แหย่หนวดราชสีห์!จนท.ปลอมเป็นคนเร่ร่อนจับแก๊งกัญชาข้ามชาติขนขึ้นฝั่งหน้าจวนผู้ว่าฯ
เมื่อเวลา 09.30 น.วันที่ 27 มี.ค.61 ที่หน้าอาคารแสงสิงแก้ว กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัด(บก.ภ.จว.) นครพนม นายดำรงค์ สิริวิชย อิ่มวิเศษ รองผู้ว่าราชการจังหวัด(รอง ผวจ.) นครพนม , พ.ต.อ.พลาเดช เพ็ชรหว้าโง๊ะ รอง ผบก.ภ.จว.นครพนม , พ.อ.เถลิงศักดิ์ มูลประดับ รองเสนาธิการ มณฑลทหารบกที่ 210(มทบ.210) , พ.ต.ท.นิธิวัชร์ ดิลกพงศ์โยธิน รอง ผกก.ตม.จว.นครพนม พร้อมด้วย ร.ต.ท.นวพล ขวัญทอง รอง สว.ตำรวจน้ำ และกองกำลังสุรศักดิ์มนตรี ร่วมแถลงผลการจับกุมขบวนการค้ายาเสพติดข้ามชาติ มีผู้ต้องหา 2 คน พร้อมยาเสพติดให้โทษประเภท 5(กัญชา) โดยจับกุมได้บริเวณริมตลิ่งแม่น้ำโขง หน้าจวนผู้ว่าราชการจังหวัด(หลังเก่า) ถ.สุนทรวิจิตร เขตเทศบาลเมืองนครพนม ซึ่งเป็นพื้นที่ผู้คนพลุกพล่าน มีบ้านพักข้าราชการหลายหน่วยงาน ตั้งเรียงรายเป็นจำนวนมาก
ทั้งนี้ สืบเนื่องจากเมื่อเวลาประมาณ 18.00 น.วันที่ 25 มี.ค.61 เจ้าหน้าที่ศูนย์อำนวยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด(ศอ.ปส.) และหน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขงเขตนครพนม(นรข.) ได้รับแจ้งจากสายข่าวว่าจะมีกลุ่มนักค้ายาเสพติด ลักลอบนำกัญชาเข้ามาในประเทศไทย คาดว่าจะนำขึ้นฝั่งในเขตชุมชนของเทศบาลเมืองนครพนม
อย่างไรก็ตาม ครั้งแรกชุดจับกุมคิดว่าการข่าวคลาดเคลื่อน เพราะตลอดพื้นที่ของเทศบาลเมืองนครพนม มีบ้านเรือนชาวไทยเชื้อสายเวียดนามอยู่หนาแน่น หากจะขนขึ้นฝั่งจริงจะต้องลักลอบมากองไว้บริเวณที่ว่าง โดยเฉพาะหน้าบ้านพักข้าราชการ จึงร่วมกันวางแผนซุ่มโป่งตลอดแนวต้องสงสัย บางส่วนเป็นหน่วยเคลื่อนที่นอกเครื่องแบบ ออกตรวจพื้นที่จุดเสี่ยงริมฝั่งแม่น้ำโขง
จนกระทั่งเวลา 23.00 น. เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้ยินเสียงเครื่องยนต์เรือ แล่นมาจากฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน จึงใช้กล้องตรวจการณ์กลางคืนส่อง พบเรือต้องสงสัยดับเครื่องกลางแม่น้ำโขง เห็นชาย 3 คนภายในเรือช่วยกันพายเรือเข้าฝั่ง มาที่ท่าน้ำธรรมชาติบริเวณหน้าจวนผู้ว่าฯหลังเก่า เจ้าหน้าที่ที่ปลอมตัวเป็นชายเร่ร่อนจึงแสดงตนเข้าจับกุม
อย่างไรก็ตาม บุคคลทั้งสามทิ้งใบพายกระโจนขึ้นฝั่งวิ่งหลบหนี เจ้าหน้าที่สกัดดักจับกุมไว้ได้ 2 คน ส่วนอีกคนหนึ่งสามารถหลบหนีไปได้ ทราบชื่อผู้ต้องหาคือ ท้าวดวงใจ หรือก๊ะ ไชยนคร อายุ 27 ปี และ ท้าวสมพร หรือพอน สมสนุก อายุ 24 ปี ทั้งสองเป็นราษฎรแขวงคำม่วน สปป.ลาว ตรวจสอบบริเวณท่าน้ำพบกัญชาแห้งอัดแท่ง จำนวน 5 กระสอบ ตรวจนับได้ 209 แท่ง หรือประมาณ 209 กิโลกรัม มูลค่าประมาณ 1.6 ล้านบาท และเรือกีบ จำนวน 1 ลำ
สอบสวนเบื้องต้นผู้ต้องหาทั้งสองรับสารภาพว่า มีท้าววงว่าจ้างให้ขนกัญชามาส่งให้กับพ่อค้าชาวไทยที่บริเวณดังกล่าว ซึ่งตนทั้งสองรู้ว่าแถวนั้นเป็นแหล่งชุมชนหนาแน่น จึงบอกให้ท้าววงเปลี่ยนสถานที่ส่งเพราะเสี่ยงเกินไป แต่ท้าววงบอกว่าตรงไหนอันตรายที่สุด คือ สถานที่ปลอดภัยที่สุด ประกอบกับมีค่าจ้างสูงจึงตกลง แต่ถูกเจ้าหน้าที่สกัดจับกุมเสียก่อน ส่วนผู้ที่หลบหนีไปได้ก็คือท้าววงผู้ว่าจ้าง
ทั้งนี้ ระหว่างมีการจับกุมนั้นมีรถยนต์เก๋งคันหนึ่ง จอดติดเครื่องอยู่หน้าป้ายจวนผู้ว่าฯ ครั้นเห็นเจ้าหน้าที่กรูไปจับผู้ต้องหา รถยนต์คันดังกล่าวรีบเร่งเครื่องขับออกไปทันที ซึ่งกำลังตรวจสอบว่ามีส่วนพัวพันกับขบวนการนี้หรือไม่ ก่อนจะแจ้งข้อกล่าวหาผู้ต้องหาทั้งสองฐาน “ร่วมกันนำยาเสพติดให้โทษประเภท5 (กัญชา) เข้ามาในราชอาณาจักรไทย โดยผิดกฎหมาย” และนำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครพนม ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี