‘ศรีสุวรรณ’จี้กรมอุทยานฯฟ้องแพ่ง‘เปรมชัย’ปมฆ่าเสือดำ500ล้าน
23 มี.ค.61 นายศรีสุวรรณ จรรยา นายกสมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน เปิดเผยว่า สมาคมฯได้ออกแถลงการณ์สมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน เรื่องคัดค้านกรมอุทยานฯเรียกค่าเสียหายทางแพ่งเสือดำน้อยเกินควร ระบุว่ากรณีที่อัยการให้เพิ่มการประเมินค่าเสียหายทางแพ่งต่อระบบนิเวศ ในคดีล่าสัตว์ป่าในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร ฝั่งตะวันตก จ.กาญจนบุรี กับคณะของนายเปรมชัย กรรณสูต ประธานบริหารบริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด(มหาชน) และพวก รวม 4 คน ตามมาตรา 97 แห่ง พ.ร.บ.สิ่งแวดล้อม 2535 เบื้องต้นกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ประเมินค่าเสียหายทางแพ่งไว้ จำนวน 3,034,612 บาทนั้น
นายศรีสุวรรณ กล่าวว่า แถลงการณ์ระบุว่า ตัวเลขการประเมินดังกล่าว ไม่น่าจะสอดคล้องกับค่าเสียหายที่เกิดขึ้นจริงจากการที่กรมอุทยานแห่งชาติฯ ต้องสูญเสียเสือดำ ซึ่งเป็นสัตว์ป่าตามบัญชีหมายเลข 1 ของอนุสัญญาไซเตส และเป็นสัตว์ป่าคุ้มครองที่หายากและมีความเสี่ยงของการสูญพันธุ์สูง ไม่สามารถเพาะขยายพันธุ์ได้ง่ายๆ เพราะการเกิดขึ้นของเสือดำเป็นการเกิดขึ้นมาในลักษณะของการกลายพันธุ์ หรือการผ่าเหล่า(Mutation) ของเสือดาว ดังนั้นจะนำมาเปรียบเทียบกับการซื้อขายแยกเป็นตัวๆ ตามหลักคิดของการซื้อขายสัตว์ทั่วไปนั้นไม่ได้
การที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรฯต้องสูญเสียเสือดำเพศเมียไป 1 ตัวย่อมทำให้เสียสมดุลทางนิเวศในพื้นที่ดังกล่าวไปเป็นเวลานานกว่า 5 ปีจึงจะทำให้สมดุลกลับคืนมา เพราะเสือดำเป็นสัตว์นักล่าอยู่ชั้นบนสุดของห่วงโซ่อาหาร(Food Chain) การขาดเสือดำไปจะทำให้สัตว์ถูกล่า เช่น กระต่าย หมูป่า กวาง ฯลฯ เจริญพันธุ์ได้มากขึ้น ซึ่งมีโอกาสที่จะไปทำลายนิเวศโดยรอบให้เสียสมดุลได้ และอาจลุกลามมาทำลายพืชผลทางการเกษตรของชาวบ้านด้านนอกเขตรักษาพันธุ์ฯได้หากพืชอาหารของสัตว์ถูกล่ามีไม่เพียงพอ
“อีกทั้งเสือดำเพศเมียที่ถูกฆ่าอยู่ในวัยเจริญพันธุ์ย่อมมีโอกาสที่จะขายพันธุ์ได้ในรุ่นลูก รุ่นหลาน ได้อีกมากอาจถึง 100 เลยก็ได้ซึ่งจะทำให้มูลค่าของเสือดำ 1 ตัวมากกว่า 1,000 ล้านบาทเลยทีเดียว”
นายศรีสุวรรณ กล่าวต่อว่า เมื่อเปรียบเทียบกับมูลค่าของการผลิตเสือลายเมฆที่สวนสัตว์เขาเขียว ตามโครงการความร่วมมือในการอนุรักษ์เสือลายเมฆในประเทศไทย ร่วมกับภาคี(Thailand Clouded Leopard Consortium) ประกอบด้วย องค์การสวนสัตว์ ร่วมกับหน่วยงานจากประเทศสหรัฐอเมริกา ได้แก่ สถาบันสมิธโซเนียน สวนสัตว์แนชวิลล์ และสวนสัตว์พอยท์เดอไฟแอนส์ รวมถึงคณะสัตวแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยแล้ว จะพบว่ามีค่าใช้จ่ายมากกว่า 500 ล้านบาทกว่าที่จะผลิตเสือลายเมฆให้ได้หนึ่งคู่ ซึ่งข้อมูลดังกล่าวกรมอุทยานแห่งชาติฯสามารถขอข้อมูลมาประกอบคดีได้จากองค์การสวนสัตว์ฯ ซึ่งจะเป็นประโยชน์ในการต่อสู้คดีในกรณีทางแพ่งได้ดีกว่า
ดังนั้น สมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน จึงใคร่เรียกร้องต่อกรมอุทยานแห่งชาติฯ ให้เปลี่ยนหลักคิดทางแพ่งในการเรียกค่าเสียหายจากการฆ่าเสือดำดังกล่าวเสียใหม่ ซึ่งไม่น่าจะต่ำกว่า 300-500 ล้านบาท ซึ่งเป็นหลักคิดค่าเสียหายในทางการลงโทษที่สากลใช้กัน
ทั้งนี้ ไม่ต้องเกรงว่าจะเป็นบรรทัดฐานที่จะไปกระทบต่อบุคคลอื่น ๆ ที่อาจจะขับรถไปชนเสือดำตาย หรือคนยากคนจนที่อาจจะไปล่า เพราะการฆ่าเสือดำนั้นกฎหมายจะเอาผิดขั้นสูงสุดก็แต่เฉพาะคนที่มี “เจตนา” ฆ่าเท่านั้น ส่วนกรณีดังกล่าวหากกรมอุทยานฯแห่งชาติไม่ทบทวนวิธีคิดค่าเสียหายดังกล่าวเสียใหม่ สมาคมฯก็จำเป็นที่จะต้องใช้สิทธิทางศาลในการฟ้องกรมอุทยานฯเพื่อหาข้อยุติในทางกฎหมายต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี