กองทัพบกแจงยิบปม‘หน้ากาก’ ยันมียื่นใบรับรองมาตรฐานปลอมทั้ง4ครั้ง

กองทัพบกแจงยิบปม‘หน้ากาก’ ยันมียื่นใบรับรองมาตรฐานปลอมทั้ง4ครั้ง

วันพฤหัสบดี ที่ 15 มีนาคม พ.ศ. 2561, 15.52 น.

กองทัพบกแจงยิบปม‘หน้ากาก’ ยันมียื่นใบรับรองมาตรฐานปลอมทั้ง4ครั้ง

15 มี.ค.61 ที่กองบัญชาการกองทัพบก พล.ต.ศักดิ์สิทธิ์ เชื้อสมบูรณ์ ผู้อำนวยการสำนักงานวิจัยและพัฒนาการทางทหาร กองทัพบก(สวพ.ทบ.) แถลงต่อสื่อมวลชน กรณีโครงการวิจัยและพัฒนาการพัฒนาหน้ากากป้องกันสารพิษทางทหาร ในประเด็นสำคัญ ดังนี้


1.โครงการวิจัยและพัฒนาการพัฒนาหน้ากากป้องกันสารพิษทางทหารเพื่อใช้ภายในประเทศเป็นโครงการตาม เอ็มโอยู ระหว่าง ทบ. โดย สำนักงานวิจัยและพัฒนาการทางทหาร กองทัพบก สวพ.ทบ. กับ สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) เพื่อพัฒนาและสนับสนุนนักวิจัยจาก สถาบันการศึกษารวมถึง เป็นการนำผลการวิจัยไปสู่การผลิตแบบพึ่งพาตนเองในประเทศ ประหยัดงบประมาณ

2.ในระหว่างการวิจัย ทางรัฐบาลได้สนับสนุนงบประมาณ เพื่อให้นำผลการวิจัยไปสู่การผลิตชิ้นงาน สนับสนุนนโยบายการใช้ยางพาราภายในประเทศ ทบ. ได้ดำเนินกรรมวิธี นำผลงานวิจัยเข้าสู่กระบวนการผลิตตามขั้นตอนของทางราชการ โดยมีกระบวนการวิเคราะห์ ประเมินผลโครงการวิจัย ซึ่งเป็นการประเมินผล ทั้งทางด้านเอกสารรายงานและผลงานวิจัยที่ได้รับ ตลอดจนการทดสอบโดยคณะกรรมการต่างๆของกองทัพบก จนถึงขั้นตอนสุดท้าย คือ ผ่านการรับรองมาตรฐานจากกองทัพบก และได้รับอนุมัติให้นำผลงานวิจัยนั้นไปผลิต

ทั้งนี้โครงการวิจัยไม่ว่าจะได้ทุนจากแหล่งทุนใด หากจะนำมาผลิตเพื่อใช้งานในกองทัพบกก็จะต้องดำเนินการตามแนวทางนี้ โครงการหน้ากากป้องกันสารพิษฯ เมื่อได้ปิดโครงการกับ สกอ.แล้ว ก็เข้าสู่การดำเนินการตามกระบวนการดังกล่าว

พล.ต.ศักดิ์สิทธิ์ กล่าวด้วยว่า ในระหว่างกระบวนการวิเคราะห์และประเมินผลโครงการ คณะนักวิจัยได้นำส่งเอกสารรายงานการวิจัยฉบับสมบูรณ์ให้ สวพ.ทบ. พิจารณา และส่งให้คณะกรรมการระดับ ทบ. ทำการประเมินผลงานวิจัย ภายหลังปรากฏว่าใบรับรองมาตรฐานผลิตภัณฑ์หน้ากากแบบเต็มหน้า เป็นเอกสารปลอม กองทัพบกจึงได้ยุติโครงการ

นอกจากนี้ ได้มอบอำนาจให้ ผอ.สวพ.ทบ. ซึ่งรับผิดชอบเกี่ยวกับงานวิจัยของ ทบ. โดยตรง ไปแจ้งความร้องทุกข์ กับพนักงานสอบสวนที่กองปราบปรามไว้ก่อน เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบข้อเท็จจริงต่อไป รวมทั้งเป็นการป้องกันผลเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้นกับการนำไปใช้งานทางราชการ หากมีการนำเข้าสู่กระบวนการผลิตในลำดับขั้นต่อไป ที่สำคัญเป็นการยับยั้งมิให้เอกสารที่เป็นเท็จไปสู่กระบวนการบริหารงานราชการ

พล.ต.ศักดิ์สิทธิ์ กล่าวอีกว่า การอ้างถึงว่ารายงานตอนไปขอปิดโครงการฯ กับ สกอ.ระบุเป็นเรื่องหน้ากากชีวอนามัย ไม่เกี่ยวกับหน้ากากด้านทหารเลยนั้น เป็นข้อมูลที่ไม่ตรงกับความเป็นจริง เพราะเงื่อนไขข้อกำหนดในการวิจัยครั้งนี้ ระบุให้ผู้วิจัยต้องดำเนินงานวิจัยที่มีคุณภาพและมาตรฐานตรงตามความต้องการของ ทบ. เท่านั้น

สำหรับ กรณีกล่าวหาว่า จนท.ทหาร แทรกใบรับรองมาตรฐานปลอมเข้ามาในเอกสารงานวิจัยฉบับสมบูรณ์นั้น จากการตรวจสอบขอเรียนว่า มีการยื่นใบรับรองมาตรฐาน จำนวน 4 ครั้ง โดย หัวหน้าโครงการวิจัย โดยเป็นการยื่นใบรับรองมาตรฐานปลอมทั้ง 4 ครั้ง

อย่างไรก็ตาม สวพ.ทบ. ในฐานะที่เป็นหน่วยดูแลด้านการวิจัยและพัฒนากองทัพบก ซึ่งได้รับมอบอำนาจจาก ทบ. จำเป็นต้องดำเนินการตามกระบวนการยุติธรรม เพื่อให้เกิดความกระจ่างในทุกแง่มุมที่สังคมสงสัย และเพื่อเป็นการรักษาคุณภาพและมาตรฐานของงานวิจัยที่จะนำไปใช้ในการผลิตเครื่องมือ และยุทโธปกรณ์ทางทหารของกองทัพบกต่อไป

เมื่อถามว่า มีการตั้งข้อสังเกตว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอาจเป็นเพราะมีผลประโยชน์จากการซื้ออาวุธจากต่างประเทศ จึงไม่ต้องการให้มีการใช้ของที่ผลิตในประเทศ พล.ต.ศักดิ์สิทธิ์ กล่าวว่า สวพ.ทบ.ให้การสนับสนุนผลงานวิจัยเพื่อนำไปสู่การผลิต เพราะฉะนั้นไม่ว่าจะเป็นงานวิจัยของสถาบันใด หรือองค์การต่างๆ ภายในประเทศ เราก็สนับสนุน เพราะนโยบายของเราคือต้องพึ่งพาตนเอง ลดการนำเข้า ประหยัดงบประมาณ ไม่ซื้อของจากต่างประเทศ แต่ขอให้ทุกอย่างได้มาตรฐาน เพราะงานวิจัยทุกชิ้นมีความสำคัญต่อชีวิต หากไม่ได้มาตรฐานกำลังพลก็จะเสี่ยงอันตราย และมีผลกระทบต่อชีวิตได้ 

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top