อธิบดี พส.เซ็นสั่งสอบวินัยร้ายแรง “ข้าราชโกง” ปล้นเงินคนไร้ที่พึ่งเพิ่มอีก 6 ราย รักษาการปลัด พม. เปิดบัญชีดำเด้งอีกล็อตใหญ่ 31 จังหวัด ด้าน ป.ป.ท. เผยพบทุจริตแล้ว 49 จังหวัด รวมมูลค่ากว่า 104 ล้าน แฉสุดงามหน้า คิดเป็นเกือบ 100% ของงบประมาณช่วยคนไร้ที่พึ่ง
ยังคงมีการตรวจสอบพบการทุจริตอย่างต่อเนื่อง สำหรับการใช้จ่ายงบประมาณเงินสงเคราะห์ครอบครัวผู้มีรายได้น้อยและผู้ไร้ที่พึ่งประจำปี 2561 ของกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ (พส.) กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ซึ่งดำเนินการโดยศูนย์คนไร้ที่พึ่งและนิคมสร้างตนเองทั่วประเทศ โดยล่าสุดตรวจพบการทุจริตแล้วถึงเกือบ 50 จังหวัด กว่า 104 ล้านบาท
โผล่อีก5จว.โกงเงินคนจน-ยอดพุ่งกว่า104ล.
โดยเมื่อวันที่ 19 มีนาคม พ.ท.กรทิพย์ ดาโรจน์ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) ได้เปิดเผยถึงเรื่องดังกล่าวว่า ผลการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ ป.ป.ท. ตั้งแต่วันที่ 13 กุมภาพันธ์ - 18 มีนาคม 2561 พบการกระทำที่ส่อไปในทางทุจริตของศูนย์คนไร้ที่พึ่งเพิ่มเป็น 49 จังหวัด รวมงบประมาณ 104,440,000 บาท โดยเพิ่มจากยอดสรุปเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว 5 จังหวัด ประกอบด้วย ศรีสะเกษ กำแพงเพชร พังงา สกลนคร และจันทบุรี
ทั้งนี้ในเบื้องต้น คณะกรรมการ ป.ป.ท. ได้ตั้งอนุกรรมการไต่สวนความผิดทางอาญาแล้ว 7 จังหวัด และภายในสัปดาห์นี้ เจ้าหน้าที่จะทยอยเสนอให้คณะกรรมการ ป.ป.ท. ลงมติตั้งอนุกรรมการไต่สวนเพิ่มเติม
สอบนิคมสร้างตนเอง4แห่งเจอโกงทุกแห่ง
สำหรับงบประมาณที่ดำเนินงานในส่วนของนิคมสร้างตนเองซึ่งมี 32 แห่งทั่วประเทศ ป.ป.ท. ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบแล้ว 4 แห่ง คือ นิคมสร้างตนเองเชียงพิณ จ.อุดรธานี ได้รับงบประมาณ 7,030,000 บาท นิคมสร้างตนเองห้วยห้วง จ.อุดรธานี ได้รับงบประมาณ 5,030,000 บาท นิคมสร้างตนเองเขื่อนอุบลรัตน์ จ.ขอนแก่น ได้รับงบประมาณ 11,700,000 บาท และ นิคมสร้างตนเองพัฒนาภาคใต้ จ.สตูล ได้รับงบประมาณ 10,980,000 บาท เบื้องต้นพบว่าพฤติการณ์ทุจริตลักษณะเดียวกับศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งทั้ง 4 แห่ง
เตรียมสรุปเส้นทางการเงินภายในเดือนนี้
“ในส่วนของการตรวจสอบเส้นทางการเงิน เพื่อเอาผิดกับผู้รับผลประโยชน์ปลายทาง หรือเก็บเงินทอนจากงบฯคนไร้ที่พึ่ง ขณะนี้เริ่มเห็นความชัดเจนของผู้ที่เข้าไปเกี่ยวข้อง โดยภายในสิ้นเดือนมีนาคมนี้จะทราบผลการตรวจสอบทั้งหมด ในชั้นนี้ขอยังไม่เปิดเผยถึงวิธีการรับเงินว่า เป็นการรับเงินสดหรือโอนเข้าบัญชี อย่างไรก็ตาม จากการที่ป.ป.ท.ตรวจสอบพบว่า เป็นความรับผิดชอบของผู้อำนวยการนิคม ซึ่งอยู่ในอำนาจตรวจสอบของ สำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) หลังจากนี้จะส่งสำนวนไปให้ป.ป.ช.ดำเนินการ รวมถึงนิคมฯอื่นๆ ที่ยังไม่ได้ตรวจสอบ เนื่องจากงานของป.ป.ท.ตึงมือมากแล้ว” พ.ท.กรทิพย์ กล่าว
เตรียมเชือดข้าราชการเอี่ยวทุจริต
นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ ป.ป.ท. ได้ตรวจสอบพบการทุจริตในหลายจังหวัด ทั้งการจ่ายเงินไม่เต็มจำนวน การทำบัญชีเท็จเพื่อเบิกเงิน คาดว่าภายใน 1-2 เดือนนี้ จะดำเนินการกับเจ้าหน้าที่รัฐผู้กระทำความผิดได้ และจะตรวจสอบเสร็จเร็วกว่ากรอบระยะเวลาที่กำหนดไว้
“ป.ป.ท.ได้ตรวจสอบลงลึกเพื่อดำเนินคดีอาญา โดยมีการรายงานความคืบหน้ามายังผมและนายกฯ ทุกสัปดาห์ ล่าสุดตรวจสอบไปแล้วเกือบ 50 จังหวัด จาก 76 จังหวัด ในส่วนของคดีอาญาต้องทำให้รอบคอบ เพื่อไม่ให้ไปถึงในชั้นศาลแล้วพิพากษายกฟ้อง ดังนั้น ในภาพรวมทั้งหมดที่จะมีการกล่าวหาพาดพิงถึงข้าราชการหลายคนให้รอฟังผลสรุปจาก ป.ป.ท.”
ไม่เลิกโครงการ-จ่อจ่ายเงินโดยตรงผ่านพร้อมเพย์
อย่างไรก็ตาม นายวิษณุ ยืนยันว่า แม้จะพบปัญหาการทุจริตเกิดขึ้นในโครงการ แต่คงไม่สามารถหักด้ามพร้าด้วยเข่า โดยสั่งให้ยกเลิกโครงการ เพราะป็นโครงการที่ดีเพื่อช่วยประชาชนผู้ยากไร้ เมื่อพบการทุจริตต้องแก้ไขไม่ใช่ยกเลิก อาจจะปรับเปลี่ยนวิธีการจ่ายเงิน จากการลงพื้นที่เพื่อพบปะและจ่ายเงินสดโดยตรง ซึ่งเป็นช่องทางให้เกิดการทุจริต ก็อาจจะเปลี่ยนไปจ่ายผ่านระบบพร้อมเพย์ หรือวิธีอื่นๆ
“คนจน คนไร้ที่พึ่งยังมีอยู่จริง การสงเคราะห์ยังเป็นเรื่องจำเป็น ยกตัวอย่างมีการโกงเลือกตั้ง จะไปยกเลิกไม่ให้มีการเลือกตั้งก็ไม่ได้ วิธีการที่ควรทำคือต้องหาทางแก้ไขไม่ให้โกง”นายวิษณุ กล่าว
พม.บัญชีดำย้ายล้างบาง31จังหวัด
ด้าน นางไพรวรรณ พลวัน รักษาการปลัด พ.ม. เปิดเผยว่า ได้ประสานงานกับ ป.ป.ท. เพื่อขอข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับความคืบหน้าในการตรวจสอบเรื่องนี้ทั้งหมดว่ามีพื้นที่ไหนอีกที่เข้าข่ายส่อไปในทางทุจริต เพื่อแสวงหาข้อเท็จจริง ก่อนสั่งย้ายข้าราชการที่เกี่ยวข้อง
ทั้งนี้ ที่ผ่านมา กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ (พส.) ได้ตรวจสอบพบมูลความผิดของศูนย์คนไร้ที่พึ่ง 21 แห่ง และได้สั่งย้ายข้าราชการที่เกี่ยวข้องไปแล้ว 22 ราย จากศูนย์ 16 แห่ง ส่วนอีก 5 แห่งนั้น มีลาออกไปแล้ว 1 ราย และเกษียณราชการ 4 ราย นอกจากนี้ยังมีอีก 31 ศูนย์ที่กำลังอยู่ระหว่างการตรวจสอบว่า มีพื้นที่ไหนเข้าข่ายการทุจริตบ้าง และคาดว่าจะมีข้าราชการอีกหลายจังหวัดที่ถูกย้าย
อธิบดีพส.สั่งสอบวินัยร้ายแรง6“ข้าราชโกง”
นางนภา เศรษฐกร อธิบดีกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ (พส.) เปิดเผยว่า วันเดียวกันนี้ ได้ลงนามคำสั่งสอบวินัยร้ายแรงข้าราชการที่เกี่ยวข้องกับการทุจริตเงินช่วยเหลือในศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่ง 5-6 คนเพื่อหาข้อเท็จจริง โดยเป็นระดับหัวหน้าศูนย์แต่ไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ และที่ผ่านมาได้มีการลงนามในคำสั่งย้ายข้าราชการที่เกี่ยวข้องรวม 16 คนและพบว่าในพื้นที่มีความผิดปกติเบื้องต้น 21 แห่ง แต่จะมีการขอข้อมูลจาก ป.ป.ท. มาประกอบในการสอบสวนข้าราชการ ที่อาจเกี่ยวข้อง
พิรุธ!นิคมฯสตูลไม่เคยขอแต่ได้งบฯ10ล.
วันเดียวกัน นายสัญชาติ อุปนันชัย ผู้อำนวยการกองอำนวยการต่อต้านการทุจริต (ผอ.กอท.) และ พ.ต.ท.สามารถ ไชยณรงค์ ผู้อำนวย ป.ป.ท.เขตพื้นที่ 9 ได้นำเจ้าหน้าที่บุกเข้าตรวจสอบการใช้งบประมาณช่วยเหลือผู้ยากไร้ปี 2560 ของนิคมสร้างตนเอง จ.สตูล ในพื้นที่ ต.เขาขาว อ.ละงู ซึ่งจากการสอบสวนเบื้องต้น ได้รับแจ้งว่า นิคมสร้างตนเอง จ.สตูล ไม่เคยร้องของบประมาณไปยังส่วนกลาง แต่กลับมีการจัดสรรเงินอุดหนุนให้ 10,851,000 บาท จาก กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ (พส.) โดยแบ่งจัดสรร 5 ครั้ง ครั้งแรกเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2559 จำนวน 5,150,000 บาท ครั้งที่ 2 วันที่ 18 ตุลาคม 2559 จำนวน 500,000 บาท ครั้งที่ 3 วันที่ 7 เมษายน 2560 จำนวน 200,000 บาท ครั้งที่ 4 วันที่ 2 พฤษภาคม 2560 จำนวน 5,000,000 บาท และครั้งสุดท้ายที่ 5 วันที่ 11 กรกฎาคม 2560 จำนวน 1,000 บาท
แฉ10ล้านโกงกันสะบั้นหั่นแหลก
ทั้งนี้พบว่า มีการเบิกจ่ายเงินตามที่ได้รับการจัดสรรจำนวน 22 คำขอ รวม 10,851,000 บาท โดยให้ความช่วยเหลือสมาชิก 5,526 ราย แต่เมื่อตรวจสอบรายละเอียดกลับพบว่า ชาวบ้านบางส่วนไม่ได้เงิน บางส่วนได้รับไม่ครบ 3,000 บาท ตามที่ให้ลงชื่อในเอกสาร ขณะที่บางรายก็ไม่ได้เป็นชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อนจริง เจ้าหน้าที่จึงได้รวบรวมเอกสารหลักฐานต่างๆ เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างละเอียดต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี