สปน.ชวนแต่งชุดไทย
ให้ขรก.ใส่มาทำงาน
ร้านก๋วยเตี๋ยวเอาด้วย
อิงกระแสฮิตละครดัง
สปน.สานต่อดำริ“บิ๊กตู่”จุดกระแสชุดไทย ชวนร่วมโครงการ “ไทยแลนด์ 4.0 แต่งไทยแบบไหนก็เก๋” ชี้ ขรก.พร้อมแต่งย้อนยุค มาทำงาน ด้านเจ้าของร้านก๋วยเตี๋ยวเรือเมืองสองแคว อิงกระแสละครดัง แต่งไทยส่งเสริมการขาย หนุนท่องเที่ยวพิษณุโลก
เมื่อวันที่ 18มีนาคม นางพัชราภรณ์ อินทรียงค์ ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี (สปน.) กล่าวว่า หลังจากจบงาน “อุ่นไอรัก คลายความหนาว” ที่จุดกระแสให้คนไทยหันกลับมาแต่งชุดไทยอีกครั้ง โดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) มีปรารภว่าไม่อยากให้การแต่งชุดไทยเป็นเพียงกระแสแล้วหายไป ทาง สปน.จึงเร่งสานต่อโดยเห็นว่าในยุค 4.0 เราไม่จำเป็นต้องจำกัดยึดติดแบบเดิมๆ แต่สามารถพลิกแพลงได้ เพื่อให้เข้ากับยุคสมัย แต่งไทยแบบเก๋ไก๋ได้ไม่ต้องเคอะเขิน จึงขอเชิญชวนประชาชน รวมถึงหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชน ร่วมแต่งกายแบบไทยภายโครงการ “ไทยแลนด์ 4.0 แต่งไทยแบบไหนก็เก๋”
นางพัชราภรณ์ กล่าวอีกว่า สำหรับผู้ที่สนใจสามารถร่วมแบ่งปันภาพถ่ายการแต่งกายแบบไทยได้ไม่จำกัดจำนวน ในช่องแสดงความคิดเห็นของอัลบั้มชุดนี้ในเฟซบุ๊กสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี โดยจะนำเสนอนายกรัฐมนตรี ว่าอาจมีการมอบรางวัล หรือใบประกาศ แก่ผู้ที่ชนะในโครงการ อย่างไรก็ดี ก่อนหน้านี้ ตนและข้าราชการของ สปน.จะแต่งชุดไทย หรือชุดย้อนยุคทุกวันอังคารอยู่แล้ว แต่หลังจากนี้เชื่อว่าจะเห็นข้าราชการแต่งชุดไทยบ่อยครั้งขึ้นโดยไม่เคอะเขินแต่อย่างใด
ส่วนที่โบราณสถานต่างๆ ในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ซึ่งละครเรื่องบุพเพสันนิวาส ใช้สถานที่ถ่ายทำนั้น ต่างเนืองแน่นไปด้วยนักท่องเที่ยว ที่มาถ่ายรูปเป็นที่ระลึกตามกระแสละคร จนถนนหลายสายเนืองแน่นไปด้วยผู้คน โดยที่วัดพุทไธสวรรย์ ต.สำเภาล่ม อ.พระนครศรีอยุธยา มีนักท่องเที่ยวแต่งชุดไทยย้อนยุค มาถ่ายรูปตามรอยละครจำนวนมาก
น.ส.มนธีรา พนมโชคไพศาล อายุ 30 ปี ชาว กทม.กล่าวว่า เดินทางมากับเพื่อนๆ โดยพร้อมใจกันแต่งชุดไทยย้อนยุคเต็มรูปแบบ เพื่อมาถ่ายรูปตามรอยแม่หญิงการะเกด ซึ่งรู้สึกประทับใจที่มีโอกาสได้แต่งชุดไทยแบบแท้จริง และมาถ่ายรูปในที่ซึ่งเป็นต้นแบบของวัฒนธรรมกรุงศรีอยุธยา โดยอยากให้รณรงค์ให้คนไทยหันมาอนุรักษ์วัฒนธรรมอันดีงามนี้ไว้ตลอดไป
ด้าน น.ส.สมรักษ์ เจียมธีรสกุล อายุ 57 ปี เปิดเผยว่า ได้จัดทริปที่ชื่อว่า “ตามรอยบุพเพสันนิวาส” พานักท่องเที่ยวมาศึกษาร่องรอยประวัติศาสตร์กรุงศรีอยุธยา ความงามของโบราณสถานต่างๆ และท่องเที่ยวในเชิงอนุรักษ์วัฒนธรรมด้วย
ขณะที่ ดร.เกษม บำรุงเวช อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏพระนครศรีอยุธยา ระบุว่า สถาบันวิจัยและพัฒนาของมหาวิทยาลัยฯ เตรียมจัดโครงการส่งเสริมพัฒนาตามศาสตร์พระราชา กิจกรรมศิลปกรรมเก่า เล่าเรื่อง “ตามรอยบุพเพสันนิวาส” ย้อนรำลึกความรุ่งเรืองของกรุงศรีอยุธยา โดยเชิญชวนพี่น้องประชาชน แต่งกายด้วยผ้าไทย ร่วมเดินทางตามรอยวรรณกรรม ชมความงามของป้อมเพชร วัดเชิงท่า วัดพุทไธสวรรย์ วัดไชยวัฒนาราม เรื่องราวของบุคคล ภูมิสถาน และเกร็ดความรู้ทางประวัติศาสตร์รัชสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ที่ได้ชื่อว่าเป็นยุคทองของกรุงศรีอยุธยา เปิดให้ผู้สนใจร่วมโครงการ 35 คน ออกเดินทางในวันที่ 22 มีนาคมนี้ เวลา 08.30-16.30 น.จากที่หน้าวัดบรมพุทธาราม โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ ติดต่อสอบถามได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 035-322082 , 082-4622029 (คุณสุธีรา) หรือ เฟซบุ๊ก สวพ.มรภ.อย.
วันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกระแสละครดัง “บุพเพสันนิวาส” ได้ทำให้ชุดไทยได้รับความนิยมในการแต่งกายทั้งชาย-หญิง อีกครั้ง ไม่เว้นแม้แต่คนขายก๋วยเตี๋ยวเรือ ทั้งเจ้าของและพนักงาน ต่างพร้อมใจแต่งชุดไทย โดยที่ร้านก๋วยเตี๋ยวเรือชามกะลา Zeed ถนนเอกาทศรถ อ.เมือง จ.พิษณุโลก น.ส.คณิตฐา ชาญสูงเนิน เจ้าของร้านดังกล่าว พร้อมด้วยพนักงาน พร้อมใจกันแต่งกายชุดไทย คอยต้อนรับบริการ สร้างรอยยิ้มและประทบใจให้กับลูกค้าที่มาอุดหนุน
น.ส.คณิตฐา เปิดเผยว่า เปิดร้านขายก๋วยเตี๋ยวเรือแห่งนี้มา 3 ปีแล้ว เดิมอยู่ที่ถนนธรรมบูชา ใกล้โรงแรมพิษณุโลกออร์คิด ก่อนย้ายมา แต่ก็ยังคงเอกลักษณ์ รสชาติดั้งเดิมที่เน้นรสแซ่บใส่ชามกะลา และชามดินเผา ส่วนที่มาที่ไปของการแต่งชุดไทยขายก๋วยเตี๋ยว นั้น เนื่องจากกระแสฟีเวอร์ของละครดัง ซึ่งทางร้านทีเพจลูกค้าขาประจำ มักจะสอบถามเข้ามา โดยลูกค้าที่เช็คอินที่ร้านก็มักใช้ภาษาอิงกระแสละครบุพเพสันนิวาส เช่น “รอก่อนนะออเจ้า” หรือ “อย่าเพิ่งปิดร้าน กำลังไปเยือนร้านออเจ้าแห่งเมืองสองแคว” จึงคิดว่าน่าจะแต่งชุดไทยให้เข้ากับกระแส
น.ส.คณิตฐา เปิดเผยอีกว่า ได้เริ่มแต่งชุดไทยกันในวันที่ 17 มีนาคมที่ผ่านมา และจะแต่งยาวไปจนถึงเทศกาลสงกรานต์ อย่างน้อยนักท่องเที่ยวที่มา ไหว้พระพุทธชินราช ก็ต้องแวะหาอะไรทาน การแต่งชุดไทยก็จะช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยวไปด้วย
ขณะที่ลูกค้าทั้งขาประจำและนักท่องเที่ยวทั่วไป ต่างประทับใจที่เจ้าของร้านและพนักงานพร้อมใจกันสวมชุดไทย สำหรับผู้สนใจไปอุดหนุนก๋วยเตี๋ยวเรือแห่งนี้ สามารถใช้เส้นทางถนนเอกาทศรถ ห่างจากวัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร หรือวัดใหญ่ ซึ่งประดิษฐานองค์พระพุทธชินราช ไปทางสนามกีฬากลาง จ.พิษณุโลก ประมาณ 1 กิโลเมตร ซึ่งมีเมนูให้เลือกมากมาย และร้านเปิดทุกวันตั้งแต่เวลา 09.00-18.00 น.เจ้าของฝากบอกว่าลูกค้าท่านใดแต่งชุดไทยมาเช็คอิน ที่ร้านมีส่วนลดให้ 5% ด้วยนะออเจ้า
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี