ตื่นหนัก‘พิษสุนัขบ้า’
ทั่วปท.แห่ฉีด‘วัคซีน’
อัศวินขอร้องชาวบ้าน
เลิกวางยา‘หมาจรจัด’
กทม. จับมือ 6 จังหวัดใกล้ชิด ป้องกันการแพร่ระบาดของโรคพิษสุนัขบ้า วอนชาวบ้านอย่าวางยาสุนัขจรจัด ขอให้แจ้งเจ้าหน้าที่จับไปดูแล ขณะที่หลายจังหวัดตื่นตัว ระดมกำลังเจ้าหน้าที่ฉีดวัคซีนป้องกันการติดเชื้อ
เมื่อวันที่ 21 มีนาคม ที่ศาลาว่าการ กทม. พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานการประชุมหารือแนวทางในการควบคุมและป้องกันการแพร่ระบาดของโรคพิษสุนัขบ้าในพื้นที่กรุงเทพฯ และจังหวัดใกล้เคียง ได้แก่ สมุทรปราการ นนทบุรี นครปฐม สมุทรสาคร ฉะเชิงเทรา และปทุมธานี โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดทั้ง 6 จังหวัด สำนักงานปศุสัตว์กรุงเทพฯ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมประชุม เพื่อเตรียมความพร้อมในการเฝ้าระวัง ป้องกันการแพร่ระบาดของโรคพิษสุนัขบ้า
สำหรับสถานการณ์โรคพิษสุนัขบ้า ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม–16 มีนาคม พบผู้เสียชีวิต จำนวน 6 ราย โดยกรุงเทพฯ สมุทรปราการ และฉะเชิงเทรา ยังเป็นพื้นที่สีแดง อย่างไรก็ตามตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม ถึงปัจจุบันมีการรายงานพบสัตว์ที่ติดเชื้อโรคพิษสุนัขบ้าในพื้นที่เขตกรุงเทพฯ 6 ตัว โดยพบที่เขตบางเขน 2 ตัว บางซื่อ 2 ตัว ดอนเมือง 1 ตัว และจตุจักร 1 ตัว กทม.จะประสานความร่วมมือกับจังหวัดใกล้เคียงในการดำเนินการป้องกัน ร่วมลงพื้นที่ฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าให้กับสัตว์เลี้ยง ยืนยันว่าทั้ง 6 จังหวัดรวมถึง กรุงเทพฯ มีวัคซีนเพียงพอ และมีบริการฉีดวัคซีน ทำหมัน และฝังไมโครชิพฟรี พร้อมขอให้ประชาชนอย่าวางยาสุนัขจรจัด โดยให้แจ้งเจ้าหน้าที่เป็นผู้ดำเนินการรับไปดูแล
ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์การป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า ในจังหวัดต่างๆ ว่า นพ.สาโรจน์ มะรุมดี สาธารณสุขจังหวัดสุพรรณบุรี เปิดเผยว่า แม้ จ.สุพรรณบุรี ไม่ใช่พื้นที่สีแดง แต่อยู่ในช่วงระบาด จึงต้องระมัดระวัง เพราะสุนัขจรจัดมีอยู่จำนวนมาก และไม่มีการฉีดวัคซีนในช่วงหน้าแล้งของทุกปี ขณะนี้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เทศบาล หรือ อบต.ที่ใกล้บ้าน จะมีบริการฉีดวัคซีนให้ แต่อาจจะมีค่าบริการ 10-20 บาท ซึ่งถ้าเป็นสุนัขหรือแมวจรจัดถ้าพาไปฉีดวัคซีนได้ก็จะดีมาก หรือถ้าเกินความจำเป็นก็อาจจะทำหมัน
วันเดียวกัน นายสุขุม จันทร์วิเศษ รองนายกเทศมนตรีตำบลบ้านคลอง พร้อมด้วย พนักงานเทศบาลงานควบคุมโรคเทศบาลตำบลบ้านคลอง และอาสาปศุสัตว์ตำบลบ้านคลองออกให้บริการฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าตามบ้านเรือน และวัดบ้านคลอง ในเขตพื้นที่ ต.บ้านคลอง อ.เมือง จ.พิษณุโลก โดยได้เตรียมวัดซีนฉีดสุนัขและแมวที่ขึ้นทะเบียนไว้แล้ว จำนวน 595 ตัว และสุนัขและแมวในวัดต่างๆ อีกไม่ต่ำกว่า 500 ตัว พร้อมเชิญชวนประชาชนนำสุนัขและแมวมาขึ้นทะเบียนให้เรียบร้อย
ขณะเดียวกัน ตำรวจภูธรเมืองชัยนาทเข้าตรวจสอบบ้านหลังหนึ่งในพื้นที่หมู่ที่1 ต.เขาท่าพระ อ.เมืองชัยนาท หลังรับแจ้งว่าพบแมวลักษณะต้องสงสัยคล้ายติดเชื้อพิษสุนัขบ้า แต่เจ้าหน้าที่ไม่สามารถจับแมวได้ เพราะแมวก็วิ่งเตลิดเข้าไปยังสวนหลังบ้าน หาตัวไม่พบ คาดว่าคงจะหนีเข้าไปอยู่ใต้พื้นบ้านที่เป็นโพรงลึกเข้าไป จึงฝากเตือนชาวบ้านให้แจ้งเจ้าหน้าที่หากพบแมวดังกล่าวด้วย
ส่วนความคืบหน้ากรณี ด.ญ.ชลธาร หรือน้องต่าย อายุ 14 ปี นักเรียนชั้น ม.2 รร.บ้านสุขสำราญ อ.ปะคำ จ.บุรีรัมย์ เสียชีวิตด้วยโรคพิษสุนัขบ้า เมื่อวันที่ 17 มีนาคม ที่ผ่านมา ล่าสุดสาธารณสุขจังหวัดบุรีรัมย์ ร่วมกับ รพ.บุรีรัมย์ และ รพ.อำเภอปะคำ ระดมเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ฉีดวัคซีน ป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าให้กับชาวบ้าน ญาติพี่น้อง ครู และนักเรียน จำนวน 143 คน ที่ผ่านการตรวจคัดกรองว่า เป็นกลุ่มเสี่ยงที่สัมผัสกับลูกสุนัข และใกล้ชิดกับน้องต่าย เพื่อป้องกันการติดเชื้อพิษสุนัขบ้า
โดย นพ.วิทิต สฤษฎีชัยกุล นายแพทย์สาธารณสุข จ.บุรีรัมย์ ระบุว่า จากการสอบสวนโรคพบว่าครอบครัวของเด็กที่เสียชีวิตได้ขอลูกสุนัขอายุประมาณ 1 เดือน มาเลี้ยง 2 ตัว ในช่วงเดือนตุลาคม 2560 และทราบว่าน้องต่ายได้ถูกลูกสุนัขข่วนที่แขนช่วงที่เลี้ยงสัปดาห์แรก ทั้งยังทราบว่าลูกสุนัขตัวเดียวกันได้กัดพ่อ แม่ และยายของเด็กด้วย แต่ทั้ง 3 คนได้ไปฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า ขณะที่ น้องต่ายไม่ได้ไปฉีดวัคซีนเพราะคิดว่าถูกข่วนเพียงเล็กน้อยไม่มีบาดแผล
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี