ป้องเปรมชัย
อ้างไม่ได้เข้าป่าเพื่อล่าสัตว์
นพดลพบตร.ปมสินบน
ปัดเกี่ยวข้อง-ช่วยเป่าคดี
“นพดล” อดีตข้าราชการกรมอุทยานฯ พบพนักงานสอบสวน ปปป.ตามหมายเรียก ให้การเพิ่มในฐานะพยาน คดี “เปรมชัย”เข้าป่าทุ่งใหญ่ล่าสัตว์ ยืนยันไม่ได้มีความผิด ไม่เกี่ยวข้องกับคดี ปัดเจ้าสัวติดต่อช่วยเคลียร์คดีหลังถูกจับ ขอตำรวจบันทึกปากคำเพิ่ม บิ๊กอิตาเลียนไทยฯไม่ได้เข้าป่าล่าสัตว์ ด้านสมาคมต้านโรคร้อน จี้กรมอุทยานฯ ฟ้องแพ่ง ปมฆ่าเสือดำ เรียกค่าเสียหายอย่าต่ำกว่า 300-500 ล้าน ตามหลักสากล
ความคืบหน้าการดำเนินคดีนายเปรมชัย กรรณสูต ประธานบริหารบริษัทอิตาเลียนไทย ดีเวลล็อปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) กับนายยงค์ โดดเครือ คนขับรถ ข้อหาติดสินบนเจ้าหน้าที่ หลังเจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรด้านตะวันตกเข้าแจ้งความที่กองบังคับการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) ซึ่งพนักงานสอบสวน บก.ปปป.ได้แจ้งข้อกล่าวหาและเรียกสอบปากคำพยาน หนึ่งในนั้นคือ นายนพดล พฤกษะวัน อดีตข้าราชการกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ซึ่งถูกระบุเป็นผู้ประสานงานให้นายเปรมชัย เข้าไปในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรฯ ตามที่มีข่าวนั้น
เมื่อวันที่ 23 มีนาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายนพดล พฤกษะวัน อดีตข้าราชการกรมอุทยานแห่งชาติฯเดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวนตามหมายเรียก และให้สัมภาษณ์สั้นๆว่า ไม่ทราบว่าตำรวจเรียกตนมาทำไม แต่ยืนยันว่าตนไม่มีความผิด
โดยพล.ต.ต.กมล เหรียญราชา ผบก.ปปป. ระบุว่า เชิญนายนพดลมาสอบปากคำในฐานะพยาน ซึ่งประเด็นที่จะสอบปากคำเป็นพฤติการณ์ตั้งแต่การประสานขอเข้าพื้นที่ให้นายเปรมชัยและพวก ไปจนถึงขณะที่นายเปรมชัยและพวกถูกจับกุม กระทั่งถูกแจ้งข้อหา ติดสินบนเจ้าพนักงาน เพื่อประกอบสำนวน หลังการสอบสวนนายวิเชียร ชิณวงษ์ หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวน ฝั่งตะวันตก ที่ระบุว่าขณะจับกุมนายเปรมชัยได้กล่าวอ้างถึงนายนพดลว่าจะมาเคลียร์ให้
ต่อมาเวลา 12.00 น. พล.ต.ต.กมลเปิดเผยหลังสอบปากคำนายนพดลนานกว่า 2 ชั่วโมงว่า จากคำให้การของนายนพดล ยืนยันตามที่มีกระแสข่าวออกมาก่อนหน้านี้ว่า ประสานขอเข้าพื้นที่อุทยานแห่งชาติทุ่งใหญ่นเรศวรและพูดคุยกับนายวิเชียรจริง เป็นการพูดคุยก่อนนายเปรมชัยจะเข้าพื้นที่ โดยตนได้ติดต่อกับนางกาญจนา นิตยะ ผอ.สำนักอนุรักษ์สัตว์ป่าและพันธุ์พืช และขอเบอร์โทรศัพท์นายวิเชียร ชิณวงษ์ หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าและพันธุ์พืชทุ่งใหญ่นเรศวรฯ นอกจากนี้ นายนพดลยังร้องขอให้พนักงานสอบสวนระบุท้ายคำให้การว่า นายเปรมชัยไม่ได้เข้าป่าเพื่อไปล่าสัตว์ คำให้การของนายนพดล ที่พาดพิงถึงนางกาญจนา เบื้องต้นยังไม่จำเป็นต้องเรียกบุคคลอื่นมาสอบปากคำเพิ่มเติม เพราะสำนวนครบแล้ว แต่ต้องนำเข้าที่ประชุมพนักงานสอบสวนพิจารณาอีกครั้ง
“นายนพดลยังยืนยันว่าวันที่เจ้าหน้าที่จับกุมนายเปรมชัยและพวก วันดังกล่าวนายเปรมชัยไม่ได้ติดต่อมาเพื่อให้เจรจากับเจ้าหน้าที่เพื่อประสานงานแต่อย่างใด”พล.ต.ต.กมลกล่าว และว่า การสอบปากคำวันนี้เสร็จแล้ว และจะรีบสรุปสำนวนส่งศาลอาญาทุจริตภาค7 ให้ทันภายในวันที่ 30 มีนาคม
ขณะที่นายนพดลกล่าวหลังให้ปากคำเจ้าหน้าที่ว่า ไม่มีอะไรมาก ตนไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับนายเปรมชัยและคดีที่เกิดขึ้น วันที่นายเปรมชัยถูกจับกุมไม่ได้ติดต่อตนมา ก่อนเดินทางกลับด้วยหน้าตายิ้มแย้มแจ่มใส
ด้านนายศรีสุวรรณ จรรยา นายกสมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อนเปิดเผย สมาคมฯออกแถลงการณ์สมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน เรื่อง คัดค้านกรมอุทยานฯเรียกค่าเสียหายทางแพ่งเสือดำน้อยเกินควร สาระสำคัญคือ ให้เพิ่มการประเมินค่าเสียหายทางแพ่งต่อระบบนิเวศในคดีล่าสัตว์ป่าทุ่งใหญ่ฯและพวกรวม 4 คน ตามมาตรา 97 แห่งพรบ.สิ่งแวดล้อม 2535 เบื้องต้นกรมอุทยานฯประเมินค่าเสียหายทางแพ่งไว้ จำนวน 3,034,612 บาทนั้น ทางสมาคมคิดว่าตัวเลขดังกล่าวไม่สอดคล้องกับความเสียหายที่เกิดขึ้นจริง ที่กรมอุทยานฯต้องสูญเสียเสือดำ สัตว์ป่าตามบัญชีหมายเลข 1 ของอนุสัญญาไซเตสและเป็นสัตว์ป่าคุ้มครองหายากและเสี่ยงสูญพันธุ์สูง ไม่สามารถเพาะขยายพันธุ์ได้ง่าย ๆ เพราะเสือดำเกิดขึ้นมาในลักษณะของการกลายพันธุ์ หรือการผ่าเหล่า (Mutation) ของเสือดาว ดังนั้น จะนำมาเปรียบเทียบกับการซื้อขายแยกเป็นตัวๆ ตามหลักคิดของการซื้อขายสัตว์ทั่วไปนั้นไม่ได้
นายศรีสุวรรณยังระบุในแถลงการณ์ด้วยว่า การสูญเสียเสือดำหนึ่งตัว ทำให้เสียสมดุลทางนิเวศในพื้นที่นานถึง 5 ปี อีกทั้ง เสือดำเพศเมียที่ถูกฆ่าอยู่ในวัยเจริญพันธุ์ย่อมมีโอกาสขยายพันธุ์ได้ในรุ่นลูก รุ่นหลาน ได้อีกมากอาจถึง 100 ทำให้มูลค่าของเสือดำ 1 ตัวมากกว่า 1,000 ล้านบาท ดังนั้น สมาคมฯขอเรียกร้องให้กรมอุทยานเปลี่ยนหลักคิดทางแพ่งในการเรียกค่าเสียหายจากการฆ่าเสือดำดังกล่าว ซึ่งไม่น่าจะต่ำกว่า 300-500 ล้านบาท ซึ่งเป็นหลักคิดค่าเสียหายในทางการลงโทษที่สากลใช้กัน
“ถ้ากรมอุทยานฯไม่ทบทวนวิธีคิดค่าเสียหายดังกล่าว สมาคมฯจำเป็นที่จะต้องใช้สิทธิทางศาลในการฟ้องกรมอุทยานฯเพื่อหาข้อยุติในทางกฎหมายต่อไป”นายศรีสุวรรณกล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี