21 มี.ค.61 ที่ห้องประชุม สพฐ.1 อาคาร สพฐ.4 กระทรวงศึกษาธิการ ศ.คลินิก นพ.อุดม คชินทร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมช.ศธ.) เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการดำเนินการพัฒนานวัตกรรมการบริหารจัดการการศึกษาในรูปแบบพับบลิคสคูล (Public School) เพื่อรองรับการขับเคลื่อนการปฏิรูปการศึกษาตามนโยบายไทยแลนด์ 4.0 ว่า ที่ประชุมได้ข้อสรุปในหลักการการกำหนดเกณฑ์คัดเลือกโรงเรียนต้นแบบที่จะเข้าร่วมโครงการพับบลิคสคูล โดยจะเปิดโอกาสให้ทั้งโรงเรียนระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) เน้นกลุ่มโรงเรียนขนาดกลาง และขนาดเล็ก ที่มีปัญหาในการพัฒนาคุณภาพ ทั้งระดับอนุบาล ประถมศึกษา มัธยมศึกษา และอาชีวศึกษา สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) เข้าร่วม และให้มีการยืดหยุ่นจำนวนนักเรียน จากเดิมกำหนดไว้ว่าโรงเรียนที่มีนักเรียนไม่เกิน 300 - 500 คน กรณีนี้เห็นว่าหากโรงเรียนใดมีความพร้อมตรงตามเกณฑ์ แต่มีนักเรียน 700 คน ก็ให้เข้าร่วมได้
"เป้าหมายการเลือกโรงเรียนที่จะเข้ามาร่วมโครงการฯ อย่างน้อย 50% เป็นโรงเรียนที่มีปัญหาในการพัฒนา แต่ไม่ได้แบ่งสัดส่วนว่าจะรับระดับขั้นพื้นฐานกี่โรง และระดับอาชีวะฯ กี่โรง แต่ให้ดูตามความเหมาะสม สิ่งสำคัญของการเข้าร่วมโครงการ คือ ความสมัครใจและความพร้อมของผู้บริหารโรงเรียนที่พร้อมจะบริหารแบบใหม่ รวมถึงความสมัครใจของครู และชุมชนในพื้นที่ รวมถึงภาคเอกชนที่จะเข้ามาร่วมสนับสนุน ซึ่งโรงเรียนกลุ่มนี้ก็ยังได้รับการสนับสนุนงบฯ จากรัฐเหมือนเดิม แต่อาจจะต้องมีการระดมทุนจากภาคเอกชน ภาคท้องถิ่นเข้ามาร่วมสนับสนุนด้วย ซึ่งเงินตรงนี้ก็ใช้บริหารจัดการอยู่ภายในโรงเรียน และมีข้อเสนอจากภาคเอกชนว่าต้องทำทีโออาร์ให้ชัดเจนว่า ภาคเอกชนต้องรับผิดชอบอะไรบ้าง และภาครัฐรับผิดชอบอะไรบ้าง ภายใต้กรอบระยะเวลากี่ปี ทั้งนี้เพื่อให้มีการสนับสนุนต่อเนื่องจริงจัง และป้องกันไม่ให้เกิดการทอดทิ้ง" นพ.อุดม กล่าว
นพ.อุดม กล่าวต่อไปว่า นอกจากนี้ โรงเรียนพับบลิคสคูลนั้นยังมีอิสระในด้านวิชาการ สามารถออกแบบหลักสูตรที่เหมาะสมกับผู้เรียนและตรงกับความต้องการในท้องถิ่นได้ แต่หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน ที่เป็นข้อบังคับก็ไม่ได้ทิ้ง เช่น ม.ปลาย ต้องยึดการเรียนการสอน 60% แต่ยังเหลืออีก 40% ตรงนี้ก็สามารถปรับหลักสูตรให้สอดคล้องกับจุดเน้นของแต่ละโรงเรียน เช่น เน้นด้านสาธารณสุขก็ออกแบบความรู้ทางวิชาการ ช่วงเวลาที่เหลือ อาจจะส่งเด็กไปเรียนรู้ฝึกทักษะที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) และ รพ.ชุมชน ในพื้นที่ได้ เน้นด้านเกษตร ก็ให้ผู้เชี่ยวชาญด้านเกษตรมาสอน และให้เอกกชนที่เกี่ยวกับการเกษตรและฟาร์ม เข้ามาสนับสนุน
อย่างไรก็ตาม เดิมนั้นกำหนดเป้าหมายว่าจะเริ่มต้นใน 77 จังหวัดๆ ละ 1 โรง แต่ที่ประชุมเห็นตรงกันว่าอยากให้เกิดการกระจายลงไปในพื้นที่ทุกภูมิภาค ฉะนั้น ในบางจังหวัดอาจมีโรงเรียนพับบลิคสคูล มากกว่า 1 แห่งได้ แต่ต้องอยู่บนพื้นฐานความพร้อมและความสมัครใจ สำหรับชื่อโรงเรียนในโครงการยังไม่ได้ข้อยุติว่าจะเลือกใช้ชื่อใด ระหว่าง "โรงเรียนสานพลังพัฒนา" กับ "โรงเรียนร่วมรัฐพัฒนา" อย่างไรก็ตาม ในวันที่ 11 เม.ย.นี้ จะประชุมคณะกรรมการอีกครั้ง ซึ่งคณะกรรมการฯ ที่มี นายมีชัย วีระไวทยะ เป็นประธาน จะสรุปผลการคัดเลือกโรงเรียนพับบลิคสคูล รุ่นแรกว่ามีจำนวนกี่โรง ยืนยันว่าโรงเรียนพับบลิคสคูล จะเริ่มดำเนินทันเปิดภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2561 นี้แน่นอน
ด้าน นายมีชัย วีระไวทยะ ประธานคณะกรรมการดำเนินการโรงเรียนพับบลิคสคูล กล่าวว่า แนวทางการคัดเลือกโรงเรียนต้นแบบนั้น จะพิจารณาจาก 3 ช่องทาง คือ 1.พิจารณาจากที่ สพฐ.และ สอศ.เป็นผู้เสนอ 2.ภาคเอกชนที่ให้การสนับสนุนโรงเรียนประชารัฐ และ 3.โรงเรียนสมัครเข้าร่วมเอง โดยเป็นโรงเรียนที่จัดการศึกษาระดับอนุบาล ประถมศึกษา มัธยมศึกษา และอาชีวศึกษา หากโรงเรียนสังกัดอื่นสนใจอยากเข้าร่วมก็สามารถเสนอมาได้ ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของคณะกรรมการว่าเห็นสมควรเช่นไร
อย่างไรก็ตาม โรงเรียนที่ได้รับคัดเลือกต้องมีความพร้อมที่จะรับการพัฒนาและสมัครใจจะร่วมพัฒนาด้วย ตั้งแต่ระดับผู้บริหารสถานศึกษา ครูและนักเรียน และชุมชน ต้องเห็นพ้องต้องกัน ทั้งนี้ จะนำผลการสำรวจข้อมูลการบริหารจัดการศึกษาของคอนเน็กซ์ อีดี (CONNEXT ED) แบ่งเป็น ระดับดี ระดับปานกลาง และระดับอ่อน มาเป็นส่วนหนึ่งในการพิจารณาคัดเลือกด้วย อย่างไรก็ตาม ตนจะรายงานความก้าวหน้าการดำเนินการเรื่องดังกล่าวต่อ ที่ประชุมการขับเคลื่อนไทยแลนด์ 4.0 ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ในวันที่ 30 เม.ย.นี้
ขณะที่ นายบุญรักษ์ ยอดเพชร เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (เลขาธิการ กพฐ.) กล่าวว่า เร็วๆ นี้ จะประชุมทางไกลเพื่อชี้แจงแนวทางและหลักการของโรงเรียนพับบลิคสคูล ให้แก่ผู้บริหารสถานศึกษาได้ทราบ เพื่อให้เตรียมความพร้อมในการดำเนินการต่อไป และจะหารือกับภาคเอกชนถึงแนวทางในการร่วมสนับสนุนเพื่อยกระดับคุณภาพของโรงเรียนที่จะเข้าร่วมโครงการ ทั้งนี้ แนวทางของพับบลิคสคูลนั้น เป็นแนวทางเดียวกับที่ สพฐ.พยายามขับเคลื่อนให้เกิดขึ้นกับโรงเรียนต่างๆ ในปีการศึกษา 2561 โดยจะเน้นเรื่องการศึกษาเพื่ออาชีพ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี