คำต่อคำ!‘อักษรา’แฉจนท.รัฐหนุนป่วนใต้ ฮึ่ม‘4กลุ่ม’ตกเป็นแนวร่วมโจรไม่รู้ตัว
15 มี.ค.61 พล.อ.อักษรา เกิดผล ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะพูดคุยเพื่อสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้ กล่าวถึงการแก้ปัญหาความรุนแรงในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ว่า ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา กลุ่มขบวนการผู้เห็นต่าง ได้ใช้ความรุนแรงอย่างต่อเนื่อง และภายหลังเมื่อรัฐบาลมีนโยบายการพูดคุยฯก็ฉวยโอกาสใช้ความรุนแรงเป็นข้ออ้าง สร้างเงื่อนไขต่อรองในการพูดคุยกับรัฐบาล
“โดยบางส่วนได้รับการสนับสนุนจากเจ้าหน้าที่รัฐบางหน่วยงาน ที่ยังมีแนวความคิดแบบเดิมๆที่เชื่อมั่นว่าเข้าถึงขบวนการและกลุ่มติดอาวุธตัวจริง ผ่านทางตัวแทนแหล่งข่าว และมีแนวร่วมในพื้นที่ให้การสนับสนุน ช่วยกันสร้างความรุนแรงแบบป่วนเมือง ขยายความขัดแย้งไปทั่วจังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งถ้าเราไปให้น้ำหนักกับพวกนี้ ก็เท่ากับเรานั่นแหละสนับสนุนการใช้ความรุนแรง” พล.อ.อักษรา กล่าว
พล.อ.อักษรา กล่าวด้วยว่า เพราะรัฐบาลต้องการยุติความรุนแรง เราจึงไม่ให้ความชอบธรรมกับพวกที่ใช้ความรุนแรง และประกาศใช้แนวทางสันติวิธี คือ ยินดีกับพวกที่ไม่ใช้ความรุนแรง ซึ่งการเปลี่ยนกระบวนทัศน์นี้ทำให้รัฐบาลสามารถดึงกลุ่มผู้เห็นต่างเกือบ 90% เข้ามาพูดคุย และร่วมกันสร้างสันติสุขด้วยการสร้างเซฟตี้โซน ที่ทุกฝ่ายสามารถแสดงความคิดเห็นได้อย่างเสรี ซึ่งเป็นแนวคิดเดียวกันกับพื้นที่สาธารณะปลอดภัย ในการแสดงความคิดเห็นสำหรับทุกคน ที่ภาควิชาการมักถามหา และนี่คือเสียงเรียกร้องจากประชาชนอย่างแท้จริง
“ผมขอเรียนอีกครั้งว่าคณะพูดคุย ไม่เคยมีวาระของตัวเอง แต่ได้นำเสียงของประชาชนที่ต้องการความปลอดภัยและสันติสุขในการดำรงชีวิตประจำวัน ไปบอกกับผู้เห็นต่าง ทุกกลุ่ม ทุกพวก ทุกฝ่าย ให้ยุติการใช้ความรุนแรงและหันมาสร้างพื้นที่ปลอดภัยร่วมกัน” พล.อ.อักษรา กล่าว
พล.อ.อักษรา กล่าวด้วยว่า ปัญหาสำคัญ คือ ผู้ที่มีส่วนได้เสียทั้ง 4 กลุ่ม คือ เจ้าหน้าที่รัฐ นักวิชาการ สื่อมวลชน และประชาชน ยังมีผู้ที่ไม่เชื่อมั่นในกระบวนการพูดคุย และไม่ไว้ใจประเทศเพื่อนบ้าน ไม่ไว้ใจรัฐบาล ไม่ไว้ใจคณะพูดคุย แต่กลับไปให้คุณค่ากลุ่มคนที่ใช้ความรุนแรง ซึ่งกลุ่มคนเหล่านี้ คือ ส่วนหนึ่งของปัญหาความรุนแรงในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่มักขยายความขัดแย้งไปเรื่อยๆ จนตกเป็นแนวร่วมมุมกลับของกลุ่มโจรก่อการร้ายที่หวังผลประโยชน์โดยไม่รู้ตัว
พล.อ.อักษรา ระบุว่า ปัจจุบันรัฐบาลได้บีบบังคับให้ขบวนการผู้เห็นต่าง เหลือเพียงช่องทางเดียวที่จะบรรลุความต้องการของเขา คือ แนวทางสันติวิธี และยุติการใช้ความรุนแรงเท่านั้น เพราะผู้ที่ได้รับประโยชน์ คือ ประชาชนที่ไม่ตกเป็นเหยื่อของความรุนแรงอีกต่อไป ขอทำความเข้าใจว่าการพูดคุยนั้นไม่สามารถยุติความรุนแรงได้ เพียงแค่เปลี่ยนการต่อสู้ที่ใช้ความรุนแรงมาเป็นสันติวิธี แต่การต่อสู้ยังคงอยู่ต่อไป และประชาชนเท่านั้น คือ คำตอบของการต่อสู้ในแนวทางสันติวิธีว่าจะเลือกอนาคตอย่างไร
ทั้งนี้ จะเห็นได้ว่ายังมีคอลัมนิสต์บางท่าน พยายามบอกสังคมให้เชื่อว่าพี่น้องมุสลิมยอมรับได้กับการสูญเสียเพื่ออุดมการณ์ คือ มีตายบ้าง บาดเจ็บบ้าง เพื่อบรรลุวัตถุประสงค์ของบีอาร์เอ็น แต่ท่านถามคนเหล่านั้นหรือยังว่าเขาเห็นด้วยกับท่านหรือไม่ เพราะคอลัมนิสต์ดังกล่าวตกเป็นแนวร่วมสนับสนุนโจรใช้ความรุนแรงไปแล้วโดยไม่รู้ตัว และยังพยายามชี้นำสังคมให้เชื่อตามตัวเองอีกด้วย
“ถ้าเราสามารถกำหนดพื้นที่ปลอดภัย ที่มีทุกฝ่ายเข้ามาร่วมกันกำหนดมาตรการรักษาความปลอดภัย โดยมีพี่น้องประชาชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ และนักวิชาการ เข้ามาช่วยกันปฎิเสธกลุ่มที่ใช้ความรุนแรงกันแล้ว สันติสุขก็จะค่อยๆเกิดขึ้นได้อย่างเป็นรูปธรรม” พล.อ.อักษรา กล่าว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
+ ทรยศชาติ!‘อักษรา’แฉจนท.รัฐร่วมสุมไฟใต้ แอบต่อสายโจรหนุนเงิน‘ท่อน้ำเลี้ยง’
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี