณสูต ก็ยังอยู่ในชั้นของพนักงานสอบสวน
ในส่วนของมูลนิธิสืบนาคะเสถียรที่ติดตามคดีนี้มาโดยตลอด เตรียมออกแถลงการณ์เพิ่มเติมเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในเร็วๆ นี้ รวมถึงยังคงยืนยันที่จะเข้าพบพล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ตามที่ได้แจ้งไว้ก่อนหน้านี้เช่นกัน
ต่อเหตุการณ์ทั้งหมดที่กำลังจะดำเนินไปนี้ ขอสาธารณชนร่วมติดตามอย่างใกล้ชิด
บทความโดย เอกวิทย์ เตระดิษฐ์ หัวหน้าฝ่ายสื่อสารองค์กร มูลนิธิสืบนาคะเสถียร
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี