นายวิศิษฐ์ ศรีสุวรรณ์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ เปิดเผยว่า ชุมนุมสหกรณ์ออมทรัพย์แห่งประเทศไทย จำกัด ได้จัดประชุมรับฟังความคิดเห็นร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) คณะกรรมการกำกับกิจการสหกรณ์ภาคการเงินขนาดใหญ่ พ.ศ... โดยมีตัวแทนสหกรณ์ออมทรัพย์และชุมนุมสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนแห่งประเทศไทย จำกัด ที่มีทุนดำเนินงานเกิน 5,000 ล้านบาท เข้าร่วมแสดงความคิดเห็น และมีหลายประเด็นในร่างกฎหมายที่ตัวแทนสหกรณ์ได้แสดงความเห็นเพิ่มเติม
ดังนั้น กรมส่งเสริมสหกรณ์ จะรวบรวมและนำ กลับมาศึกษาและปรับปรุงร่างกฎหมายอีกครั้ง เพื่อให้เป็นประโยชน์ต่อการกำกับดูแลสหกรณ์ออมทรัพย์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาระบบสหกรณ์อย่างแท้จริง
นายวิศิษฐ์กล่าวว่า หนึ่งในประเด็นที่สหกรณ์เสนอเข้ามาคือ การเสนอให้เปลี่ยนชื่อร่างกฎหมายนี้โดยใช้ชื่อว่าร่าง พ.ร.บ.คณะกรรมการกำกับสหกรณ์ออมทรัพย์และเครดิตยูเนี่ยน รวมถึงเปลี่ยนชื่อคณะกรรมการกำกับกิจการสหกรณ์ภาคการเงินขนาดใหญ่ เป็น คณะกรรมการกำกับและส่งเสริมสหกรณ์ออมทรัพย์และสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยน เพื่อให้มีความชัดเจน และเห็นควรให้สหกรณ์ออมทรัพย์และสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนทั้งหมดไปอยู่ภายใต้กฎหมายในการกำกับดูแลเดียวกัน รวมทั้งเสนอให้เพิ่มสัดส่วนของคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านสหกรณ์เพิ่มขึ้นด้วย
สำหรับข้อเสนอเรื่องการเก็บรายได้จากสหกรณ์ เพื่อนำมาเป็นค่าใช้จ่ายสำนักงานคณะกรรมการกำกับฯ ที่จะตั้งขึ้นมาตามกฎหมายฉบับนี้ กำหนดรูปแบบให้ดำเนินการในลักษณะเดียวกับคณะกรรมการกำกับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย แต่ตัวแทนสหกรณ์ได้เสนอว่าจะให้ใช้เงินอุดหนุนจากรัฐบาล ซึ่งในประเด็นดังกล่าวนี้ จำเป็นต้องเสนอให้สำนักงบประมาณพิจารณาก่อนว่าจะสามารถเป็นไปได้หรือไม่
รองอธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ กล่าวต่อว่า กรมฯได้นำเสนอร่างพ.ร.บ.คณะกรรมการกำกับการเงินขนาดใหญ่ และชี้แจงรายละเอียดต่อคณะกรรมการขับเคลื่อนฯด้านกฎหมายของรัฐบาลที่มี นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประธานฯ โดยนำเสนอให้เห็นถึงความจำเป็นที่จะต้องมีกฎหมายฉบับนี้ ซึ่งหลังจากคณะทำงานได้ศึกษาและปรับแก้ตามความเห็นที่ได้รับจากตัวแทนสหกรณ์แล้ว จะมีการเปิดเวทีรับฟังความเห็นอีกครั้งหนึ่ง เพื่อให้ทางสหกรณ์ได้ร่วมตรวจดูร่างเนื้อหาต่อไป
“เราจะเร่งให้พ.ร.บ.ฉบับนี้ออกมาใช้ได้ภายในปี 2561 และเมื่อวันที่ 23 ก.พ. 2561 ที่ผ่านมา ได้มีการตั้งคณะทำงานเพื่อร่วมกันพิจารณาปรับปรุงร่างพ.ร.บ.คณะกรรมการกำกับฯ ในส่วนความเห็นของภาครัฐ ซึ่งจะต้องเอาไปรับฟังจากสหกรณ์อีกครั้ง โดยโครงสร้างของหน่วยงานที่จะตั้งใหม่เพื่อมากำกับดูแลสหกรณ์ตามร่างพ.ร.บ.ที่จะเกิดขึ้นยังคงอยู่ภายใต้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ทำหน้าที่เป็นผู้รักษาการ ขณะที่กรมส่งเสริมสหกรณ์ยังคงทำหน้าที่รับจดทะเบียนสหกรณ์ และกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ดูแลเรื่องการจัดทำระบบบัญชีของสหกรณ์ตามภารกิจเดิม” รองอธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ กล่าว
ทั้งนี้ การกำกับสหกรณ์ออมทรัพย์ทั้งขนาดเล็กและใหญ่คงเป็นไปยาก เพราะหน่วยงานกำกับที่จะตั้งขึ้นใหม่นั้น มีบุคลากรไม่มากนัก ขณะเดียวกัน สหกรณ์ออมทรัพย์ขนาดเล็กๆ ก็มีการดำเนินงานที่ไม่ซับซ้อนมากนัก จึงอาจจะยังไม่จำเป็นจะต้องไปอยู่ในการกำกับของหน่วยงานใหม่ ส่วนสหกรณ์ออมทรัพย์ขนาดใหญ่ มีทุนดำเนินงานจำนวนมาก ทางสหกรณ์เหล่านี้ก็มีความต้องการที่จะนำเงินไปลงทุนธุรกิจอย่างอื่นเพิ่มขึ้น แต่ยังติดขัดกับกฎหมายของสหกรณ์ฉบับปัจจุบัน ซึ่งเมื่อมีการออก
พ.ร.บ.กำกับดูแลสหกรณ์การเงินขนาดใหญ่ออกมาถือใช้ ก็จะเป็นการเปิดโอกาสให้สหกรณ์เหล่านี้สามารถนำเงินไปลงทุนในธุรกิจอื่นๆ เพิ่มเติมได้ และสิ่งสำคัญคือการส่งเสริมสหกรณ์ในเรื่องการลงทุนและพัฒนาในด้านการทำธุรกรรมทางการเงินในยุคดิจิทัล ซึ่งขณะนี้ถือว่ามีจำเป็นที่จะต้องนำเทคโนโลยีต่างๆ เข้ามาใช้ในการปรับปรุงรูปแบบธุรกรรมทางการเงินของสหกรณ์ให้เหมาะสมทันต่อยุคสมัยและเกิดประสิทธิภาพสูงสุดต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี