23 มี.ค.61 จากกรณีข้อพิพาทโครงการพัฒนาหน้ากากป้องกันสารพิษ วงเงินงบประมาณการดำเนินโครงการ 3.8 ล้านบาท ของทางกองทัพบก ซึ่งมีการแจ้งความดำเนินคดี 2 ส่วน โดยส่วนแรกเป็นคดีที่ พล.ต.ศักดิ์สิทธิ์ เชื้อสมบูรณ์ ผอ.สำนักงานวิจัยและพัฒนาการทางทหาร กองทัพบก แจ้งความเอาผิดกับ รศ.ดร.วีรชัย พุทธวงศ์ อาจารย์วิชาเคมี มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และเจ้าหน้าที่ทีมงานวิจัยโครงการดังกล่าว หลังจากตรวจสอบเบื้องต้นพบข้อพิรุธในการออกใบรับรองมาตรฐานงานวิจัยดังกล่าว
อีกส่วนหนึ่งเป็นคดีที่ รศ.ดร.วีรชัย และเจ้าหน้าที่ทีมงานวิจัย แจ้งความเอาผิดกับ พล.ต.ศักดิ์สิทธิ์ ในข้อหา "แจ้งความเท็จ" และ "เรียกรับเงินสินบน" ซึ่งทั้ง 2 สำนวน ขณะนี้ทางพนักงานสอบสวนกองปราบฯ ได้รวบรวมส่งต่อให้กับทางคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ดำเนินการต่อเป็นที่เรียบร้อยแล้วเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา เนื่องจากอยู่ในอำนาจหน้าที่ของทาง ป.ป.ช.ในการเป็นผู้พิจารณาข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว ตามที่ได้เคยมีการนำเสนอไปแล้วนั้น
ความคืบหน้าเกี่ยวกับกรณีดังกล่าว ล่าสุด เมื่อเวลา 15.00 น.วันนี้ ที่กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) รศ.ดร.วีรชัย พุทธวงศ์ อาจารย์วิชาเคมี มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ พร้อมด้วย นายอนันต์ชัย ไขยเดช ทนายความ ได้เดินทางเข้าพบ พ.ต.ท.สัณห์เพ็ชร หนูทอง รอง ผกก.สอบสวน กก.1 บก.ป.เพื่อเข้าแจ้งความเอาผิดกับนายทหารยศ "พ.อ." รายหนึ่ง สังกัดกองทัพบก ในข้อหา ปลอมแปลงเอกสาร โดยนำหลักฐานเป็นเอกสารใบรับรองงานวิจัยมามอบให้พนักงานสอบสวนประกอบการพิจารณา
รศ.ดร.วีรชัย กล่าวว่า จากกรณี เมื่อวันที่ 15 มี.ค.ที่ผ่านมา ทางด้าน พล.ต.ศักดิ์สิทธิ์ เชื้อสมบูรณ์ ผอ.สำนักงานวิจัยและพัฒนาการทางทหาร กองทัพบก ได้ออกมาชี้แจงถึงกรณีที่มีการกล่าวหากับทางทีมวิจัยว่าใช้ใบรับรองมาตรฐานผลิตภัณฑ์หน้ากากป้องกันสารพิษปลอมนั้น ตนขอชี้แจงในส่วนนี้ว่าเอกสารใบรับรองดังกล่าวเป็นคนละใบกับที่ตนได้จัดทำขึ้น โดยใบรับรองที่ทางกองทัพบกกล่าวหาว่าปลอมนั้นเป็นใบรับรองที่ทางเจ้าหน้าที่ทหารนายหนึ่งในสังกัดกองทัพบก ยศ พ.อ. ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ที่ทางกองทัพบกส่งให้มาอยู่ร่วมในทีมวิจัยของตนเป็นผู้จัดทำขึ้น ไม่เกี่ยวกับตน ในวันนี้ตนจึงได้นำหลักฐานมาเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับนายทหารยศ "พ.อ." ผู้นี้ ในข้อหาปลอมแปลงเอกสาร เพื่อเป็นการแสดงความบริสุทธิ์ใจเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว
รศ.ดร.วีรชัย กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 21 มี.ค.ที่ผ่านมา ตนยังได้รับหนังสือจากสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) เพื่อให้ทำการชี้แจงรายละเอียดเกี่ยวกับโครงการดังกล่าว โดยมีกำหนดการให้ทำการชี้แจงรายละเอียดก่อนวันที่ 23 มี.ค.ตนจึงตั้งข้อสังเกตว่า เหตุใดระยะเวลาในการรวบรวมหลักฐานชี้แจงข้อเท็จจริงถึงมีเวลาให้ค่อนข้างกระชั้นชิดขนาดนี้ แต่เพราะด้วยตนได้มีการรวบรวมหลักฐานไว้ก่อนหน้านี้จึงทำให้สามารถส่งรายงานชี้แจงข้อเท็จจริงกับทาง สตง.ได้ทัน อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้ในวันที่ 29 มี.ค.ตนจะทำการยื่นเรื่องให้ทาง สตง.ทำการตรวจสอบโครงการต่างๆ ของทางกองทัพบก ดูบ้าง และจะจับตาดูว่าทาง สตง.จะดำเนินการตรวจสอบโครงการต่างๆ ของทางกองทัพบก โดยใช้บรรทัดฐานเดียวกับกรณีของตนหรือไม่
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี