ลุยโค้งสุดท้าย
ตีทะเบียนต่างด้าว
‘กกจ.’ลดขั้นตอน
ปิดจ็อบก่อน31มีค.
กรมการจัดหางานจี้นายจ้างพาแรงงานต่างด้าวไปลงทะเบียนศูนย์ OSS สั่งลดขั้นตอนเพื่อความรวดเร็ว เตือนหลังครบกำหนด 31มี.ค.ใครไม่มีใบอนุญาต ถูกดำเนินคดีตามกม.ลั่นไม่มีเจ้าหน้าที่รับเงินให้แซงคิว
เมื่อวันที่ 18 มีนาคม นายอนุรักษ์ ทศรัตน์ อธิบดีกรมการจัดหางาน (กกจ.) กระทรวงแรงงาน เปิดเผยความคืบหน้าการเปิดลงทะเบียนประวัติแรงงานต่างด้าวว่า วันที่ 31 มีนาคม จะครบกำหนดเวลาจัดทำทะเบียนประวัติและขออนุญาตทำงานของแรงงานต่างด้าวสัญชาติกัมพูชา ลาวและเมียนมา ทั้งกลุ่มกิจการประมงแปรรูปสัตว์น้ำ กลุ่มจับคู่ความสัมพันธ์นายจ้าง-ลูกจ้าง และกลุ่มบัตรสีชมพู ที่ศูนย์บริการเบ็ดเสร็จ (OSS) ขณะนี้ดำเนินการแล้ว 537,494 คน เหลือดำเนินการ 1,149,979 คน แต่เพื่อความรวดเร็วจึงปรับลดขั้นตอนดำเนินการภายในศูนย์บริการเบ็ดเสร็จที่จุดเดียวหรือ OSS ลง
อธิบดีกรมการจัดหางานกล่าวต่อว่า โดยกลุ่มที่พิสูจน์สัญชาติแล้ว เหลือแรงงานที่ยังไม่มาพิสูจน์สัญชาติประมาณ 6 แสนคน ถ้าไม่มีโรงพยาบาลมาตรวจภายในศูนย์ฯ ให้นัดตรวจสุขภาพกับโรงพยาบาลที่กำหนด ถ้ายังไม่ได้ผลตรวจให้นำใบนัดตรวจ ใบเสร็จรับเงินเป็นหลักฐานยื่นภายในศูนย์ฯ แต่ถ้ามีโรงพยาบาลมาตรวจภายในศูนย์ฯ ให้ดำเนินการตรวจได้ และให้ยื่นแบบกรอกข้อมูลทะเบียนประวัติ (ท.บ.1) แบบคำขอจดทะเบียน (ท.ต.1) เพื่อตรวจลงตราวีซ่ากับสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง(ตม.) และขออนุญาตทำงานกับกรมการจัดหางานที่ศูนย์ OSS เพื่ออยู่และทำงานได้ถึงวันที่ 31 มีนาคม 2563 จากนั้นหลังวันที่ 31 มีนาคม 2561 ให้ดำเนินการจัดทำทะเบียนประวัติและตรวจสุขภาพให้เสร็จภายในวันที่ 30 มิถุนายน 2561 และกลุ่มที่ยังไม่ได้พิสูจน์สัญชาติให้ดำเนินการทุกขั้นตอนภายในศูนย์ OSS ตามปกติ
นายอนุรักษ์กล่าวย้ำว่า การลดขั้นตอนดังกล่าวจะทำให้การดำเนินเรื่องเร็วขึ้น อย่างไรก็ตาม หลังวันที่ 31 มีนาคม ถ้าไม่มาดำเนินการ แรงงานต่างด้าวจะไม่สามารถอยู่และทำงานในประเทศไทยได้ และจะมีความผิดตามพ.ร.ก.การบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว พ.ศ.2560
ส่วนความคืบหน้าการสแกนม่านตา เพื่อพิสูจน์อัตลักษณ์แรงงานต่างด้าวในกิจการประมงนั้น นายอนุรักษ์เปิดเผยว่า ดำเนินการไปได้มากกว่า 1 แสนรายแล้วจากทั้งหมด 2 แสนคน และทำการซ่อมแซมเครื่องสแกนม่านตาจนใช้งานได้ 30 เครื่อง โดยมีแรงงานอยู่จ.สมุทรสาครมากที่สุด 6-7 หมื่นคน มีเครื่องสแกนม่านตา 12 เครื่อง ซึ่งขณะนี้ได้ส่งเจ้าหน้าที่ลงไปเสริมอีก 3 ชุด คิดว่าจะทำให้การดำเนินการได้มากกว่า 4 พันคน โดยจะเร่งจังหวัดอื่นๆ ให้เสร็จภายใน 1-2 วัน เพื่อจะได้ย้ายเครื่องสแกนม่านตาและเจ้าหน้าที่เข้ามาเสริมที่สมุทรสาคร ส่วนเรื่องการเช่าเครื่องสแกนม่านตานั้น ได้ติดต่อบริษัทเอกชนแล้ว แต่ทราบว่าไม่มีเครื่องอยู่ในประเทศไทย ต้องใช้เวลานำเข้าจากต่างประเทศนานกว่า 3 สัปดาห์ จึงให้ใช้เครื่องเท่าที่มีอยู่ตอนนี้ ให้เต็มศักยภาพ
สำหรับการบริหารจัดการคิวและเข้มงวดเรื่องการป้องกันการเรียกรับเงินเพื่อแซงคิวนั้น อธิบดีกรมการจัดหางานยืนยันว่า กรมพยายามจัดการให้ดีที่สุด เจ้าหน้าที่ กกจ.และหน่วยงานที่เข้ามาร่วมดำเนินงาน ไม่มีใครเรียกรับเงินเด็ดขาด แต่อาจมีคนซึ่งเป็นใครไม่รู้มาแอบอ้างรับว่าจะแซงคิวให้ได้ จึงฝากเตือนแรงงาน นายจ้างว่าอย่าไปเชื่อ ให้มั่นใจการทำงานของเจ้าหน้าที่รัฐเท่านั้น
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี